Thailand Sport Magazine Sponsored

เปิดประตูสู่ปีเถาะ 2566 “ทัพไทย” สู้ศึกหนักงานใหญ่กีฬาโลก | เดลินิวส์

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

แม้ว่าปี 2565 ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลง จนสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลก เริ่มจะขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้เกือบจนเป็นปกติ

ในส่วนของวงการกีฬาเอง แม้จะยังไม่สามารถเดินเครื่องไม่ได้เต็มที่เหมือนก่อนที่เจ้าไวรัสโควิด-19 จะเข้ามาประหน่ำ ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่ก็นั้นก็ดี “กีฬาหลัก” ที่เป็นโฟกัสของแฟนกีฬาทั่วโลก ต่างก็ขับเคลื่อนไปได้ดี

วงการกีฬาของไทยเองก็เช่นกัน ภายใต้กรอบที่จำกัด โดยเฉพาะเรื่องของ “งบประมาณ” แต่หลายชนิดกีฬา กลับทำหน้าที่ของตัวเอง ผลงานได้อย่างดีเยี่ยม สร้างรอยยิ้มและนำความสุขมาให้กับประชาชนคนไทย ได้อย่างต่อเนื่อง

หากจะให้ยกผลงานของนักกีฬาไทย ในรอบปีที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่าหลายชนิดกีฬา ทำได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว ซึ่งแฟนๆ กีฬาชาวไทย ที่เป็นเอฟซีจริงๆ ก็น่าจะประจักษ์แจ้งกันอยู่แล้ว ถ้าจะให้เขียนสรุปทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้

แต่จะขอยกตัวอย่างบางกีฬาที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงมาเป็นน้ำจิ้มย้อนความทรงจำดีๆ สักเล็กน้อยก็แล้วกัน

เบอร์ 1 ที่อยู่ในใจของคนไทย ต้องยกให้ ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทีมอันดับ 15 ของโลก ที่ทำผลงานโดดเด่นชนะใจแฟนกีฬาทั่วโลกไปแล้ว ทั้งในศึกเนชั่นส์ ลีก 2022 รอบคัดเลือก และรอบสุดท้าย เช่นเดียวกับศึกลูกยางโลก ที่พวกเธอสร้างอิมแพคจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เรียกได้ว่ากลายเป็น “ซอฟท์ เพาวเวอร์” ของประเทศไทย อย่างแท้จริง

ตามมาด้วย “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวไทย ที่คว้า 2 แชมป์ในการเล่นแอลพีจีเอทัวร์ ฤดูกาลแรก (เจทีบีซี คลาสสิค+วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปี้ยนชิพ) นอกจากนี้ตลอดปียังรักษาผลงานการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ ติด 10 อันดับแรก ถึง 16 รายการ จากทั้งหมด 26 รายการที่ลงเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมก้าวขึ้นมารั้งมือ 1 ของโลก ด้วยวัยเพียง 19 ปี 8 เดือน 11 วัน พร้อมกับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 อีกด้วย

ส่วนขาประจำอย่าง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 แม้จะพลาดแชมป์โลก 2022 สมัยที่ 3 และคว้าได้เพียงเหรียญทองแดง แต่ภาพรวม “น้องเทนนิส” ยังยืนหนึ่งเช่นกัน ตลอดทั้งปีคว้าแชมป์มาครอง 5 รายการ ประกอบด้วย สแปนิช โอเพ่น 2022, ซีเกมส์ ครั้งที่ 31, เวิลด์กรังด์ปรีซ์ สนาม 2 ที่ฝรั่งเศส, เวิลด์กรังด์ปรีซ์ สนาม 3 ที่อังกฤษ รวมถึงเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ไฟนัลส์ 2022 ที่ซาอุดิอาระเบีย

วงการมอเตอร์สปอร์ต ก็ฮือฮาไม่น้อยกับผลงานของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักแข่งรถจักรยานยนต์ รุ่นโมโตทู จากค่ายฮอนด้า ปี 2022 ลงแข่งขัน 18 สนาม เก็บได้  128 คะแนน คว้าอันดับ 10 ของโลก ที่สำคัญคือสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์การแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ได้ที่อินโดนีเซีย

นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาอีกมากมายหลายชนิด ที่ผลงานไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ทั้งแบดมินตัน, ยกน้ำหนัก, กรีฑา, มวยสากล, สนุกเกอร์หญิง รวมถึงทีมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ที่ต่างช่วยกันนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง

ผ่านพ้นปีเก่าไป ทีนี้มาว่ากันถึงปีใหม่ 2566 ที่กำลังจะมาถึงกันบ้าง ซึ่งเมื่อกางปฏิทินการแข่งขันประจำปีแล้ว ต้องบอกว่าเป็นอีกปีที่ “ทัพไทย” มีงานระดับมหกรรมกีฬาที่ชุกไม่น้อยเลย ทั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากการไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันมาชิงชัยกันในปีนี้

ประเดิมด้วย ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.66 โดย “พนมเปญเกมส์ 2023” ถือเป็นซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวเขาเลยก็ว่าได้ กำหนดจัดแข่งขัน 37 ชนิดกีฬา ชิงชัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 608 เหรียญทอง ต่อด้วยศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ที่เลื่อนมาจากปีนี้ไปจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-8 ต.ค.66

ปิดท้ายด้วยศึกเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 6-17 พ.ย.66 โดยมี กรุงเทพมหานคร กับ จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองหลัก ชิงชัยทั้งหมด 35 ชนิดกีฬา กับ 2 กีฬาสาธิต ซึ่งครั้งนี้ยังมีกีฬายอดนิยมอย่าง วอลเลย์บอล กับ ยกน้ำหนัก รวมอยู่ด้วย

นอกจากนี้ยังมีศึกชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์ทวีปอีกด้วย ขณะเดียวกันทางสหพันธ์กีฬานานาชาติ ยังกำหนดให้เป็นปีแห่งการแข่งขันคัดเลือก หรือ ควอลิฟาย เพื่อลุ้นโควตาไปเข้าร่วมแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2024 อีกด้วย

ฉะนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นอีกปีที่ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสสำหรับนักกีฬาไทย ไม่น้อย เพราะสมาคมกีฬาต่างๆ จะต้องวางแผนในการเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาของตัวเองในการไปแข่งขันเก็บคะแนนในรายการต่างๆ เป็นอย่างดี ชนิดที่ว่าจะเกิดการผิดพลาดไม่ได้เลย

โดยเฉพาะกีฬาความหวังเหรียญรางวัลอย่าง เทควันโด, ยกน้ำหนัก, มวยสากล, แบดมินตัน และอื่นๆ ที่พร้อมจะเป็น “ม้ามมืด” เป็นตัวสอดแทรก ก็ต้องลุยต้องใส่กันอย่างเต็มที่ไปเลย

นอกจากการฝ่าฟันอุปสรรคในสังเวียนการแข่งขันแล้ว อีกประเด็นที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบโดยตรงกับ “ทัพนักกีฬาไทย” ก็คือเรื่องของเงินๆ ทองๆ หรือ “งบประมาณ”

อย่างที่เป็นข่าวมาเป็นระยะๆ ตลอดปีที่ผ่านมาก็คือสมาคมกีฬาต่างๆ ต่างประสบปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณ ในการเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกมหกรรมกีฬาที่ว่ามา อันเนื่องทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ทำงานไม่ประสานสอดคล้องกัน

ความเดือดร้อนจึงตกมาอยู่กับสมาคมกีฬาและนักกีฬาไปเต็มๆ หากลองไปเช็กดู หลายสมาคมกีฬา ไม่สามารถเบิกงบจาก “กกท.” และ “กองทุนกีฬา” ออกมาได้ มีการค้างเงินกันในระดับหลักสิบล้าน หรือเกินกว่านั้นก็มี

เรื่องนี้ร้อนถึง “นายใหญ่” ที่คุมบังเหียน “กกท.” และ “กองทุนกีฬา” โดยตรงอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ท่านสวมหมวกหลายใบ เป็นทั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, ประธานบอร์ด กกท. และประธานบอร์ด กองทุนกีฬาฯ ที่ต้องออกมาบัญชาการแบบเสียงดังฟังชัดในที่ประชุมใหญ่ครั้งล่าสุดว่า….

“ต่อจากนี้ไปให้ กกท. และกองทุนกีฬา ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาและนักกีฬา ให้ตรงกับไทม์ไลน์ในปีใหม่นี้ เพราะนักกีฬามีหน้าที่ฝึกซ้อมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เมื่อทุ่กายเทใจฝึกซ้อมมาอย่างหนักแล้วก็ต้องได้เงิน ไปแข่งขันสร้างผลงานมาแล้วต้องได้เงิน เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารจัดการ หากใคร (กกท.+กองทุนกีฬา) ทำไม่ได้ตามแผนตามนโยบายที่ผมมอบหมายให้ไป ก็ต้องไปหาคนอื่นที่ทำได้มาทำแทนทันที”

“งบประมาณ” คือ “หัวใจ” ของการพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศและอาชีพ เพื่อไปสร้างผลงานระดับเทพกลับมาสู่ประเทศไทย นำความสุขใจมาสู่คนไทย หากท่อ “น้ำเลี้ยง” ไปไม่ถึง ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตกๆ หล่นๆ ก็ยากที่นักกีฬาไทย จะประสบความสำเร็จได้ตามที่คาดหวังกันไว้

ซึ่งการที่คนระดับเฮดสูงสุดอย่าง “บิ๊กป้อม” เข้าใจหัวอกคนกีฬา รับรู้ถึงความเดือดร้อน และรีบสั่งการให้มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ก็พอจะโล่งอกโล่งใจกันได้บ้าง

ปี 2566 จึงเป็นอีกปีที่ท้าทายความสามารถของเหล่านักกีฬาไทย รวมทั้งผู้บริหารองค์กรกีฬา ทั้ง สมาคมกีฬา, กกท., กองทุนกีฬา และโอลิมปิคไทย แต่เชื่อว่าหากทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง ทำอย่างเต็มที่ ทำด้วยใจจริง พร้อมทั้งก้าวข้ามความขัดแย้ง ที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ้างระหว่างการทำงานร่วมกัน แต่ด้วยตามคำสั่งอันเด็ดขาดของ “บิ๊กป้อม” เราจึงพอจะมองเห็นอนาคตที่สดใสอยู่ปลางอุโมงค์เช่นกัน

ส่วนนักกีฬาทีมชาติไทย จะทำผลงานได้ดีมากน้อยเพียงใด คนไทยทั้งประเทศ พร้อมเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างทุกชนิดกีฬา ที่ลงสนามสู้ศึกทุกสนามแข่งขันอย่างแน่นอน

สู้ๆ ขอให้โชคดีประสบชัยชนะกันทุกคน!!!

## วอน อ่อนวงค์ ##

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.