ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คนเอเชียในสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับกระแสการเกลียดชังและเหยียดสีผิว แต่ COVID-19 ได้กลายมาเป็นข้ออ้างใหม่ ที่ทำให้คนเอเชียถูกทำร้ายมากขึ้น คนไทยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเอเชียที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องปรับวิถีชีวิตให้ระมัดระวังมากขึ้น
หลังจาก “โจชัว แอรอน เฮิร์น” และ แม่ของเขา ชาวเมืองราวน์ร็อค รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ติดตามสื่อท้องถิ่นรายงานข่าว เกี่ยวกับอาชญกรรมความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับคนเอเชียถึงขั้นเสียชีวิตและบาดเจ็บรุนแรง ปฎิเสธไม่ได้ว่าพวกเขารู้สึกกังวลโดยเฉพาะ “เดโบราห์ โจนส์” เธอกลัวภรรยาของลูกชายที่เป็นคนไทยจะได้รับอันตรายจากความเกลียดชังในครั้งนี้ด้วย
ความเกลียดชังคนเอเชียเกิดขึ้นต่อเนื่องในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มุมมองของคนอเมริกันเชื่อว่า เกิดจากวาทกรรมกล่าวหาคนเอเชียเป็นต้นเหตุการแพร่เชื้อ COVID-19 และเห็นด้วยคนเอเชีย ออกมาประท้วงการเหยียดคนเอเชีย เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนอเมริกันเปลี่ยนทัศนคติไปในทางที่ดีขึ้น
ขณะที่บรรยากาศในเมืองออสติน ที่มีคนไทยอาศัยอยู่ ยังคงใช้ชีวิตปกติ เจ้าของรถฟู๊ดทรัคที่มาเปิดร้านอาหารไทย ในเมืองออสติน มานาน 30 ปี บอกว่าไม่เคยเกิดเหตุคนเอเชียถูกทำร้ายแบบนี้มาก่อน ทำให้ผู้ประกอบคนไทย ตื่นตัวเพราะต้องเจอกับคนหลากหลายเชื้อชาติ แม้จะยังไม่มีคนเอเชียถูกทำร้ายในเมืองนี้
ปัญหานี้ทำให้ยังให้กลุ่มของคนไทยในซานฟรานซิสโก สื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ ให้บุตร-หลาน ไปเรียนศิลปะป้องกันตัวเอง เช่น เทควันโด เพราะหลายคนเชื่อว่าแม้ในสหรัฐ จะพกปืนได้อย่างเสรี แต่การไม่มีทักษะก็เหมือนกับดาบสองคม สร้างความเดือดร้อนให้คนได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
1 ปี คนเอเชียถูกทำร้าย – เหยียดเชื้อชาติในสหรัฐฯ 3,700 ครั้ง