เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
เราจะเชื่อทฤษฎีไหนดี?
-หลุยส์ ปาสเตอร์ เชื่อว่า โรคภัยไข้เจ็บมีสาเหตุมาจากเชื้อโรค แต่…
-อังตวน บิว แชมพ์ เชื่อว่า โรคเกิดจากการที่ร่างกายอ่อนแอ
หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เป็นผู้เสนอทฤษฎีเชื้อโรค (Germ theory) ซึ่งบอกว่า โรคต่างๆเกิดจากเชื้อโรค เอโรคแต่ละชนิดก็ทำให้เกิดโรคแต่ละอย่าง… ขณะเดียวกัน นักชีววิทยาชาวฝั่งเศส ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสร่วมสมัยกับปาสเตอร์กลับมีความที่ขัดแย้งกับปาสเตอร์ เขาคือ อังตวน บิวแชมพ์ (Antoine Beuachamp) ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักเชื่อตามทฤษฎีของเขาว่า สิ่งที่เรียกว่าเชื้อโรคนั้นมีอยู่ทั่วไปทุกหนแห่งในโลก รวมทั้งในร่างกายคนและสิ่งมีชีวิตต่างๆด้วย โดยมันไม่ได้ทำให้เกิดโรคเลย แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเราอ่อนแอ เมื่อนั้นแหละจึงเกิดโรค เขามองว่า การต่อสู้กับเชื้อโรคโดยการให้วัคซีนหรือยาปฏิชีวนะนั้น เป็นไปเพื่อการแก้ไขข้อบกพร่องจนทำให้ร่างกายกับเชื้อโรคอยู่ด้วยกันได้เท่านั้นเอง ที่จริงแล้วควรป้องกันไม่ให้เป็นโรค โดยการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน ให้ถูกต้อง ซึ่งร่างกายจะเกิดมีภูมิคุ้มกันดีจนปราศจาคโรคภัยไข้เจ็บ ดังนั้นเราจะเชื่อทฤษฎีของใครดี โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่โลกกำลังเผชิญกับ COVID-19
บอกตรงๆว่า มาถึงตรงนี้ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเชื่อใครดี ระหว่างปาสเตอร์ที่เราคุ้นเคย กับ บิว แชมพ์ ที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นนัก สลับมาฟังสาระดีๆจาก อาจารย์ หมอ สันต์ ใจยอดศิลป์ กันบ้างดีกว่า จะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดีแน่ๆ แพทย์แผนจีนเชื่อว่า ร่างกายของเราเขาทำงานตามหน้าที่ของเขาอยู่แล้วโดยอาศัยอวัยวะขับพิษทั้ง 6 คือ 1ตับ 2ไต 3ปอด 4ลำไส้ใหญ่ 5ต่อมเหงื่อที่ผิวหนัง 6น้ำเหลือง ถ้าเราอยากล้างพิษ เราก็สามารถช่วยให้เขาทำงานได้ดีขึ้น ดังนี้
1ช่วยตับ โดยการกินอาหารที่ตับต้องใช้ในการขจัดพิษที่เรียกว่า สารต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง ได้แก่ พวกพืชหลากสี(เน้นสีม่วงแดง) หลากรส(เน้นรสขม) ตามฤดูกาล(เน้นเห็ด) และเน้นขมิ้นชัน นอกจากนี้ควรขยันออกแดดเพื่อให้ไมโตคอนเดรียสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชื่อเมลาโทนินขึ้นมาช่วยการทำงานของตับ
2ช่วยไต ด้วยการกินเกลือให้น้อย อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ กินยาให้น้อย เช่น ยาลดการหลั่งกรด ยาแก้อักเสบ เป็นต้น
3ช่วยปอด โดยการขยันพาตัวเองไปอยู่ในธรรมชาติที่อากาศดีๆ หายใจลึกๆยาวๆ
4ช่วยลำไส้ใหญ่ โดยขยันกินอาหารที่มีจุลินทรีย์ (Probiotic) เช่น อาหารหมักๆดองๆ ชาหมัก เป็นต้น และกินอาหาร prebiotic เช่น กากต่างๆ และถั่วต่างๆที่จุลินทรีย์ในลำไส้ชอบ เพื่อให้พวกเขาทำหน้าที่ขับพิษให้เราได้เป็นอย่างดี
5ช่วยต่อมเหงื่อบนผิวหนังของเราได้ด้วยการขยันออกกำลังให้เหงื่อออกมากๆ ขณะเดียวกันก็ดื่มน้ำตามไม่ให้ขาด ถ้ามีซาวน่าก็ขยันอบซาวน่าให้เหงื่อย้อยโทรมกายก้ช่วยได้
6ช่วยระบบน้ำเหลือง ได้ด้วยการขยันขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายโดยเดินมากๆ วิ่งเหยาะๆบ้างเมื่อมีโอกาส ทำให้ขับเคลื่อนการไหลเวียนของน้ำเหลืองเอาของเสียไปทิ้งได้
อาจารย์หมอบอกว่า ทำทั้ง 6 อย่างนี่แหละเป็นการ “ดีท็อกซ์” ที่ได้ผลดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด โดยไม่ต้องไปเสียเงินฉีดอะไรที่เสี่ยงๆเข้าตัวเองเลย