เผยแพร่: ปรับปรุง:
“วิว พงศ์ชนก” ไร้แพลนแต่ง “แชมป์ พรีพล” มีคุยกันบ้างแต่ยังไม่พร้อม รัก 13 ปีเข้าใจกันดี แฮปปี้มาก เผยทำงานด้วยกัน ก็คิดไม่ตรงกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ให้กำลังใจฝ่ายชายโดนดรามาบ่อย เพราะนิสัยพูดตรง ยังไม่อยากมีลูกเพราะเดินทางบ่อยและชอบทำงาน
เป็นอีกคู่ที่คบกันนานแบบมาราธอน สำหรับ “วิว พงศ์ชนก กันกลับ” มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2009 และอดีตนักกีฬาเทควันโด้ทีมชาติไทย กับพิธีกรหนุ่มรุ่นพี่ “แชมป์ พีรพล เอื้ออารียกูล” ที่ปีนี้ก็รักกันดีเข้าปีที่ 13 แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีข่าวดีลั่นระฆังวิวาห์ด้วยกันสักที ล่าสุดวันนี้ (7 ก.ค.) ได้เจอสาววิว ในงานเปิดกิจกรรม “Performance Cycling ปั่นเพลิน สุขภาพดี หุ่นดี ไม่มีเครียด” ณ JETTS Black ก็เลยขอถามถึงประเด็นนี้
“ตอนนี้ก็ทำรายการด้วยกัน อยู่ที่ช่อง PPTV HD 36 นะคะ ชื่อรายการสปอร์ตมาเฟีย แล้วก็ในยูทิวบ์ แชมป์จัดไป มี 1 ล้านผู้ติดตามแล้ว รายการของเราจะเป็นรายการกีฬา สร้างสรรค์ ศิลปะ ทำในแนวบวกทั้งนั้นเลย แต่ก่อนจับแค่กีฬา ก็รู้สึกว่าอยากทำอะไรสร้างสรรค์ให้กับสังคม บางทีฉากด้านหลังของรายการ วิวก็วาดเองด้วย แล้วก็คนส่งกระเป๋าแบรนด์เนมมาให้วาดด้วย รู้สึกว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ การทำรายการกีฬามันทำให้เราได้เจอเพื่อนๆ ในวงการกีฬา ที่เขาไม่มีสื่อจะออก เราก็สามารถช่วยเขาได้ค่ะ เรื่องเรตติ้งก็ถือว่าโอเคนะคะ ตอนนี้ก็ 2-3 ปีแล้ว ในยูทิวบ์ก็มีมาตั้งนานแล้ว เรตติ้งดีอยู่เรื่อยๆ ก็สามารถอยู่ได้นาน”
แฟนกันทำงานด้วยกัน ก็มีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นเรื่องปกติ พยายามแยกความรู้สึกส่วนตัวออก
“มีค่ะ เป็นเรื่องปกติ แต่ด้วยความที่วิวเป็นคนแมนๆ แล้วพี่แชมป์เป็นคนละเอียดในเรื่องการทำงาน บางทีเขาจะตึงมาก เราก็จะบอกว่าบางเรื่องก็ต้องหย่อนบ้าง เขาก็เข้าใจนะคะ สุดท้ายก็สามารถร่วมงานกันได้ เพราะต่างคนต่างฟังกัน เราไม่เอาความคิดใครมาเป็นที่ตั้งอันดับหนึ่ง ช่วยกันออกความเห็น เวลาทำงานพยายามแยกความรู้สึกออกจากกัน ตอนแรกๆ ก็มีตีกันอยู่ แต่บอกทำมาเรื่อยๆ ก็แยกกัน พี่คิดคอนเทนต์ไป เดี๋ยวหนูช่วยเรื่องฉาก เป็นพิธีกร แยกหน้าที่กัน แต่หาลูกค้า หาสปอนเซอร์ก็ช่วยกันตลอด เรามีทีมงานเล็กๆ แบบครอบครัว แต่ว่าแฮปปี้ ส่วนรายได้ก็แบ่งๆ กันเนอะ (หัวเราะ) ช่วยกันทำมาหากิน”
ไร้แพลนแต่ง ยังสนุกกับการทำงานทั้งคู่
“เรื่องแต่งงานตัววิวก็ยังไม่ได้คิดนะคะ เพราะว่าพอได้ทำงาน ก็รู้สึกอยากทำงานมากๆ พ่อแม่ก็ไม่ได้ห้ามหรือว่าต้องรีบแต่ง วิวคบกับพี่แชมป์มา 12-13 ปีแล้ว ตั้งแต่วิวอายุ 18 ตอนนี้พี่เขา 39 แล้วค่ะ คบกันมานาน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตลอด มีเถียงกันทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ไม่มีปัญหา”
คบ 13 ปี เข้าใจและมีความสุข ยังไม่คิดมีลูก
“คบกันมานาน แต่รู้สึกว่าถ้าเข้าใจกันและมีความสุข ในความคิดของวิวนะ การแต่งงานอาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่การอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน เป็นสิ่งที่ดีค่ะ ก็มีคุยกันนะคะ แต่พี่แชมป์ก็ยังไม่ได้คิดตรงนั้น ตัวเราเองก็ยังไม่ได้คิดที่จะมีลูก เพราะเราสนุกกับการทำงานอยู่ เดินทางไปทางประเทศบ่อยด้วย รู้สึกว่าทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อนดีกว่า ถ้าเกิดอยากมีน้องเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่รุ่นพี่เขาไปกันหลายคนมากแล้วค่ะ (หัวเราะ) ก็รู้สึกว่าน่ารักดี แต่ส่วนใหญ่เห็นเขามีแล้วก็ไม่มีเวลาทำงานหรือดูแลตัวเอง เราก็เลยรู้สึกว่าเรายังสนุกกับสิ่งที่ทำ ณ ตอนนี้อยู่ค่ะ”
เคล็ดลับความรักคือการเข้าใจและปรับจูนกัน
“อย่างแรกคิดว่าเป็นการเข้าใจกัน เพราะนิสัยเราแตกต่างกันมาก วิวแมนมาก พี่เขาจะละเอียด พิถีพิถันในการทำทุกอย่าง จนรู้สึกว่ามันต้องปรับจูนเข้าหากัน คิดว่าคนละนิสัย เข้ากันง่ายว่าคนนิสัยเดียวกัน”
ฝ่ายชายเจอดรามาบ่อย เพราะนิสัยพูดตรงๆ ก็เคารพการตัดสินใจและให้กำลังใจตลอด
“ด้วยความที่หนูรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เขาเป็นคนตรงมากๆ สิ่งที่เขาพูดไปเหมือนเป็นฝรั่งค่ะ สังคมไทยอาจจะรับไม่ได้ แต่ด้วยความที่เราไปประกวดเมืองนอกมาด้วย เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราพูดมันก็ถูกแล้วมันก็จริง แต่บางคนอาจจะรับไม่ได้ แต่วิวรู้สึกว่าสังคม ณ ขณะนี้ เราควรพูดความจริงดีกว่า ไปพูดอ้อมบางคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่วิวก็ให้กำลังใจเขาตลอด ถ้าเกิดพี่คิดว่าสิ่งที่พูดไปมันดี สร้างสรรค์สังคม และไม่ได้ไปว่าใคร พูดตรงๆ ในความคิดเห็นของเรา ก็พูดไปเลย วิวไม่เคยห้ามเลย เพราะวิวก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน วิวโอเค วิวเคารพในความคิดของเขา แต่ละคนอาจจะคิดไม่เหมือนกัน แต่เวลาเขาจะพูดออกมา ผ่านกระบวนการการคิดดีแล้ว เขาเป็นแบบนี้”
อยู่กันแบบแฟน ที่ช่วยเหลือและคุยกันได้ทุกเรื่อง
“เป็นแฟนกันในทุกวันค่ะ เวลามีอะไรก็ช่วยเหลือกันเหมือนเพื่อนที่สามารถคุยกันได้ทุกอย่าง คบนานยิ่งแน่นแฟ้นมากกว่าเดิม เรื่องความหวานก็มีบ้างค่ะ เขาจะแอบเซอร์ไพรส์ เอาเค้กมาให้วันเกิด ส่วนใหญ่วิวจะรู้ก่อน เพราะเขาไม่เคยเนียนเลย แต่เขาตั้งใจให้วิวก็แฮปปี้แล้วค่ะ มุมหวานมีน้อยมาก”
คนถามเยอะแต่ไม่กดดัน คุยกับพ่อแม่แล้ว ว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยแต่ง
“คนถามเยอะ แต่ไม่กดดัน เพราะวิวยินดีที่จะพูดว่าเรายังไม่พร้อม เรายังสนุกกับการทำตรงนี้อยู่ เราเดินทางบ่อย ถ้ามีน้องหรือแต่งงาน จะใช้ชีวิตในการทำงานน้อยลง ก็บอกตรงๆ ค่ะ ณ ตอนนี้เรื่องแต่งงาน ไม่ได้อยู่ในหัวเลยทั้งคู่ค่ะ แต่อนาคตก็ไม่แน่ เขาเคยพูดนะ หนูก็บอกว่ายังสนุกกับตรงนี้อยู่ เขาก็เลยเออไม่เป็นไร คือเหมือนแบบ ถ้าเราคบกันแล้วแฮปปี้ก็คือจบ สำหรับตัวหนูไม่ได้แต่งงานก็ไม่ซีเรียสค่ะ พ่อแม่ก็มีถามบ้าง แต่หนูก็บอกว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่แล้วจะบอก เขาก็ไม่เคยกดดันเลย ที่บอกว่าการแต่งงานเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับคนสมัยก่อนอาจจะใช่ แต่หนูอาจจะรุ่นใหม่มั้งคะ หนูพูดไปพ่อแม่อาจจะเสียใจ แต่แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร พร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยแต่งลูก เขาก็เข้าใจตัวหนูนะ ตอนนี้ก็ยังแฮปปี้ดีอยู่ ทำงานอะไรก็ไปด้วยกันตลอด”