Thailand Sport Magazine Sponsored

รู้จัก 7 เรื่อง “แดเนียล วิลเลียมส์” คู่ปรับรายต่อไปของ “รถถัง จิตรเมืองนนท์”

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

รู้จัก 7 เรื่องราวของ “แดเนียล วิลเลียมส์” นักสู้หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสซี่ ที่จะเป็นคู่ปรับรายต่อไปของ “รถถัง จิตรเมืองนนท์”

วันที่ 5 เม.ย. 64 รู้จัก 7 เรื่องราวของ แดเนียล วิลเลียมส์ นักสู้หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสซี่ ที่จะเป็นคู่ปรับรายต่อไปของ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ในศึก ONE on TNT I

จริงๆ แล้ว แดเนียล เกิดที่เมืองไทย แม่ของเขาอาศัยอยู่ที่ อ.พาน จ.เชียงราย พ่อของ แดเนียล ทำงานเหมืองแร่อยู่ที่ออสเตรเลีย จึงจำเป็นต้องเดินทางมา ๆ ไป ๆ ระหว่างสองประเทศ เขามีพี่ชาย 1 คนอายุห่างกัน 3 ปี แดเนียล ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่นานแม่ก็พาย้ายไปอยู่ออสเตรเลียตอนอายุ 8 เดือน แน่นอนว่า แดเนียล ยังจำความอะไรไม่ได้ เมื่อโตขึ้นเขาไม่ได้สนใจที่จะเรียนภาษาไทยนัก จึงทำให้เขาใช้ภาษาพ่อเป็นหลัก และพูดภาษาแม่ได้เพียงเล็กน้อย ขณะที่พี่ชายพูดภาษาไทยได้มากกว่า

2.) ลุงของเขาเป็นนักมวย

แดเนียล มีโอกาสกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยราว 2-3 ปีครั้ง ตอนอายุ 4-5 ขวบเขามาเมืองไทยหนึ่งเดือน แม้จะไม่นานแต่ก็พอทำให้ แดเนียล จำความสนุกสนานในงานวัดและการร้องรำทำเพลงแบบไทย ๆ ได้บ้าง อีกทั้งยังเอ่ยถึงลุง (พี่ชายของแม่) ที่เป็นอดีตนักมวยนามว่า “ฟ้าทมิฬ ศิษย์ลบลอย” ซึ่งเขาเรียก “ลุงพล…ลุงพล” เขายอมรับว่าเขากลัว ลุงพล คนนี้ขึ้นสมอง แต่ก็ได้ยินเรื่องราวความเก่งของลุงในการชกมวย ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็ก 4-5 ขวบลูกครึ่งไทย-ออสซี่ ได้รู้จักคำว่า มวยไทย ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นชีวิตจิตใจเขาทุกวันนี้

3.) เรียนรู้การต่อสู้ตั้งแต่ 6 ขวบ

ย้อนกลับไปสมัย 20 กว่าปีก่อน มวยไทยในออสเตรเลียยังถือเป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจมากนัก การจะหาที่เรียนมวยไทยจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แดเนียล ซึ่งชอบเล่นการต่อสู้ตามประสาเด็กผู้ชาย และมี “บรูซ ลี” เป็นขวัญใจ จึงเริ่มเรียนเทควันโดและคาราเต้ตอนอายุราว 6-7 ขวบ เมื่อได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้งตอนอายุ 7 ขวบ แดเนียล จำได้แม่นยำว่าเขาได้สวมกางเกงมวยไปดูมวยที่งานวัดซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ มีเสียงคนเชียร์ เฮ เฮ ดังกึกก้อง ระหว่างที่เล่าไปสายตาของ แดเนียล ก็เป็นประกาย เขาบอกว่ามันสนุกจนแทบจะละสายตาไม่ได้เลย

สามปีให้หลังโชคดีที่มีโค้ชชาวออสซี่มาเปิดสอนมวยไทยในย่านที่เขาอาศัยในเมืองเพิร์ท แดเนียล กับ พี่ชาย จึงจูงมือกันไปเรียน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละชั่วโมงครึ่ง และได้ลองขึ้นชกมวยไทยสมัครเล่นครั้งแรก (สวมเฮดการ์ด สนับแข้ง สนับศอก) ตอนอายุ 15 ปี แม้เขาจะชนะคะแนนในไฟต์นั้น แต่เจ้าตัวยอมรับว่าการฝึกซ้อมและเทคนิคยังไม่ค่อยดีนัก การแข่งขันชกมวยไทยมีจัดไม่บ่อยในออสเตรเลีย ปีหนึ่ง แดเนียล ได้แข่งสักสองครั้งก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ดังนั้นการสั่งสมประสบการณ์บนสังเวียนจึงทำได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และความรักในมวยไทยก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ

4.) ฝึกมวยที่เมืองไทย

หลังเรียนจบมัธยมปลาย แดเนียล ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย พร้อม ๆ กับทำงานพาร์ตไทม์รับจ้างเป็นพนักงานเช็ดกระจกเพื่อเก็บเล็กผสมน้อยโดยมีเป้าหมายที่จะมาเรียนมวยที่ประเทศไทย ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองและการสนับสนุนของพ่อแม่ แดเนียล บินลัดฟ้าจากเมืองเพิร์ท ออสเตรเลีย มายังค่ายมวย ว.สันใต้ จ.เชียงใหม่ รอบแรกเขามาฝึกมวยอยู่ได้เดือนเดียว และมีโอกาสขึ้นชกหนึ่งครั้ง ผลชนะน็อกยก 3 รับค่าตัวประมาณ 2,000-3,000 บาทแต่นั่นมันไม่สำคัญเท่ากับประสบการณ์มหาศาลที่เขาได้รับ เมื่อกลับไปบ้าน แดเนียล เก็บเงินมาเมืองไทยอีกครั้ง คราวนี้อยู่นานถึง 6 เดือน ยังดีที่เขาสามารถพักการเรียนที่มหาวิทยาลัยได้ และสามารถกลับไปเรียนต่อจนสำเร็จ อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนที่เมืองไทย แดเนียล ได้ขึ้นชก 7 ไฟต์ (ชนะ 5 แพ้ 2)

5.) แกร่งเหมือนแม่

ด้านแม่ของ แดเนียล แม้จะเติบโตมาจากครอบครัวที่มีพี่ชายเป็นนักมวย แต่ก็ไม่ใคร่จะยินดีเท่าไรนักที่เห็นลูกชายหันมายึดมวยไทยเป็นอาชีพ เพราะใจจริงแม่อยากให้เขาเรียนหมอมากกว่า แต่ด้วยความรักและความเข้าใจ รวมถึงพ่อที่คอยให้การสนับสนุน เพราะนี่คือชีวิตของ แดเนียล และเขาควรจะต้องเป็นคนเลือกทางเดินเอง แต่ครั้งใดที่ แดเนียล ขึ้นเวทีก็จะได้ยินเสียงแม่เชียร์ดังลั่นอยู่ข้างเวที เมื่อถาม แดเนียล ว่าเวลาเขาบาดเจ็บจากการชกมวย เขาเคยเห็นแม่ร้องไห้หรือห้ามปรามเขาไม่ให้ชกมวยอีกไหม คำตอบคือไม่ แดเนียล ไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้เลย เขาเชื่อว่าแม่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และเขาก็อาจจะได้ส่วนดีตรงนี้จากแม่

6.) ชอบอาหารไทย

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ แดเนียล จะชอบอาหารไทย ประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ครัวของโลก” อาหารมีความหลากหลาย ใครได้ลิ้มรสยากจะลืม อาหารไทยที่ แดเนียล โปรดปรานมีหลายอย่าง พูดถึงแล้วก็น้ำลายสอ มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยว ลาบไก่ ข้าวเหนียวหมูย่าง ฯลฯ สมัย แดเนียล มาซ้อมมวยอยู่เมืองไทย เจ้าตัวยอมรับว่าบางทีก็ขัดสนเรื่องการเงินอยู่บ้าง ชกมวยได้ค่าตัวมา 2,000-3,000 บาท ไม่ออกไปเที่ยวไหนแต่ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการกิน จึงจำเป็นต้องชกมวยบ่อย ๆ เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายเป็นค่ากินอยู่

7.) เก่งรอบด้าน

อย่างที่บอกแต่เริ่มแรกว่านอกจากมวยไทยแล้ว แดเนียล ยังมีวิชาเทควันโดและคาราเต้เป็นพื้นฐานตั้งแต่วัยเด็ก หลังจากที่เจ้าตัวคลุกลีอยู่ในวงการการต่อสู้ แดเนียล จึงผันตัวไปสนใจกีฬาอื่นอย่าง คิกบ็อกซิ่ง หรือแม้แต่การต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ซึ่งต้องใช้ทักษะความสามารถในด้านยืนสู้และนอนสู้ผนวกเข้าด้วยกัน เรียกว่า ต้องเก่งรอบด้าน แดเนียล ประสบความสำเร็จสูงสุดในวงการมวยไทย เป็นถึงแชมป์ WMC มวยไทย และในช่วง 2-3 ปีหลังที่ผ่านมาเขาหันทุ่มเทฝึกฝนและลงแข่งขันเก็บประสบการณ์ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานระดับอาชีพมาแล้ว 4 ไฟต์ จึงอาจจะห่างหายจากเวทีมวยไทยไปบ้าง อย่างไรก็ตาม การต้องกลับมาเปิดศึกกับแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต อย่าง รถถัง ในกติกามวยไทย 3 ยก นวมเล็ก จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ เขาคุ้นเคยกับมวยไทยและนวมเปิดนิ้ว 4 ออนซ์เป็นอย่างดี ที่สำคัญการชกกับ รถถัง ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและท้าทายตัวเองที่สุดเท่าที่ แดเนียล เคยผ่านมา

Cr.Photo : dan_mini_t

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.