“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกเทควันโด เรียก 2 จอมเตะ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่มรุ่น 58 กก ที่ฝึกซ้อมหนัก ที่เขาใหญ่ กลับกรุงเทพฯ ด่วน หลังรัฐบาลสั่ง ล็อกดาวน์ พร้อมประกาศ นักกีฬาและสตาฟโค้ช ห้ามกลับบ้าน หรือไปไหนทั้งสิ้น เพื่อป้องกันโควิด ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในตอนนี้ โดยเปิดโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ระดับ 5 ดาว ให้ทุกคนได้พัก จนกว่าจะเดินทางไปกรุงดตเกียว เพื่อร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020
วันที่ 13 ก.ค. 64 ความเคลื่อนไหวการเก็บตัวฝึกซ้อมของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทั้ง “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่มรุ่น 58 กก. ซึ่งจอมเตะทั้งคู่ยังคงฝึกซ้อมอย่างหนักที่ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยจะเดินทางกลับกรุงเทพฯในวันที่ 15 ก.ค.นี้ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไป ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 17 ก.ค.นี้ โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินเจแอล034
ล่าสุด “บิ๊กเอ”ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามกำหนดเดิมนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชจะเดินทางกลับมาในวันที่ 15 ก.ค. แต่จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นจน ทำให้มีการล็อกดาวน์กรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑล ห้ามมีการเดินทาง ทำให้ตนมีความกังวลว่าจะมีปัญหาในการเดินทางกลับกรุงเทพฯ จึงได้สั่งให้ทีมเทควันโดทุกคนเดินทางกลับกรุงเทพฯทันทีเลย โดยที่ห้ามให้ทุกคนกลับบ้าน หรือเข้าพักที่ อาคาร 300 เตียง ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่พักเก็บตัวนักกีฬา แต่เนื่องจากทราบข่าวมาว่ามี พนักงานทำความสะอาด ติดโควิด ตนจึงต้องให้นักกีฬาและสตาฟฟ์ทุกคน เดินทางมาพักที่โรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล กรุงเทพฯทันที
บิ๊กเอ กล่าวว่า “เรานำนักกีฬามาเก็บตัวที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ซึ่งเป็นโรงแรมของผม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด ในสถานการร์ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก เพราะเวลาที่เหลืออีกไม่เพียงไม่กี่วันจะมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทำให้มาตราการทุกอย่างต้องเข้มข้น ห้ามนักกีฬาและผู้ฝึกสอนกลับบ้านหรือออกไปไหน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทุกอย่าง ยกเว้นในวันพุธที่ 14ก.ค.64 จะมีการตรวจโควิดของทางโอลิมปิกก่อนเดินทางไปแข่งขัน เพียงแห่งเดียว นอกนั้นทุกคนจะต้องพักอยู่แต่ในโรงแรม”
“ปกติแล้วก่อนเดินทางไปแข่งขันมหกรรมกีฬารายการใหญ่ๆ เราจะต้องเดินทางไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งศาลท้าวมหาพรหม เอราวัล, ศาลหลักเมือง และวัดพระแก้ว เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ สถานที่ทั้ง 3 แห่งปิดหมด ปีนี้จึงต้องงดการเดินทางไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เชื่อว่านักกีฬาและโค้ชคงจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกันทุกคนอยู่แล้ว และมาถึงวันนี้ความพร้อมเต็มร้อย เรานับวันแข่งขันเพื่อจะก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.