ซูโม่คือกีฬาประจำชาติของญี่ปุ่น นักซูโม่ทุกคนคือกลุ่มบุคคลพิเศษที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง
แต่กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักซูโม่ หรือการสร้างนักซูโม่สักคน เป็นเรื่องยากมหาศาล ต้องใช้พลัง และความทุ่มเทอย่างหนัก
ไม่ใช่เฉพาะตัวนักซูโม่เท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินกว่าเราจะจินตนาการได้กว่าจะมาถึงจุดที่ทุกคนมองเห็น
วันนี้ เรามีเรื่องราวของเด็กน้อยวัยเพียง 10 ขวบคนหนึ่งมาฝากกัน
เขาได้รับการจับตามองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักซูโม่ระดับซูเปอร์สตาร์ เพราะทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัว
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เขาและครอบครัวต้องฝ่าและใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายที่น้อยคนจะไปถึง
เด็กน้อยคนนี้ชื่อ เคียวตะ คูมากาอิ
ในวัย 10 ขวบ เคียวตะ มีน้ำหนักตัวถึง 85 กิโลกรัม
เขาตัวใหญ่กว่าเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกันถึง 2 เท่า และเอาชนะนักกีฬาที่อายุมากกว่า 5-6 ปีได้สบายๆ
แต่น้ำหนักตัว ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ เคียวตะ เหนือกว่าคนอื่น
เขาฝึกฝนอย่างหนักราวกับอยู่ในค่ายทหารมาตั้งแต่เล็ก ภายใต้การวางแผน และควบคุมอย่างใกล้ชิดของ ไทสึเกะ คุณพ่อของเขา
เคียวตะ ต้องซ้อมสัปดาห์ละ 6 วัน ทั้งที่ซูโม่คลับใกล้บ้าน และที่ฟิตเนส ที่เขาต้องไปยกน้ำหนัก
เขาต้องว่ายน้ำ และซ้อมกรีฑา ทั้งประเภทลู่และลาน เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่น และเพิ่มความรวดเร็ว ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักซูโม่
เคียวตะ เริ่มเข้าโปรแกรมนี้ ตั้งแต่ ไทสึเกะ ส่งเขาลงแข่งขันรายการแรกตอนอนุบาล
ปัจจุบัน เคียวตะ เป็นแชมป์โลกซูโม่ ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี
โดยเอาชนะนักกีฬาจากสหราชอาณาจักร และยูเครน ได้ ในการแข่งขัน เมื่อปีที่แล้ว
แต่ เคียวตะ เป็นเด็กไม่ค่อยพูด และความมุ่งมั่นของเขาก็ง่ายมาก
นั่นเอาเอาชนะทุกคนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน จะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ตาม
หลังจากตระหนักทราบแน่ชัดแล้วว่า เคียวตะ มีพรสวรรค์ ไทสึเกะ ก็ตัดสินใจทุ่มเททั้งชีวิตเช่นกัน
เขาย้ายครอบครัวไปอยู่แถบฟูคูกาวะ ในโตเกียว เพราะที่นี่มีชื่อเสียงในการผลิตนักซูโม่ที่มีคุณภาพ และเต็มไปด้วยสโมสรซูโม่ชั้นนำ
ว่ากันว่า ที่นี่มี “เทพเจ้าของซูโม่” ประทับอยู่
มันจึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด สำหรับการ “ปั้น” นักซูโม่สักคน
ไทสึเกะ เคี่ยวเข็ญ เคียวตะ อย่างหนัก จนบ่อยครั้ง เด็กน้อยหายใจไม่ออก และร้องไห้
แต่เขาเชื่อว่า นี่คือวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะเค้นสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากตัวของลูกชายได้
และแน่นอนที่สุด มันจะต้องอาศัยความทุ่มเทจาก มากิโกะ คุณแม่ ที่จะคอยดูแลเรื่องอาหารการกินด้วย
ในทุกวัน เคียวตะ จะต้องรับประทานอาหารเข้าร่างกายให้ได้ถึงวันละ 2,700-4,000 แคลอรี
ต้องดื่มนมมากกว่า 1 ลิตร และต้องกินโปรตีนเสริมอีกมากมาย
“สเต็ก” คืออาหารโปรดของเขา
ไทสึเกะ บอกว่า เคียวตะ จำเป็นจะต้องมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 กิโลกรัม ก่อนจะเข้าเรียนชั้นมัธยมต้น ในอีก 2 ปีข้างหน้า
ถ้าหากทำได้ เคียวตะ จะกลายเป็นนักซูโม่ที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุด
และมีโอกาสจะก้าวไปถึงขั้นที่เรียกว่า “โยโกซึนะ” ซึ่งเป็นระดับชั้นสูงสุดของซูโม่
แต่ เคียวตะ ยอมรับ และรู้ดีว่า กว่าจะไปถึงจุดนั้น จะต้องผ่านอะไรโหดๆอีกมากมาย
ซึ่งกับเด็กอายุเพียง 10 ขวบ เขาเคยท้อแท้ และเหนื่อย จนเกือบจะถอดใจหลายครั้ง
แต่ก็มีเพียงความฝันของตัวเอง และความทุ่มเมหมดหน้าตักของครอบครัวเท่านั้นที่ทำให้เขายังสู้ต่อ
สู้ต่อไป เจ้าหนูเคียวตะ !
– กัปตันเจมี –
ติดตามคลิปของ เคียวตะ ได้ที่นี่…