เทควันโด ตั้ง “เสี่ยบิ๊ก” รับหน้าที่ผู้จัดการทีมลุย โอลิมปิก โตเกียว – ข่าวสด

เทควันโด ตัดสินใจแต่งตั้ง “เสี่ยบิ๊ก” นายธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ เป็นผู้จัดการทีมคุมทัพเทควันโดไทยไปแข่งขันโตเกียวเกมส์ ครั้งนี้

ความเคลื่อนไหวของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก รุ่น 49 กก.หญิง และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี รุ่น 58 กก.ชาย ยังคงฝึกซ้อมอย่างหนักที่ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยจะกลับกรุงเทพฯ วันที่ 15 ก.ค. ก่อนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น วันที่ 17 ก.ค. โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินเจแอล 034 และลงสนามแข่งขันพร้อมกันวันที่ 24 ก.ค.

ล่าสุด “บิ๊กเอ” ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งให้ “เสี่ยบิ๊ก” นายธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ เป็นผู้จัดการทีมคุมทัพเทควันโดไทยไปแข่งขันโตเกียวเกมส์ ครั้งนี้ พร้อมทั้ง สั่งให้เจ้าหน้าที่สมาคมฯ อัพเกรดที่นั่งในการเดินทางของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และผู้จัดการทีม 5 คน จากเดิมเป็นที่นั่งชั้นประหยัด อีโคโนมี่คลาส ให้เป็นชั้นธุรกิจ บิสสิเนสคลาส เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการเดินทางครั้งนี้ ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าชั้นประหยัด แต่สามารถลดความเสี่ยงได้มากขึ้น

“เสี่ยบิ๊ก” นายธนฑิตย์ กล่าวว่า ตอนแรกที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการทีมคุมทัพไปแข่งขัน ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ไป โอลิมปิกเกมส์ เป็นรายการที่สำคัญที่สุด โดยในการทำงานกีฬาที่ผ่านมา ตนเป็นผู้จัดการทีมมาหลายทัวร์นาเมนต์ ทั้งเอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ และชิงแชมป์โลก แต่ครั้งนี้ สำคัญมาก ยิ่งไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ มันยุ่งยากซับซ้อนพอสมควร ตนต้องประชุมบ่อยมาก การทำงานในแต่ละวัน จะต้องกรอกบันทึกประจำวันสุขภาพตลอด 14 วันก่อนไปญี่ปุ่น แต่ถึงแม้จะต้องทำอะไรละเอียดทุกขั้นตอน ตนก็ยินดีเพราะส่วนตัวเชื่อว่า นักกีฬาเทควันโดไทยจะต้องประสบความสำเร็จตามเป้า และมีโอกาสได้เห็นสายคู่ต่อสู้ของนักกีฬาทั้ง 2 คน ดูแล้วเรามีคามหวังได้เหรียญทองตามเป้า ถึงแม้ รุ่น 58 กก. ของ รามณรงค์ จะไม่ง่าย แต่ตอนนี้เราอยากให้เขาท็อปฟอร์มเหมือนช่วงคัดโอลิมปิกโซนเอเชีย

ผู้จัดการทีมเทควันโดทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องจากอัพเกรดการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้ว่า เราทราบมาว่าการเดินทางไปโอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ จะต้องไปสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ การเดินทางจะมีนักกีฬาเทควันโด ทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ไปกันไม่มาก ที่นั่งบนเครื่องในชั้นอีโคโนมี่ จะให้นักกีฬานั่งห่างกัน ไม่ใกล้กับคนอื่น ๆ แต่ก็เป็นแค่เรื่องที่ได้ยินมา ซึ่งในเที่ยวบินนี้อาจจะมีคนอื่นร่วมเดินทางด้วย ทาง ผศ.ดร.พิมล จึงมีความเป็นห่วงนักกีฬาและทีมผู้ฝึกสอน ซึ่งถ้าในวันเดินทางมีคนขึ้นเครื่อง จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด เราจึงไม่ประมาท ป้องกันไว้ก่อน โดยการเปลี่ยนไปนั่งชั้นธุรกิจ บิสสิเนสคลาส ซึ่งระยะห่างมากกว่า ชั้นประหยัด อีโคโนมี่คลาส ความแออัดน้อย โอกาสเสี่ยงต่ำกว่า