เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ถือเป็นรายการต่อสู้ที่พุ่งขึ้นสู่ความนิยมอย่างรวดเร็วในโลก สำหรับรายการ “มวยมือเปล่า” หรือ BKFC Bare Knuckle Fighting Championship ที่เอานักสู้มาสู้กันแบบมือเปล่าๆ หมัดลุ่นๆ ให้อารมณ์ดิบ เถื่อน และสะใจคอซาดิสม์ทั้งหลาย โดยเมื่อค่ำๆ วันเสาร์ที่ผ่านมา ก็มีการจัดรายการ BKFC Thailand 3 ขึ้น แถมมีการเซ็นสัญญาดึงเอานักมวยไทยระดับตำนานอย่าง “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ มาเรียกคนดูด้วย
สำหรับรายการ BKFC นี้จะสู้กันในเวทีที่กั้นเชือกเป็นวงกลม ก็ถือเป็นจุดขายที่ทำให้ต่างจากมวยทั่วๆ ไป ที่เวทีเป็นสี่เหลี่ยม หรือ MMA ที่เป็นมวยกรง 6 เหลี่ยม 8 เหลี่ยม ชกกัน 5 ยก ยกละ 2 นาที ใส่รองเท้าเหมือนมวยสากล ใช้หมัดได้อย่างเดียว แต่จุดขายสำคัญคือชกกันด้วยมือเปล่า แม้จะอนุญาตให้พันผ้าได้ แต่ให้พันได้เฉพาะบริเวณข้อมือเท่านั้น พันเลยขึ้นมาบนหลังมือได้ แต่ขอบผ้าที่พันต้องอยู่ต่ำกว่าปุ่มข้อนิ้วลงมาอย่างน้อย 1 นิ้ว เพื่อให้เวลาใช้สันหมัดชกกัน จะเป็นการเอาหมัดลุ่นๆ ซัดกันจริงๆ การชกแบบไม่สวมนวมนี้ทำให้ตื่นเต้นมากขึ้นเพราะหมัดจะหนักกว่าการสวมนวมชก และออกหมัดได้รวดเร็ว รวมทั้งการตั้งการ์ดป้องกันก็ยาก เพราะหมัดจะลอดการ์ดเข้าเป้าได้ง่ายกว่าหมัดที่สวมนวม รวมทั้งถ้าโดนจุดที่เป็นโหนกเป็นสันก็ทำให้แตกได้ทันที เรียกว่าดุเดือดเลือดพล่านสุดๆ ชกมือเปล่านั้นก็มีคำถามเรื่องความปลอดภัย แม้จะมีความพยายามอธิบายว่าการชกมือเปล่า ทำให้หมัดหนักขึ้น คนที่โดนจะโดนน็อกทันที ปลอดภัยกว่าโดนหมัดสวมนวมซ้ำๆ ก็ต้องติดตามกันไป ที่สำคัญ การสวมนวมนั้นไม่ได้ป้องกันลดแรงกระแทกต่อคู่ต่อสู้เท่านั้น แต่จริงๆ นั้นป้องกันคนชกด้วย เพราะช่วยป้องกันไม่ให้นิ้วซ้น หรืออาจถึงขั้นกระดูกนิ้วแตกได้ ก็ต้องดูเรื่องความปลอดภัยกันต่อไป
รายการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตอนแรกประกาศว่าจะใช้เวทีมวยราชดำเนินเลย แต่ก่อนชกวันเดียวก็มีการประกาศย้ายไปจัดที่เซ็นทรัลเวิร์ลด์แทน และตอนแรกก็บอกว่าไม่มีการถ่ายทอดสดออกสื่อกระแสหลัก ต้องโหลดแอพและจ่ายเงินเพื่อดูผ่านสตรีมมิ่งเท่านั้น งานนี้ก็ต้องบอกว่าทาง BKFC เดิมพันครั้งใหญ่เลยทีเดียว เพราะโดยทั่วไปแฟนมวยชาวไทยเคยชินกับการได้ดูฟรีผ่านทีวี มากกว่าที่จะต้องมาเสียเงินดูผ่านสตรีมมิ่งอยู่แล้ว ขนาดรายการใหญ่ของ One FC ออกอากาศแบบสตรีมมิ่งเก็บเงินจากแฟนมวยทั่วโลก ยังต้องเปิดให้แฟนๆ ในเมืองไทยดูฟรี ถ้าจะให้ติดตลาดก็คงต้องวางกลยุทธ์เรื่องการให้แฟนๆ เข้าถึงให้ดี เว้นแต่ถ้ามั่นใจว่าจะดึงดูดแฟนๆ รุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ก็อาจเป็นแนวทางที่ถูกต้องก็ได้ แต่สุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็มีการถ่ายทอดแห้งเอามาออกอากาศตอนดึกๆ ทางช่อง 23
พูดถึงรายการต่อสู้เมื่อวันเสาร์ ก็ถือว่าดุเดือดสมเป็น “มวยมือเปล่า” เพราะน็อกกันหลายคู่ และแตกเลือดสาดหลายคู่ คู่เอกนั้น “พี่บัว” ชกแค่นาทีเศษๆ ก็ตุ๊ยท้องคู่ต่อสู้ลงไปนอนงอก่องอขิง พูดกันตรงๆ ก็ต้องบอกว่ามาตรฐานของนักสู้รายการนี้น่าจะใกล้เคียงกับพวกเราไปชกกันเอง มากกว่าที่จะเป็นนักชกมืออาชีพ และต้องยอมรับตรงๆ ว่าภาพการต่อสู้ที่ดูดิบและเถื่อน การจะได้ใจแฟนมวยก็คงต้องใช้เวลาอีกระยะเหมือนกัน แถมในรายการ BKFC Thailand 3 ที่ผ่านมานี้ ในคู่ต้นๆ ยังมีนักสู้สาวที่ต่อยชนะน็อกแล้วแสดงความดีใจขึ้นไปยืนบนเชือกพร้อมถลกเสื้อโชว์ “จุก” ให้แฟนๆ ได้เห็นกันเต็มตา ก็เป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีกับรายการในสายตาแฟนๆ ชาวไทยเหมือนกัน “พี่ดำ” มาชกรายการนี้ก็เรียกว่าเอาชื่อเสียงนักมวยระดับตำนานของเมืองไทยมาเป็นเดิมพันเลยทีเดียว แต่อย่างที่บอกว่ารายการนี้พุ่งขึ้นมาได้รับความนิยมอย่างสูงสุดๆ ในต่างประเทศ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะได้รับการยอมรับจากแฟนมวยชาวไทยมากน้อยแค่ไหน