Thailand Sport Magazine Sponsored

REVIEW | รีวิว HUAWEI Band 6 สายรัดข้อมืออัจฉริยะจอใหญ่ แบตอึด พร้อมฟีเจอร์วัดค่าออกซิเจนในเลือด SpO2 – Droidsans

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

HUAWEI Band 6 สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่มากับฟีเจอร์เอาใจคนรักสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ real-time, ฟีเจอร์วัดค่าออกซิเจนในเลือด SpO2 (ที่หลาย ๆ คนอยากได้กันอยู่ในช่วงนี้), โหมดออกกำลังกายมากมาย และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกเพียบ โดยเปิดตัวในบ้านเรามาในราคาไม่แรง แค่ 1,899 บาท เท่านั้น แต่รับรองว่าคุ้มค่าด้วยฟีเจอร์ที่อัดแน่นจริง ๆ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าจากการใช้งานจริงเนี่ย เจ้า HUAWEI Band 6 เป็นยังไงบ้างครับ

ดีไซน์เรียบหรูดูดี

HUAWEI Band 6 มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างไปจาก HUAWEI Band 4 Series เล็กน้อย (ข้ามรุ่น Band 5 มาเป็น 6 เลย) ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 1.47 นิ้ว จากรุ่นที่แล้วที่มีหน้าจอขนาดแค่ 0.95 นิ้ว และมีขอบจอแบบโค้ง 2.5D เพิ่มความหรูหราซู่ซ่า

เฟรมเครื่องทำจากวัสดุประเภทโพลีเมอร์พื้นผิวแบบขัดมันสไตล์ Metallic ขอบเครื่องด้านขวามีปุ่มสำหรับเข้าโหมดต่าง ๆ 1 ปุ่ม น้ำหนักของ HUAWEI Band 6 อยู่ที่ 18 กรัมเท่านั้น ซึ่งเบามาก ๆ จนบางทีก็ลืมไปว่าใส่อยู่ที่ข้อมือ

สายเป็นซิลิโคนยืดหยุ่นแต่แข็งแรง ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย

วิธีถอดสายก็แค่งัดตัวล็อคด้านล่างออกมา และดันสายขึ้นไปทางด้านบนก็ออกมาได้ง่าย ๆ เลยครับ

เอาเล็บงัดตรงนี้ออกมา (ระวังเล็บหักนะจ๊ะ)

หน้าปัดนาฬิกายังมีให้เลือกเปลี่ยนได้หลากหลายสไตล์เป็นร้อย ๆ แบบ แถมยังเปลี่ยนได้ฟรีอีกต่างหาก โดยเข้าไปโหลดเปลี่ยนกันได้ในแอป HUAWEI Health ครับ

หน้าปัดหลายร้อยแบบให้ได้เลือกเปลี่ยนไม่ซ้ำ

หน้าจอ AMOLED ใหญ่เต็มตา

หน้าปัด หรือหน้าจอของ HUAWEI Band 6 ยังคงใช้พาเนลประเภท AMOLED อยู่เหมือนรุ่นที่แล้ว โดยหน้าจอแบบนี้จะให้สีสันที่สดใสและสว่างจนใช้กลางแดดได้สบาย ๆ โดยจากการทดสอบมีความสว่างให้ปรับทั้งหมด 5 ระดับ ถ้าอยู่กลางแจ้งจะปรับไว้ซัก 4 ก็เห็นได้ชัดแล้ว แต่มีจุดสังเกตคือดันไม่มีระบบปรับแสงสว่างอัตโนมัติมาให้ด้วย ทำให้ต้องคอยเปลี่ยนระดับแสงเอาเอง

ความสว่างระดับ 5 เห็นชัดแจ๋วกลางแดด

ระบบสัมผัสค่อนข้างลื่นติดนิ้ว ตั้งแต่ใช้มายังไม่เจออาการหน่วงจากการไถหน้าจอใด ๆ และปุ่มต่าง ๆ บนหน้าจอก็กดได้ง่ายดี เพราะอานิสงส์จากขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง

มาตรฐาน 5ATM

HUAWEI Band 6 ได้รับมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM ทำให้มันสามารถลงน้ำจืดได้ลึกถึง 50 เมตร ทำให้เราใส่ว่ายน้ำเพื่อวัดการเต้นหัวใจหรือระยะทางได้แบบไม่มีปัญหาเลย

เชื่อมต่อกับมือถือผ่าน HUAWEI Health

ก่อนหารใช้งาน HUAWEI Band 6 จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับแอป HUAWEI Health ซะก่อน เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดนะครับ โดยแอปจะรองรับมือถือระบบ Android 6 ขึ้นไป และ iPhone ระบบ iOS 12 ขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีบางฟีเจอร์ที่จะรองรับการใช้งานกับ EMUI 8.1 ขึ้นไปเท่านั้นด้วย

โหมดออกกำลังกายเพียบ เกือบ 100 แบบ

รับรองว่าถูกใจคนชอบออกกำลังกายแน่นอน เพราะ HUAWEI Band 6 มากับโหมดออกกำลังมากถึง 96 โหมด โดยโหมดเบสิคอย่างการวิ่งบนลู่, วิ่งกลางแจ้ง, เดิน, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ จะมีอยู่ในเมนู Workout อยู่แล้ว

แต่ถ้าใครอยากเล่นกีฬานอกเหนือจากนั้นให้เข้าไปที่เมนู Widgets ด้านล่างสุดในหน้า Workout จากนั้นกดเครื่องหมาย + เพื่อเลือกการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ เพื่อเอาไปวางไว้ที่หน้า Workout ได้เลยมีทั้ง โยคะ, Pilates, ต่อยมวย, เทควันโด้, ฟันดาบ, เต้น และอื่น ๆ อีกเพียบบบบ

สำหรับการออกกำลังประเภทวิ่ง, เดิน, ปั่นจักรยาน หรืออื่น ๆ ที่ต้องอาศัยการวัดระยะทางด้วย จะต้องเชื่อมต่อกับ GPS ผ่านทางมือถือด้วยนะครับ มันถึงจะคำนวณระยะทางได้

ซึ่งจากการทดสอบตีปิงปองเป็นเวลาประมาณ 13 นาที ก็จะได้ค่าต่าง ๆ ออกมาตามนี้ ว่าในช่วงเวลาที่ออกกำลังทั้งหมด หัวใจเราเต้นแรงตอนไหนบ้าง และมีช่วงวอร์มอัป ช่วงเผาผลาญ และอื่นๆ แบ่งออกเป็นกี่นาทีครับ

เซ็นเซอร์วัดชีพจรแบบ real-time

ฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจของ HUAWEI Band 6 สามารถวัดแบบ real-time ได้เลยโดยปัดที่หน้าจอไปทางซ้าย 1 ที ก็จะพบกับหน้าจอของฟีเจอร์ดังกล่าว ที่จะบอกอัตราการเต้นทั้งตัวเลข bpm (beats per minute) และยังมีบอกเป็นกราฟให้ดูในแต่ละช่วงเวลาด้วย ส่วนตัวเลขด้านล่าง rhr (resting heart rate) คืออัตราการเต้นหัวใจตอนที่เราพักผ่อนอยู่เฉย ๆ

วัดค่าออกซิเจนในเลือด SpO2

หนึ่งในฟีเจอร์ที่หลาย ๆ คนถามหากันในช่วงเวลานี้ก็คือการวัดค่าออกซิเจนในเลือด ซึ่งสามารถบอกในเบื้องต้นได้ว่าเรามีปัญหาสุขภาพอยู่รึเปล่า แถมยังใช้บอกคร่าว ๆ ได้ว่าเราอาจมีความเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 อยู่ก็เป็นได้ โดยคนปกติทั่วไปเวลาที่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ออกแรงทำอะไรค่าออกซิเจนในเลือดควรอยู่ที่ 95 – 99% ยกเว้นเวลาออกกำลังกายถึงจะหล่นลงมาอยู่ที่ประมาณ 88% ซึ่งหากค่าออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน แสดงว่าร่างกายรับออกซิเจนไม่เพียงพออาจจะเป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆ ได้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเราเป็นอะไรจริงหรือไม่ครับ

วิธีการใช้ฟีเจอร์นี้ก็ง่าย ๆ แค่กดปุ่มด้านข้างเข้าไป เลือกเมนู SpO2 จากนั้นกด Measure เพื่อเริ่มวัดค่าได้เลย (ระหว่างวัดค่าควรนั่งอยู่เฉย ๆ นะครับ) รอซักแป๊บเดียวประมาณ 10 กว่าวินาที ก็จะได้ค่าออกซิเจนในเลือดออกมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ค่า SpO2 ที่วัดได้จาก HUAWEI Band 6 อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับการวัดค่าออกซิเจนโดยเฉพาะก็ได้นะครับ เพราะฉะนั้นใครที่มีโอกาสก็ลองเอาไปค่าที่ได้จาก HUAWEI Band 6 ไปเทียบกับอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกที เพื่อดูว่ามีความคลาดเคลื่อนมากน้อยแค่ไหน สำหรับใช้ในการอ้างอิงคราวหลังครับ

ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

ถ้าใครต้องการตรวจสอบคุณภาพการนอนของตัวก็จะต้องใส่ HUAWEI Band 6 ตอนนอนด้วยนะ แล้วพอตื่นเช้ามาก็สามารถกดดูคุณภาพการนอนของเราเองได้จากตัว Band เลยว่าเมื่อคืนหลับไปกี่ชั่วโมง ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง

แต่หากต้องการดูให้ละเอียดกว่านั้นก็ต้องดูผ่านหน้าแอป Health ที่จะบอกหมดเลยว่าเราหลับลึกกี่ชั่วโมง, หลับตื้นกี่ชั่วโมง, มีช่วง REM (หลับแบบลูกตากรอกไปมาอย่างรวดเร็ว) กี่ชั่วโมง, สะดุ้งตื่นกี่ครั้ง รวมถึงระหว่างนอนมีคุณภาพการหายใจเป็นยังไงบ้าง และมีการให้คะแนนตุณภาพการนอนในแต่ละคืนอีกด้วย จะได้เอามาเทียบกันได้ว่าแต่ละคืนเรานอนหลับดีแค่ไหน

การวัดความเครียด

ฟีเจอร์วัดความเครียดก็จะอาศัยการวัดค่าจากอัตราการเต้นของหัวใจด้วย โดยก่อนที่จะวัดค่าดังกล่าว จะต้องทำแบบสอบถามกันซักหน่อยก่อน ประมาณว่าช่วงนี้กำลังใจจดใจจ่อกับอะไรอยู่หรือไม่, เวลามีปัญหา ยังมองโลกในแง่ดีได้หรือไม่ ฯลฯ

แบบสอบถามก่อนการวัดความเครียด (ซ้าย) ผลการวัดความเครียด (ขวา)

เมื่อตอบแบบสอบถามหมดแล้วก็เริ่มกดทดสอบ Stress test ได้จากตัว Band หรือจากแอปมือถือก็ได้ โดยเราจะต้องอยู่นิ่ง ๆ ประมาณ 1 นาที ก็จะได้ระดับความเครียดของเราออกมาเป็นตัวเลข

ฟีเจอร์อื่น ๆ

ควบคุมแอปเล่นเพลง

ฟีเจอร์ควบคุมแอปเล่นเพลงจากมือถือบนหน้าจอของ HUAWEI Band 6 จะใช้ได้เฉพาะกับมือถือระบบ Android เท่านั้น โดยจากหน้าจอแรกให้ปัดไปทางซ้าย 4 ครั้ง ก็จะเจอกับหน้าควบคุมเพลงแล้ว โดยควบคุมได้แค่เล่นเพลง, หยุดเพลง และเลื่อนเพลงเท่านั้น ส่วนแอปที่ทดสอบมี Spotify และ YT Music ใช้ได้ปกติครับ

Remote Camera Shutter

ส่วนฟีเจอร์ใช้กดชัตเตอร์ระยะไกลสำหรับกล้องมือถือนี้ น่าเสียดายที่มันใช้ได้กับเฉพาะมือถือ HUAWEI หรือ Honor ที่ใช้ระบบ EMUI 8.1 ขึ้นไปเท่านั้นครับ

ค้นหาอุปกรณ์

ฟีเจอร์ค้นหาอุปกรณ์นี้ หากว่าเราหามือถือไม่เจอ ก็ให้กดปุ่มบนตัว Band แล้วเลื่อนลงไปด้านล่างสุดเพื่อเข้าฟีเจอร์ Find Phone พอกดปุ๊บ ก็จะมีเสียง “I’m Here” เล่นขึ้นมาจากลำโพงมือถือที่เราจับคู่เอาไว้ จนกว่าเราจะกดหยุดจากหน้าจอ Band หรือเวลาผ่านไปแล้ว 15 วินาที ซึ่งการค้นหาอุปกรณ์แบบนี้จะต้องอยู่ในระยะที่มือถือและ Band เชื่อมต่อกันผ่าน Bluetooth อยู่เท่านั้นนะครับ

แบตเตอรี่อึด

แบตเตอรี่ของ HUAWEI Band 6 เคลมว่าสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน ภายใต้เงื่อนไข เปิดเซ็นเซอร์วัดชีพจรและตรวจจับการนอนตลอดเวลา, เปิดหน้าจอดูสั้น ๆ 200 ครั้ง (ใน 14 วัน), มีข้อความเข้า 50 ครั้ง, สายเข้า 6 ครั้ง, แจ้งเตือนวันละ 3 ครั้ง, ใช้ออกกำลังสัปดาห์ละ 30 นาที

ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้ทดสอบจริงว่ามันอยู่ได้ถึง 14 วันหรือเปล่า แต่จากการใช้งานจริงที่เปิดความสว่างหน้าจอไว้ที่ระดับ 4, เปิดเซ็นเซอร์หมดทุกอย่าง, ใส่นอน, ใส่ออกกำลังบ้าง, มีข้อความ และแจ้งเตือนจากแอปต่าง ๆ เข้าวันละหลายรอบ พบว่าผ่านไป 6 วันเต็ม ๆ แบตเตอรี่ยังเหลืออยู่ถึง 57% คาดว่าเอาจริง ๆ น่าจะลากได้ 14 วันตามที่เคลมหรือไม่ก็เกือบ ๆ ล่ะ

นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไว หากรีบ ๆ ต้องออกไปธุระแล้วแบตเตอรี่เกิดหมดขึ้นมา แค่เสียบชาร์จไว้ซัก 5 นาที ก็ใช้งานต่อได้ถึง 2 วันเลยทีเดียว

สรุป

ข้อดี

  • หน้าจอสวยและใหญ่ดูข้อมูลถนัดไม่ต้องเพ่งมาก
  • หน้าจอสว่างสู้แสงได้ดี
  • ตัวเครื่องเบามาก
  • ดีไซน์เรียบหรูดูดี
  • โหมดออกกำลังกายเยอะมาก
  • กันน้ำ 5ATM
  • ตรวจจับก้าวเดินแม่นยำ
  • แบตเตอรี่อึดจริง
  • วัดการเต้นของหัวใจแบบ real-time
  • วัดค่า SpO2 ได้
  • ราคาไม่แรงมาก (1,899 บาท)

ข้อสังเกต

  • หน้าจอไม่มีระบบปรับแสงตามสภาพแวดล้อม
  • ไม่มีโหมดตั้งเวลาปิดเซ็นเซอร์หน้าจออัตโนมัติเวลายกแขน (เวลานอนพลิกไปมาแล้วหน้าจอติดแสงแยงตา)
  • ฟีเจอร์ Remote Camera Shutter จำกัดเฉพาะอุปกรณ์ระบบ EMUI 8.1

นับว่า HUAWEI Band 6 เป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ให้ฟีเจอร์สำหรับดูแลสุขภาพมาได้แบบจัดเต็มจริง ๆ แถมยังมีฟีเจอร์วัดออกซิเจน SpO2 มาให้ใช้ในสถานการณ์แบบนี้อีกต่างหาก และด้วยค่าตัวที่ไม่ถึง 2,000 บาท ทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีกครับ

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.