แม้ว่าปี 2565 ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลง จนสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลก เริ่มจะขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้เกือบจนเป็นปกติ
ในส่วนของวงการกีฬาเอง แม้จะยังไม่สามารถเดินเครื่องไม่ได้เต็มที่เหมือนก่อนที่เจ้าไวรัสโควิด-19 จะเข้ามาประหน่ำ ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่ก็นั้นก็ดี “กีฬาหลัก” ที่เป็นโฟกัสของแฟนกีฬาทั่วโลก ต่างก็ขับเคลื่อนไปได้ดี
วงการกีฬาของไทยเองก็เช่นกัน ภายใต้กรอบที่จำกัด โดยเฉพาะเรื่องของ “งบประมาณ” แต่หลายชนิดกีฬา กลับทำหน้าที่ของตัวเอง ผลงานได้อย่างดีเยี่ยม สร้างรอยยิ้มและนำความสุขมาให้กับประชาชนคนไทย ได้อย่างต่อเนื่อง
หากจะให้ยกผลงานของนักกีฬาไทย ในรอบปีที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่าหลายชนิดกีฬา ทำได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว ซึ่งแฟนๆ กีฬาชาวไทย ที่เป็นเอฟซีจริงๆ ก็น่าจะประจักษ์แจ้งกันอยู่แล้ว ถ้าจะให้เขียนสรุปทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้
แต่จะขอยกตัวอย่างบางกีฬาที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงมาเป็นน้ำจิ้มย้อนความทรงจำดีๆ สักเล็กน้อยก็แล้วกัน
เบอร์ 1 ที่อยู่ในใจของคนไทย ต้องยกให้ ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทีมอันดับ 15 ของโลก ที่ทำผลงานโดดเด่นชนะใจแฟนกีฬาทั่วโลกไปแล้ว ทั้งในศึกเนชั่นส์ ลีก 2022 รอบคัดเลือก และรอบสุดท้าย เช่นเดียวกับศึกลูกยางโลก ที่พวกเธอสร้างอิมแพคจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เรียกได้ว่ากลายเป็น “ซอฟท์ เพาวเวอร์” ของประเทศไทย อย่างแท้จริง
ตามมาด้วย “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวไทย ที่คว้า 2 แชมป์ในการเล่นแอลพีจีเอทัวร์ ฤดูกาลแรก (เจทีบีซี คลาสสิค+วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปี้ยนชิพ) นอกจากนี้ตลอดปียังรักษาผลงานการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ ติด 10 อันดับแรก ถึง 16 รายการ จากทั้งหมด 26 รายการที่ลงเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมก้าวขึ้นมารั้งมือ 1 ของโลก ด้วยวัยเพียง 19 ปี 8 เดือน 11 วัน พร้อมกับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 อีกด้วย
ส่วนขาประจำอย่าง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 แม้จะพลาดแชมป์โลก 2022 สมัยที่ 3 และคว้าได้เพียงเหรียญทองแดง แต่ภาพรวม “น้องเทนนิส” ยังยืนหนึ่งเช่นกัน ตลอดทั้งปีคว้าแชมป์มาครอง 5 รายการ ประกอบด้วย สแปนิช โอเพ่น 2022, ซีเกมส์ ครั้งที่ 31, เวิลด์กรังด์ปรีซ์ สนาม 2 ที่ฝรั่งเศส, เวิลด์กรังด์ปรีซ์ สนาม 3 ที่อังกฤษ รวมถึงเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ไฟนัลส์ 2022 ที่ซาอุดิอาระเบีย
วงการมอเตอร์สปอร์ต ก็ฮือฮาไม่น้อยกับผลงานของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักแข่งรถจักรยานยนต์ รุ่นโมโตทู จากค่ายฮอนด้า ปี 2022 ลงแข่งขัน 18 สนาม เก็บได้ 128 คะแนน คว้าอันดับ 10 ของโลก ที่สำคัญคือสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์การแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ได้ที่อินโดนีเซีย
นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาอีกมากมายหลายชนิด ที่ผลงานไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ทั้งแบดมินตัน, ยกน้ำหนัก, กรีฑา, มวยสากล, สนุกเกอร์หญิง รวมถึงทีมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ที่ต่างช่วยกันนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง
ผ่านพ้นปีเก่าไป ทีนี้มาว่ากันถึงปีใหม่ 2566 ที่กำลังจะมาถึงกันบ้าง ซึ่งเมื่อกางปฏิทินการแข่งขันประจำปีแล้ว ต้องบอกว่าเป็นอีกปีที่ “ทัพไทย” มีงานระดับมหกรรมกีฬาที่ชุกไม่น้อยเลย ทั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากการไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันมาชิงชัยกันในปีนี้
ประเดิมด้วย ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 โดย “พนมเปญเกมส์ 2023” ถือเป็นซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวเขาเลยก็ว่าได้ กำหนดจัดแข่งขัน 37 ชนิดกีฬา ชิงชัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 608 เหรียญทอง ต่อด้วยศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ที่เลื่อนมาจากปีนี้ไปจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-8 ต.ค.66
ปิดท้ายด้วยศึกเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 6-17 พ.ย.66 โดยมี กรุงเทพมหานคร กับ จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองหลัก ชิงชัยทั้งหมด 35 ชนิดกีฬา กับ 2 กีฬาสาธิต ซึ่งครั้งนี้ยังมีกีฬายอดนิยมอย่าง วอลเลย์บอล กับ ยกน้ำหนัก รวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ยังมีศึกชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์ทวีปอีกด้วย ขณะเดียวกันทางสหพันธ์กีฬานานาชาติ ยังกำหนดให้เป็นปีแห่งการแข่งขันคัดเลือก หรือ ควอลิฟาย เพื่อลุ้นโควตาไปเข้าร่วมแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2024 อีกด้วย
ฉะนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นอีกปีที่ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสสำหรับนักกีฬาไทย ไม่น้อย เพราะสมาคมกีฬาต่างๆ จะต้องวางแผนในการเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาของตัวเองในการไปแข่งขันเก็บคะแนนในรายการต่างๆ เป็นอย่างดี ชนิดที่ว่าจะเกิดการผิดพลาดไม่ได้เลย
โดยเฉพาะกีฬาความหวังเหรียญรางวัลอย่าง เทควันโด, ยกน้ำหนัก, มวยสากล, แบดมินตัน และอื่นๆ ที่พร้อมจะเป็น “ม้ามมืด” เป็นตัวสอดแทรก ก็ต้องลุยต้องใส่กันอย่างเต็มที่ไปเลย
นอกจากการฝ่าฟันอุปสรรคในสังเวียนการแข่งขันแล้ว อีกประเด็นที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบโดยตรงกับ “ทัพนักกีฬาไทย” ก็คือเรื่องของเงินๆ ทองๆ หรือ “งบประมาณ”
อย่างที่เป็นข่าวมาเป็นระยะๆ ตลอดปีที่ผ่านมาก็คือสมาคมกีฬาต่างๆ ต่างประสบปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณ ในการเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกมหกรรมกีฬาที่ว่ามา อันเนื่องทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ทำงานไม่ประสานสอดคล้องกัน
ความเดือดร้อนจึงตกมาอยู่กับสมาคมกีฬาและนักกีฬาไปเต็มๆ หากลองไปเช็กดู หลายสมาคมกีฬา ไม่สามารถเบิกงบจาก “กกท.” และ “กองทุนกีฬา” ออกมาได้ มีการค้างเงินกันในระดับหลักสิบล้าน หรือเกินกว่านั้นก็มี
เรื่องนี้ร้อนถึง “นายใหญ่” ที่คุมบังเหียน “กกท.” และ “กองทุนกีฬา” โดยตรงอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ท่านสวมหมวกหลายใบ เป็นทั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, ประธานบอร์ด กกท. และประธานบอร์ด กองทุนกีฬาฯ ที่ต้องออกมาบัญชาการแบบเสียงดังฟังชัดในที่ประชุมใหญ่ครั้งล่าสุดว่า….
“ต่อจากนี้ไปให้ กกท. และกองทุนกีฬา ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาและนักกีฬา ให้ตรงกับไทม์ไลน์ในปีใหม่นี้ เพราะนักกีฬามีหน้าที่ฝึกซ้อมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เมื่อทุ่กายเทใจฝึกซ้อมมาอย่างหนักแล้วก็ต้องได้เงิน ไปแข่งขันสร้างผลงานมาแล้วต้องได้เงิน เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารจัดการ หากใคร (กกท.+กองทุนกีฬา) ทำไม่ได้ตามแผนตามนโยบายที่ผมมอบหมายให้ไป ก็ต้องไปหาคนอื่นที่ทำได้มาทำแทนทันที”
“งบประมาณ” คือ “หัวใจ” ของการพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศและอาชีพ เพื่อไปสร้างผลงานระดับเทพกลับมาสู่ประเทศไทย นำความสุขใจมาสู่คนไทย หากท่อ “น้ำเลี้ยง” ไปไม่ถึง ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตกๆ หล่นๆ ก็ยากที่นักกีฬาไทย จะประสบความสำเร็จได้ตามที่คาดหวังกันไว้
ซึ่งการที่คนระดับเฮดสูงสุดอย่าง “บิ๊กป้อม” เข้าใจหัวอกคนกีฬา รับรู้ถึงความเดือดร้อน และรีบสั่งการให้มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ก็พอจะโล่งอกโล่งใจกันได้บ้าง
ปี 2566 จึงเป็นอีกปีที่ท้าทายความสามารถของเหล่านักกีฬาไทย รวมทั้งผู้บริหารองค์กรกีฬา ทั้ง สมาคมกีฬา, กกท., กองทุนกีฬา และโอลิมปิคไทย แต่เชื่อว่าหากทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง ทำอย่างเต็มที่ ทำด้วยใจจริง พร้อมทั้งก้าวข้ามความขัดแย้ง ที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ้างระหว่างการทำงานร่วมกัน แต่ด้วยตามคำสั่งอันเด็ดขาดของ “บิ๊กป้อม” เราจึงพอจะมองเห็นอนาคตที่สดใสอยู่ปลางอุโมงค์เช่นกัน
ส่วนนักกีฬาทีมชาติไทย จะทำผลงานได้ดีมากน้อยเพียงใด คนไทยทั้งประเทศ พร้อมเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างทุกชนิดกีฬา ที่ลงสนามสู้ศึกทุกสนามแข่งขันอย่างแน่นอน
สู้ๆ ขอให้โชคดีประสบชัยชนะกันทุกคน!!!
## วอน อ่อนวงค์ ##