สาวขอนแก่น สมราคาแชมป์ประเทศไทย และแชมป์เก่า เจียงฮายเกมส์ ควบ เจ็ตสกีคู่ใจกระชากเหรียญทองสมัยที่สอง ในศึกศรีสะเกษเกมส์
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ที่จังหวัดศรีสะเกษเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มี.ค.65 เป็นการชิงชัยเหรียญรางวัลวันที่ 3 อย่างเป็นทางการ
เจ็ตสกี ที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมด็มเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) รุ่น สกี 1500 สแตนดาร์ด ประเภทบุคคลหญิง แข่งขันในระบบ 2 ใน 3 เรซ ลัลลณา ดวงโพธิ์พิมพ์ จากขอนแก่น แชมป์ประเทศไทย 3 สมัย และแชมป์เก่า “เจียงฮายเกมส์” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ มุจจรินทร์ มงคลนันทิภาคย์ จากอุดรธานี 2-0 เรซ คว้าเหรียญทองไปครองอีกสมัย
หลังจบการแข่งขัน ลัลลณา เผยว่า ก่อนแข่งขันยอมรับว่ากดดันนิดหน่อย เพราะเป็นแชมป์เก่า อีกทั้งยังมีการเลื่อนวันแข่งขัน เนื่องจากพายุเข้าเมื่อวานที่ผ่านมา ส่วนคู่แข่งในครั้งนี้ ส่วนใหญ่รู้มือกันอยู่แล้ว เพราะเจอกันในการแข่งขันรายการต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในรอบชิงชนะเลิศก็พยายามมุ่งสมาธิไปที่การแข่งขัน ส่วนเรื่องสนามแข่งขัน เมื่อเทียบกับที่เชียงราย ไม่ได้ต่างกันมากนัก ความยากก็คือลมกับคลื่นทำให้บังคับยาก แต่ก็พยายามประคองเข้าเส้นชัยได้ สำหรับเป้าหมายต่อไปคือการเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย และชิงแชมป์โลกปลายปีนี้
ด้าน โรลเลอร์สกี ที่ถนนเลี่ยงเมือง (สายใหม่) แข่งขันเป็นวันที่สอง มีชิง 2 เหรียญทอง ในประเภทอินเทอร์วัล คลาสสิค ระยะทาง 3 กม. “พลอยรุ้ง” ณัฐอัชฌา ฉัตรฐิติเมธี สาวน้อยวัย 12 ปี จากเชียงใหม่ โชว์สปีดและความอึดแบบไม่มีตก คว้าเหรียญทองไปครอง ด้วยเวลา 09.05.30 นาที ซึ่งก็นับเป็นเหรียญทองที่ 2 ของเชียงใหม่ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติหนนี้ด้วย ด้านเหรียญเงินเป็นของ ปาริฉัตร บุญมณี จากสุราษฎร์ธานี เวลา 09.04.00 นาที ขณะที่เหรียญทองแดง เป็นของ นวพร พรหมวงค์ จากเชียงใหม่ เวลา 09.06.00 น.
หลังการแข่งขัน “น้องพลอยรุ้ง” เปิดใจว่า ดีใจมากๆที่สามารถคว้าแชมป์ได้ ถือเป็นแชมป์แรกในชีวิตของตน ที่ผ่านมา พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักในหลายๆสถานที่ ทั้งที่บ้านและกับที่ชมรม ฝึกทั้งการวิ่งและเวทเทรนนิ่ง สำหรับเป้าหมายก็อยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเรื่อย อยากติดทีมชาติไทย เป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันในสนามสกีหิมะแบบจริงๆ
ด้าน นภัสร์ศรัณ ฉัตรฐิติเมธี คุณแม่ของ “น้องพลอยรุ้ง” เปิดใจว่า น้องเล่นกีฬาเพราะเป็นโรคหอบหืด เริ่มเล่นกีฬาเทควันโดเป็นชนิดแรก เล่นอยู่ 4 ปี ก่อนจะมาเห็นว่ามีกีฬาโรลเลอร์สกีด้วย จึงเกิดความรู้สึกอยากเล่น ซึ่งตนและคุณพ่อก็ไม่ได้ห้าม เห็นว่าถ้าเล่นกีฬาแล้วทำให้น้องมีสุขภาพที่ดีขึ้น ก็เลยส่งเสริมให้เล่น ซึ่งด้วยความที่น้องมีพื้นฐานในการเล่นโรลเลอร์เบรคอยู่ จึงทำให้ไปได้ไว อย่างไรก็ตามรายการแรกที่ลงแข่งขัน ชิงแชมป์ประเทศไทย ได้อันดับสุดท้าย จึงพยายามฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองเรื่อยมา ก่อนมาได้เหรียญทองในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ที่สองในชีวิต
นภัศศรัณ เผยอีกว่า การแข่งกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “พลอยรุ้ง” ลงแข่งขันผ่านไปแล้ว 3 รายการ คว้าเหรียญครบทุกสีแล้ว คือ 1 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง ซึ่งก็จะเหลือการแข่งขันอีก 2 วัน คือ ในรายการ ผลัด 3 คน ระยะทาง 3 กม. ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ กับ 5 กม. ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ซึ่งตนก็ภูมิใจกับผลงาน รวมถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเท ของลูกสาว และพร้อมจะสนับสนุนให้ลูกสาวไปให้สุดท้าย ให้ติดชาติ ได้ไปแข่งขันในระดับนานาชาติ ในสนามที่เป็นหิมะจริงๆอย่างที่เขาหวังเอาไว้
ส่วนประเภท อินเทอร์วัล คลาสสิค 5 กม.ชาย เกิดการพลิกล็อคขึ้น เมื่อ “โก้” สราวุฒิ เกิดสิน นักกีฬาดีดรีทีมชาติไทย ชุดยูธโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว 2020 จากจังหวัดชุมพร พลาดท่าเข้าป้ายเพียงที่ 3 ได้เพียงเหรียญทองแดงไปครอง โดยทำเวลาได้ 13.58.79 น. ส่วนเหรียญทอง ตกเป็นของ “กล้า” ธนากร เงยไชย หนุ่มน้อยวัย 15 ปี จากศรีสะเกษ โดยเข้าเส้นชัยคนแรก ด้วยเวลา 13.16.78 นาที คว้าเหรียญทองแรกให้ตัวเอง เหรียญทองที่ 2 ให้ทีมโรลเลอร์สกีศรีสะเกษ และเหรียญทองที่ 3 ให้ศรีสะเกษ ในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ส่วนเหรียญเงิน เป็นของวทัญญู พรมพิงค์ จากเชียงใหม่ เวลา 13.47.34 นาที