Thailand Sport Magazine Sponsored

เปิดตัวตนลึกถึงหัวใจ’อรBNK48′ จากไอดอลสู่เส้นทางนักแสดง

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอดอลสาวที่กำลังฮอตและมาแรงอยู่ในขณะนี้ สำหรับ “อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ” หรือ “อร BNK48” ที่บอกเลยว่าเป็นไอดอลอีกหนึ่งคนที่มีความโดดเด่นทางเรื่องความสวย และความสามารถ ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าตาและความสามารถความเป็นไอดอลที่แฟนๆ หลายคนหลงรักแล้วนั้น อีกหนึ่งบทบาทความสามารถที่อรทำได้ไม่แพ้กันนั้นก็คือ การก้าวสู่ความเป็นนักแสดงมืออาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ฝากผลงานหลายเรื่องให้ทุกคนได้รับชมกันมาพอสมควร

งานนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” ก็เลยไม่พลาดต้องไปขอคิวอันแน่นเอี้ยดของ อร BNK48 พามาอัพเดทเกี่ยวผลงานซีรีส์ล่าสุดถึง 2 เรื่อง 2 รส ที่อรกำลังฝากฝีมืออยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งล้วงลึกทุกตัวตนของเธอแบบเปิดใจกับบทบาทการเป็นไอดอล ควบคู่กับการเป็นนักแสดง อย่ารอช้าไปคุยกับอรกันดีกว่าจ้า

– แนะนำตัว

“สวัสดีค่ะ สวัสดีแฟนๆ เดลินิวส์ออนไลน์นะคะ อร BNK48 เองค่า”

– เป็นอย่างไรบ้างกับการมารับงานแสดงซีรีส์ครั้งนี้

“ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจมาก มีซีรีส์ออนแอร์ทั้งสองเรื่อง เรื่องแรกคือ ร้านยารักษารัก เรื่องที่สองคือ Let’s Fight Ghost คู่ไฟท์ ไฝว้ผี”

– งานภาพยนต์กับซีรีส์แตกต่าง หรือยากง่ายสำหรับเรายังไงบ้าง

“ความยากง่ายของภาพยนตร์กับซีรีส์ เดี๋ยวนี้ค่อนข้างถ่ายเหมือนกัน ซีรีส์สมัยนี้ถ่ายเป็นเฟรมของภาพยนตร์ ก็เลยไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากเท่าไหร่ โชคดีที่เราผ่านการเล่นภาพยนตร์มาก่อนแล้ว นั่นก็คือเรื่อง แอปวอร์ จึงมีประสบการณ์ และความคุ้นเคยมาก่อนหน้านี้ เลยได้เอามาปรับใช้ด้วยกัน”

– ซีรีส์ทั้งสองเรื่องเล่นยากไหม

“ซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้ความยากง่าย หนูให้เรื่อง Let’s Fight Ghost คู่ไฟท์ ไฝว้ผี ยากมากกว่า เพราะเป็นซีรีส์ที่ไม่ใช่แค่โรแมนติกคอมเมดี้เพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของบทแอ๊คชั่นเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับตัวหนูเหมือนกัน ถึงแม้หนูจะมีเทคนิคทางเทควันโดตั้งแต่เด็ก แต่รอบนี้เป็นบทบู๊ ซึ่งมีการถ่ายทำหลายรอบมาก และมีความเข้มข้นไม่แพ้กัน ทำให้ช่วงที่หนูถ่ายทำให้ความรู้สึกเราเป็นแบบนักกีฬาเลย เพราะต้องซ้อมเยอะๆ และหาจังหวะกับพาร์ทเนอร์ที่เราเล่นด้วย ต้องพากันซ้อมหนักมากๆ หนูเลยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องซีรีส์ที่ยากกว่า”

“สำหรับเรื่องที่สองหมอยารักษารัก เป็นซีรีส์รูปแบบคอมเมดี้ที่แบบจ๊ะจ๋าเลย ไม่ได้บอกว่าเปลืองตัว แต่เป็นอะไรที่ทุ่มเทมากใช้คำนี้ เอาจริงๆ คืดหนูก็ทุ่มเทการแสดงให้กับทุกๆ เรื่องนะ แต่ว่าเรื่องนี้ตัวหนูต้องทุ่มเทแบบไม่ต้องอาย เช่น ในเรื่องนี้มีซีนที่หนูต้องแสดงว่าผีเข้า หนูก็ต้องเล่นแสดงให้สมบทบาทมากที่สุด ทั้งกลิ้งไปทั่วพื้นเลย ตามคาแรกเตอร์ในซีรีส์ที่เป็นซุป’ตาร์อันดับหนึ่ง นัมเบอร์วันของเรื่อง ต้องเล่นได้ทุกบทบาท และอีกฉากที่ได้เล่นคือก็ฉากปวดท้องถ่าย ไม่คิดว่า BNK48 จะได้มาแสดงในบทบาทนี้ จากที่หนูคิดว่าเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ กลายเป็นคอมเมดี้โรแมนติกแทน”

– รับเล่นซีรีส์ทั้งสองเรื่อง งงคาแรกเตอร์ตัวละครบ้างไหม แล้วเรามีวิธีแยกตัวละครยังไง

“เอาจริงๆ ทั้งสองเรื่องได้คิวถ่ายทำกันคนละช่วงเวลากัน เลยทำให้หนูไม่ได้รู้สึกว่ามันแยกยากขนาดนั้น ทั้งสองตัวละคร ทั้งจีนและไอน้ำเองก็มีความใกล้เคียงกับตัวอรมาก ซึ่งมีความเหมือนกัน มันก็เลยไม่ได้ยากในการปรับตัวหรือจูนเข้าหาตัวละคร ใช้เวลาแปบนึงในการปรับจูน แต่ทั้งสองตัวละครนี้ก็มีความแตกต่างกัน อย่างตัวจีนเนื่องจากเป็นผีสาวความจำเสื่อม ทุกอย่างจะมีความใหม่ไปหมด จะมีความอะเลิร์ตเป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนสาวน้อยวัยแรกรุ่น ส่วนไอน้ำจะเป็นซุป’ตาร์สาวที่รักษาภาพลักษณ์ และมีความจริตจะก้านมาก แต่โชคดีที่ถ่ายกันคนละเวลา และทั้งสองตัวละครมีกลิ่นอายของตัวอรผสมอยู่ ทำให้ง่ายในการแยกคาแรกเตอร์และเล่นบทบาทนี้”

– กดดันไหมกับการรับงานแสดงครั้งนี้

“ถามว่ากดดันไหม อย่างซีรีส์เรื่อง Let’s Fight Ghost คู่ไฟท์ ไฝว้ผี เป็นซีรีส์รีเมคจากประเทศเกาหลี แน่นอนว่าจะต้องมีความกดดันอยู่แล้ว เพราะคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้การยอมรับสักเท่าไหร่ หลายคนมองว่าเวอร์ชั่นเกาหลีนั้นประสบความสำเร็จมากพอแล้ว ซึ่งเมื่อนำกลับมารีเมคในของเวอร์ชั่นของประเทศไทย แฟนๆ ก็จะมีความคาดหวังกันเป็นอย่างมาก ทั้งในตัวของเนื้อเรื่อง บทละคร และนักแสดง ก็จะเกิดการเปรียบเทียบกันขึ้นมา แต่ตัวอรก็ไม่อยากให้มีเปรียบเทียบขึ้น ทั้งสองเวอร์ชั่นมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ทางพี่โขม ผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้มีการปรับเนื้อเรื่องให้มีความสนในมากขึ้น มีความเข้มข้น ผีก็จะมาในรูปแบบของผีไทย พร้อมทั้งเสริมบทบู๊ให้สมบทบาทและดุเดือดเพิ่มมากขึ้น รับรองว่าฮาร์ดคอร์ทั้งเรื่อง และไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังแน่นอน”

– ทำไมเราถึงหันมารับงานทางด้านการแสดง

“จริงๆ หนูก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะได้มารับงานแสดง อาจเป็นเพราะตอนนั้นหนูได้รับโอกาสมาจากการเล่นภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในเรื่อง App War แอปชนแอป เมื่อ 2–3 ปีที่แล้ว ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ที่หนูโดนเรียกไปแคสบท ด้วยคาแรกเตอร์หลายๆ อย่าง ทำให้หนูได้รับโอกาสเล่นเรื่องนี้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหนูเลยได้เริ่มเข้าสู่วงการนักแสดงอย่างจริงจัง และหลังจากนั้นก็มีผลงานออกมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งทางค่ายเล็งเห็นว่าตัวหนูน่าจะมีศักยภาพภาพมากพอที่จะมารับงานทางด้านนี้จึงเริ่มผลักมาทางนี้ ตอนแรกหนูคิดว่าการแสดงเป็นสิ่งที่ทางค่ายยัดเยียดให้เราหรือเปล่า เพราะเรารู้สึกว่าตัวเราจะแยกได้ไหมว่าระหว่างการแสดง กับการเป็นไอดอล หรือเราจะไหวไหม แต่พอเราลองมาเล่นและสัมผัสกับงานแสดงหลายๆ เรื่อง ตอนนี้หนูบอกได้ชัดๆ เลยว่าตกหลุมรักการแสดงมาก และอยากจะมีผลงานออกมาให้แฟนคลับรับชมไปเรื่อยๆ”

– สำหรับเราการเป็นไอดอลกับนักแสดงแตกต่างกันขนาดไหน มองว่าทางไหนยากมากกว่ากัน

“สำหรับตัวหนูทั้งสองบทบาทนั้น ยากคนละแบบ แต่ก็มองว่ายากทั้งคู่นะ อย่างด้านไอดอล หรือ ศิลปิน หนูมอง่วามันต้องมีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีมากๆ มีการแสดงเหมือนกันแต่เป็นการแสดงคนละแบบ ก็เลยต้องมีการปรับตัว แต่หนูมองว่าไม่ได้ยากขนาดนั้น หนูสามารถนำมาปรับจูนกันได้ หลายคนอาจจะมองว่าคนละเวย์ แต่จริงๆ สามารถปรับจูนกันได้นะ ซึ่งหนูก็ได้นำเพอร์ฟอร์แมนซ์ของการแสดงมาปรับใช้ในการแสดงบนเวทีของการเป็นไอดอล มันก็เลยสามารถโยกย้ายกันได้สนุกดี เพราะอย่าง BNK48 ต้องมีเธียเตอร์สำหรับให้เราแสดงโชว์ทุกอาทิตย์ ทำให้หนูนำเทคนิคในการแสดงมาปรับใช้ในการทำโชว์ของหนูในทุกๆ ครั้ง ทำให้โชว์ที่หนูแสดงออกมาไม่น่าเบื่อ สามารถเพิ่มกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น”

– เรามีแพลนต่อไปยังไงบ้าง อยากทำอะไรเพิ่มเติ่มในอนาคตไหม

“สำหรับแพลนอนาคตของหนูตอนนี้ก็มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็มีแพลนให้เราทำอะไรหลายอย่างก่อนจะหมดสัญญาว่าจะต่อหรือไม่ต่อแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ตัวหนูก็ขอโฟกัสกับงานตรงนี้ ขอทำมันให้ออกมาดีที่สุด ในอนาคตก็อาจจะมีการทำอย่างอื่นเพิ่มเติมนอกจากการเป็นไอดอลกรุ๊ป เป็นนักแสดงอาจจะมีศิลปินเดี่ยวหรือเปล่าต้องคอยติดตามกัน แต่ช่วงนี้ตัวหนูเองก็กำลังปั่นงานหนังสือด้วย เพราะอย่างมีผลงานงานเกี่ยวกับงานเขียนเหมือนกัน ซึ่งทางค่ายก็สนับสนุนเราเต็มที่ ให้หนูได้ลองทำงานในหลายๆ รูปแบบ หลายๆ ทาง ทำให้หนูได้ลองแบบจริงๆ จะได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วทางไหนที่เหมาะกับเราจริงๆ”

“ด้านงานเขียนหนังสือ ตอนนี้ที่หนูกำลังวางแผนอยู่นั้น หนูคิดว่าหนูเป็นคนที่เก่งด้านการถ่ายทอดเรื่องราวเป็นตัวอักษรมากกว่าการพูด ถึงแม้จะดูเหมือนหนูเป็นคนพูดเก่ง แต่หนูคิดว่างานเขียนมันค่อนข้างละเอียดและหนูคิดว่ามันเป็นการฮีลจิตใจหนูอีกทางหนึ่งด้วย เป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้เราระบายอะไรบางอย่างลงไปผ่านเป็นตัวอักษร แล้วจริงๆ หนูเป็นคนที่ชอบเขียนอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว และเป็นคนชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิม ทั้งสองส่วนนี้จึงประกอบสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา จนกลายเป็นงานเขียนของตัวเอง นั่นก็คือหนังสือเล่มของหนูคือ อร เดอะ เวย์ (Orn The way) และตอนนี้ก็มีแพลนเขียนต่ออีก 2 เล่ม ซึ่งเป็นเรื่องราวการท่องเที่ยวในประเทศไทย อาจจะเป็นเรื่องราวที่การใช้ในรูปแบบการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ เรียนรู้ชีวิตในชนบทที่ไม่มีใครรู้จักเรา และอีกเล่มเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลคนหนึ่งที่ชอบพระจันทร์ ที่หลายคนมองว่าสวยงาม ดูจับต้องยาก แต่มันก็เหมือนกับเราที่ดูสวยงามก็จริง แต่อีกมุมหนึ่งก็ผุพังไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกับพระจันทร์”

– ฝากผลงาน

“ตอนนี้ก็มีผลงานทั้ง 2 เรื่อง และอาจจะมีอีกเรื่องกำลังจะเปิดกล้องหรือเปล่า และหนังสืออีก 2 เล่ม ยังไงหนูก็ขอฝากผลงานตอนนี้ไว้ด้วย ทุกวันอังคาร ซีรีส์เรื่องหมอยารักษารัก เวลา 19.30 น. ทาง bugaboo.tv และทุกวันพุธและพฤหัส กับซีรีส์เรื่อง Let’s Fight Ghost คู่ไฟท์ ไฝว้ผี เล่นกับ เซ้นต์ ศุภพงศ์ นั่นเอง เราถ่ายทำกันมาเป็นปี เป็นเรื่องที่เราทุ่มเทกับมันมากๆ ก็ฝากด้วยนะคะ ทาง True4U เวลา 22.15 น.”..

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.