เผยแพร่: ปรับปรุง:
เส้นทางกำปั้นในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาของ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต มีโอกาสสัมผัสทั้งความสำเร็จ และความผิดหวังจากอาการป่วยอย่างไม่คาดคิด ทำให้ยอดมวยแห่งเมืองพัทลุงกำลังซุ่มฟิตซ้อมอย่างหนัก จนพร้อมเกินร้อยที่จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในศึก วัน แชมเปียนชิพ อีกครั้ง
“ซุปเปอร์บอน” ประเดิมปี 2565 ด้วยการโชว์ฟอร์มสุดยอดชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “มารัต กริกอเรียน” ผู้ท้าชิงชาวอาร์เมเนีย ในศึก ONE X เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 และเป็นการสะสางเรื่องราวที่ค้างคาใจของ “ซุปเปอร์บอน” ที่เคยแพ้น็อกคู่ปรับเก่ารายนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ลงได้ในเวลาเดียวกัน
“ในปีนี้ผมได้ป้องกันแชมป์ครั้งแรกกับ มารัต และทำผลงานได้ดีทีเดียว เพราะว่า มารัต เป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายที่ชนะผมได้ในรอบหลายปี ผมอยากล้างตาให้ได้มาตลอด ทำให้ชัยชนะจากไฟต์นี้เหมือนผมพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นอันดับ 1 ของรุ่นเฟเธอร์เวต อย่างแท้จริง เพราะความพ่ายแพ้ มารัต เป็นเรื่องที่ค้างคาใจผมมานาน ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรติดใจอีกแล้วครับ”
อย่างไรก็ตามความสำเร็จ และชื่อเสียงของ “ซุปเปอร์บอน” ในปี 2565 ต้องมาสะดุดลงจากปัญหาอาการป่วย ทำให้กำหนดการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 กับ “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” เจ้าของเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เฟต ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต้องเลื่อนยาวจนมาลงตัวในศึก ONE FIGHT NIGHT 6: ซุปเปอร์บอน vs ชิงกิซ โดยจะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงไพร์ไทม์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ตรงกับช่วงเช้า 08.00 น. วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566
นอกจากนี้ “ซุปเปอร์บอน” ยอมรับว่าการตัดสินใจเข้าสู่ศึก วัน แชมเปียนชิพ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และการได้ครองเข็มขัดแชมป์โลก ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงจนมีแฟนคลับทั่วโลก รวมทั้งต่อยอดสู่ธุรกิจส่วนตัวอื่น ๆ
“การเป็นแชมป์โลก ONE เปลี่ยนแปลงชีวิตผมเยอะมากทีเดียว ตั้งแต่ไฟต์ที่ชนะ จอร์จิโอ เปโตรเซียน คนรู้จักผมมากขึ้นหลายเท่า หลายคนมาขอถ่ายรูปเวลาผมออกไปวิ่ง, ซ้อมมวย หรืออกไปเที่ยวข้างนอก พอคนรู้จักเยอะขึ้น ผมก็มีงานเข้ามามากกว่าเดิม ทำให้มีเงินมาดูแลครอบครัว และคนใกล้ชิดมากขึ้น”
สุดท้ายกับเป้าหมายในปี 2566 “ซุปเปอร์บอน” เชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้ชนะในการเจอ “ชิงกิซ” ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 ก่อนจะลองหาความท้าทายใหม่กับการขึ้นเวทีภายใต้กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) หรือมวยไทย
“ส่วนเป้าหมายอื่น ๆ ในปีหน้าของผม อยากลองประสบการณ์ใหม่ ๆ ถ้าเป็นไปได้อาจเป็นการลองขึ้นชกในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสานหรือมวยไทย ผมอยากลองการต่อสู้ทั้ง 2 รูปแบบ และเป้าหมายอีกอันหนึ่งคงเป็นการที่ได้ค่าตัว 10 ล้านบาท ตามที่คุณชาตรี ศิษย์ยอดธง (ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE) ให้สัมภาษณ์เอาไว้ ถือเป็นเป้าหมายที่ล่อตาล่อใจที่สุดแล้ว”
แฟน ๆ กีฬาสามารถติดตามอัปเดตโปรแกรมการแข่งขันของศึก ONE FIGHT NIGHT 6 ได้ที่นี่ และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, อินสตาแกรม ONEChampTh โดยสามารถจองบัตรเข้าชมที่ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันนี้ในราคาเริ่มต้น 150 บาท รีบจองก่อน ได้ที่นั่งชัดถนัดตาก่อน คลิกที่ลิงก์นี้ bit.ly/OFN6BKK