รีวิว Huawei Band 6 สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาสานต่อสมาร์ทแบนด์รุ่นก่อนๆ โดยนำเอาดีไซน์ Huawei Watch Fit มาปรับขนาดให้เล็กลง แต่ก็ใหญ่กว่าสมาร์ทแบนด์รุ่นก่อนอย่าง Huawei Band 4 อีกทั้งยังใช้จอแสดงผลที่สีสวยงามกว่า พร้อมอัพเกรดฟังก์ชั่นการใช้งานให้ทันต่อยุค ทันต่อเหตุการณ์ด้วยเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด มาแกะกล่องดูกันว่ารุ่นนี้มีอะไรให้ใช้งานบ้าง
แกะกล่อง รีวิว Huawei Band 6
ที่ด้านหน้ากล่องของสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้จะเป็นสีเดียวกับสมาร์ทแบนด์ในกล่อง โดยรุ่นที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Sakura Pink และส่วนที่ด้านหลังก็มีจุดเด่นของสมาร์ทแบนด์บอกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือดตลอด 24 ชม., หน้าจอขนาดใหญ่ 1.47 นิ้ว, รองรับโหมดการออกกำลังกาย 96 แบบ, ระบบชาร์จเร็ว, กันน้ำลึก 5 ATM เป็นต้น มาแกะกล่องดูอุปกรณ์ภายในกันเลยครับ
- Huawei Band 6 สี Sakura Pink
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB
- คู่มือการใช้งาน
จะเป็นว่าในกล่องมีเพียงสายชาร์จแบตเตอรี่มาเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นสายชาร์จแบบ USB-A ที่สามารถเสียบชาร์จได้กับอแดปเตอร์สมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น หรือจะเสียบเข้ากับ USB คอมพิวเตอร์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ก็ได้เช่นกัน การเสียบชาร์จจะมีแม่เหล็กดูดให้แป้นชาร์จติดกันพอดี แต่หากเสียบผิดด้าน แม่เหล็กจะผลักไม่ให้ชาร์จ
Huawei Band6 จอแสดงผลมีขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD 194 x 368 พิกเซล ตัวเรือนและหน้าจอแสดงผลโค้งรับกับข้อมือ ใช้จอภาพแบบ AMOLED ให้สีสันสวยงาม สู้แดดได้ดี มองเห็นได้ชัดเจนเมื่ออยู่กลางแจ้ง
ที่ด้านข้างขวามีเพียงปุ่มเปิดปิดเครื่อง และยังทำหน้าที่เป็นปุ่ม Home อีกด้วย
ด้านหลังของตัวเรือนมี Heart rate sensor และ SpO2 Sensor แบบ Optical ซึ่งจะปล่อยแสงสีเขียว และสีแดงออกมาตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนบนผิวหนัง มีพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่
สายนาฬิกาสี Sakura Pink วัสดุเป็นซิลิโคนเคลือบ UV น้ำหนักเบา ไม่ระคายผิว สวมใส่ได้สบายแม้กระทั่งตอนนอนหลับ
สายนาฬิกาจะมีสลักยืดสายนาฬิกาเอาไว้ จะต้องใช้เหล็กแหลมจิ้มเข้าไปที่ร่องแล้วงัดสลักขึ้นมา สามารถถอดเปลี่ยนเองได้อย่างง่ายดาย และในช่วงโปรโมชั่นก็มีสายนาฬิกาแถมมาให้ด้วย ถอดเปลี่ยนได้ตามสไล์การแต่งตัวได้เลย
ใช้งานร่วมกับแอพฯ Huawei Health ได้ทั้ง Android และ iOS
หลังจากชาร์จแบตเตอรี่เตรียมใช้งานเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นตอนการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Huawei Health รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android ทุกแบรนด์ ไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟน Huawei และยังรองรับระบบปฏิบัติการ iOS ด้วย เมื่อติดตั้งแอพฯเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เปิดสมาร์ทแบนด์แล้วเลือกเพิ่มอุปกรณ์ จากนั้นทำตามขั้นตอนเพียงไม่กี่อึดใจก็เชื่อมต่อสำเร็จพร้อมใช้งาน
สำหรับการปรับเปลี่ยน ดาวน์โหลด Watch Faces ใหม่ๆ สามารถทำได้จากแอพฯ Huawei Health มีให้เลือกดาวน์โหลดมากถึงร้อยกว่าแบบ มีทั้งแบบเข็ม แบบตัวเลข และเป็นภาพกราฟฟิคแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้ภาพถ่ายจากกล้องของเรามาเป็นภาพพื้นหลังหน้าปัดนาฬิกาได้ด้วย
วัดระดับออกซิเจนในเลือด ความเครียด ตรวจจับการนอน อัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชม.
ฟีเจอร์เด่นของสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้คือการวัดระดับออกซิเจนในเลือด หรือค่า SpO2 ซึ่งสามารถวัดอัตโนมัติตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์วัดความเครียด และฟีเจอร์ช่วยฝึกให้เราหายใจเป็นจังหวะ ช่วยให้เราได้รับออกซิเจนได้เต็มปอด อีกทั้งยังช่วยให้เราผ่อนคลายอีกด้วย
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการตรวจวัดว่าการนอนเราเป็นอย่างไรก็สามารถสวมใส่ Huawei Band 6 ระหว่างนอนได้ โดยสมาร์ทแบนด์จะทำการตรวจจับอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เริ่มนอนหลับไปจนถึงตื่น ข้อมูลที่ได้สามารถดูได้จากหน้าจอสมาร์ทแบนด์ หรือดูได้จากแอพฯ Huawei Health ที่จะบอกค่าละเอียดกว่า สามารถตรวจจับการนอนได้ 3 ระดับคือ REM Sleep, Light Sleep และ Deep Sleep โดยระบบจะให้คะแนนการนอนหลับ ซึ่งจะช่วยให้เราทราบถึงคุณภาพการนอนของเรา หากต้องการคะแนนมากก็จะต้องรีบเข้านอนเพื่อให้ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถคำนวนรอบเดือนของคุณผู้หญิงได้อีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการตรวจับการเดิน การวิ่ง การออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจ สมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ก็มีคุณสมบัติตรวจจับที่ว่ามาทั้งหมด ซึ่งระบบจะตรวจจับข้อมูลต่างๆ บนข้อมือของเราตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์การใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เคลื่อนที่ หรือออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น และตัวสมาร์ทวอชยังมีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวที่จช่วยเตือนเมื่อนั่งอยู่กับที่นานเกินไป เป็นตัวช่วยเตือนให้เราลุกออกมาเดิน ผ่อนคลาย ออกมาสูดอากาศก่อนกลับเข้าไปนั่งทำงานต่อไป
รองรับการออกกำลังกายสูงสุด 96 โปรแกรม
ในด้านการออกกำลังกาย Huawei Band6 ก็ยังรองรับการออกกำลังกายในแบบต่างๆ มากถึง 96 แบบ ไม่ว่าจะเป็นเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, โยคะ, เทควันโด, ต่อยมวย, เตะบอล, เต้นบัลเลต์ หรือแม้กระทั่งบันจี้จั๊มก็สามารถตรวจจับการออกกำลังกายได้ แต่การออกกำลังกายการแจ้งอาจจะต้องพกสมาร์ทโฟนไปด้วย เพราะ Huawei Band 6 ต้องอาศัย GPS ระบุตำแหน่งจากสมาร์ทโฟน เพราะรุ่นนี้ไม่มีภาครับสัญญาณ GPS
สำหรับการออกกำลังกาย สมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ก็ยังมี Heart rate sensor ที่ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมทั้งบอก Zone การเต้นของหัวใจบนหน้าจอ ช่วยให้เราไม่หักโหมจนหัวใจเต้นเร็วจนเกินไป ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมระบบชาร์จเร็ว 10 นาทีเต็ม 35%
จุดเด่นของ Huawei ทั้งสมาร์ทวอช และสมาร์ทแบนด์คือการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ และอย่าง Huawei Band6 รุ่นนี้ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วัน แต่จากการทดสอบใช้งานจริงพบว่าใน 1 วันจะใช้แบตเตอรี่ประมาณ 10% เท่านั้น โดยสามารถใช้งานได้ประมาณ 10 วัน ซึ่งก็ถือว่าใช้งานได้นานอยู่ดี และสำหรับการชาร์จก็ทำได้อย่างรวดเร็ว โดยจากการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่เหลือ 5% เพียง 10 นาทีก็ชาร์ไปได้ถึง 40% นั่นก็หมายความว่าเพียง 10 นาทีก็ชาร์จแบตได้ถึง 35% เลยทีเดียว และหากชาร์จจนเต็มก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
สรุป รีวิว Huawei Band 6 จากความเห็นของ What Phone
Huawei Band6 สมาร์ทแบนด์ที่รองรับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบพื้นฐาน แต่ก็ยังใส่ฟีเจอร์เจ๋งๆ อย่างการวัดระดับออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 มาให้เหมือนกับสมาร์ทวอชราคาแพง ใช้งานง่าย ดีไซน์สวย จอแสดงผลสีสันสดใส ราคาไม่แพง ใช้งานได้ยาวนาน 14 วัน รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น โดยรวมแล้วถือว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่ราคาคุ้มสุดๆ เปิดตัวในราคา 1,899 บาท แต่ในช่วงเปิดจองถึงวันที่ 5 พค. นี้สามารถจองได้ในราคา 1,499 บาทเท่านั้น และยังแถมสายซิลิโคนเพิ่มให้อีก 1 เส้น สามารถจองผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง HUAWEI Online Store, JD Central, Lazada, Shopee และที่ HUAWEI High-End Experience Store สาขาสยามพารากอน
สรุปสเป็ค
- ขนาด 46 มม. x 25.4 มม. x 10.99 มม. น้ำหนัก 18 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 1.47 นิ้วแบบสัมผัส ความละเอียด 194 x 368 พิกเซล
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 BLE
- เซ็นเซอร์ Accelerometer sensor, Gyroscope sensor, Optical heart rate sensor
- กันน้ำลึก 50 เมตร (5 ATM)
- แบตเตอรี่ 180 mAh
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 10 วัน
- รองรับการใช้งานทั้ง Android 6.0 และ iOS 9.0
- ราคา 1,899 บาท
- มีให้เลือก 2 สี Dark Grey, Gold
- สายมีให้เลือก 3 สี Graphite Black, Sakura Pink, Forest Green
ร่วมแสดงความคิดเห็น
ความเห็น
>