รักบี้คือความหวังของไทยในเอเชียนยูธเกมส์ – สยามกีฬา

เชื่อว่าหลายคนคงลืมไปแล้วว่าในทวีปเอเชียของเรายังมีอีก 1 มหกรรมกีฬาของบรรดาวัยรุ่นขาโจ๋ที่ให้ไว้แสดงลวดลายอวดฝีมือกันนั่นก็คือ “เอเชียนยูธเกมส์” ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันระดับเอเชียของเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี จะมีขึ้นทุกๆ 4 ปี เริ่มครั้งแรกในปี 2009 ที่ประเทศสิงคโปร์ ต่อมา 2013 ที่ นานจิง ประเทศจีน และครั้งที่ 3 ปี 2017 มีการยกเลิกไป ทำให้ปี 2021 จะเป็นครั้งที่ 3 โดย ซัวเถา ประเทศจีน เป็นเจ้าภาพ

    กำหนดจัดที่มีการยืนยันล่าสุดระหว่างวันที่ 20-28 พ.ย.2564 แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้คงต้องติดตามกันให้ดีๆเพราะอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา สำหรับเอเชียนยูธเกมส์ใน 2 ครั้งที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทุกชาติในทวีปเอเชียเข้าร่วม 45 ชาติ ส่วนกีฬาชิงชัยนั้นเป็นกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกทั้งหมด 20 ชนิดกีฬา ซึ่งเด็กไทยก็ทำผลงานดีคว้าแชมป์เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ
 
    หากจะมองให้ลึกลงไปส่วนใหญ่กีฬาที่ไทยประสบความสำเร็จมักจะเป็นกีฬาประเภทบุคคลไม่ว่าจะเป็น กรีฑา, ว่ายน้ำ หรือ เทควันโด แต่ก็ยังมีกีฬาประเภททีมอยู่ 1 ชนิดกีฬาที่เคยสร้างปรากฏการณ์คว้ารองแชมป์เอเชียนยูธเกมส์มาแล้ว นั่นก็คือกีฬา “รักบี้” โดยกีฬาชนิดนี้ถูกบรรจุในเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 2 ซึ่งไทยก็ส่งแข่งทั้งทีมชายและทีมหญิง
 
    โดยทีมชายของไทยในตอนนั้นมี วุฒิพงศ์ สกุลเทียนทอง, สรวิศ เลิศล้ำสกุล, ณพรรษ ศิริทรานนท์, อรรถฤทธิ์ เต็กจินดา, พิชญ์พงษ์ พลายบัว, วุฒิกร แก้วเขียว, วรินทรณ์ หวานใจ, สรัล ถึงเจริญ, นภันต์ เด่นลำไพ, อดิเทพ เกียรติพัฒนาชัย, วรวุฒิ บุณยรัตพันธุ์, ศุภณัท ชื่นชีวเจริญ ซึ่งในรอบแรกอยู่สายเดียวกับ ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และ คาซัคสถาน
 
    แต่ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมบวกกับกลยุทธ์และเทคนิคอันแพรวพราวของแต่ละคนถล่ม คาซัคสถาน 24-0 จุด, ล้ม ญี่ปุ่น 24-12 จุด, อัด เกาหลีใต้ 17-7 จุด และ เสมอกับ ไต้หวัน 19-19 จุด จบรอบแรกแบบไม่แพ้ใครเลยเป็นอันดับ 1 ของสายเอ ส่วนในรอบ 8 ทีมไขว้มาเจอกับ ฟิลิปปินส์ อันดับ 4 ของสายบี ซึ่งทีมรักบี้กาตาล็อคดูเหมือนฝีมือจะยังห่างชั้นกับเด็กไทยชุดนี้มากเอาชนะไปสบายๆ 31-0 จุด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ ไต้หวัน ก็ยังฟอร์มเยี่ยมเอาชนะได้ 17-0 จุด
 
    ในรอบชิงชนะเลิศพบกับ ฮ่องกง ที่สถิติดีมากชนะรวดจนมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งไทยเองก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยถึงแม้ว่าทั้งทัวรืนาเม้นจะมี 1 เกมที่เสมอ แต่ก็ยังไม่แพ้ใครเช่นกัน อย่างไรก็ตามเกมนี้ก็เป็นทางไทยที่ปราชัยไป 12-31 จุด ทำให้การแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ครั้งแรกของไทยจบลงด้วยรองแชมป์ ขณะที่ทีมหญิงได้อันดับ 4 ของการแข่งขันแพ้ฮ่องกงในรอบชิงเหรียญทองแดง
 
    ด้วยผลงานที่ทีมรักบี้ไทยทำไว้เมื่อปี 2013 แล้วรายการนี้ได้กลับมาจัดอีกครั้งในรอบ 8 ปี ทำให้หลายคนในวงการคาดหวังว่าถ้าเอเชียนยูธเกมส์จัดได้ทีมรักบี้ไทยจะต้องเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับกีฬาประเภททีม ซึ่งในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา ทีมรักบี้เยาวชนไทยก็ถือว่าเก่งเข้าขั้นท็อปทรีเอเชีย
 
    ในเมื่อซีเกมส์ไม่มีรักบี้ โอลิมปิกเกมส์ก็ไม่ผ่านคลอลิฟาย ฉะนั้น เอเชียนยูธเกมส์ นี่แหละคือมหกรรมกีฬาเดียวที่เหลืออยู่ในมือ อีกทั้งศักดิ์ศรีรองแชมป์ของทีมชาย กับ อันดับ 4 ของทีมหญิง คือโจทย์ที่เราจะต้องรักษามาตรฐานหรือทำให้ดีกว่าเดิม ซึ่งยังพอมีเวลาอีกราวๆ 5 เดือนให้เตรียมตัว แต่ก็ยังมั่นใจนะว่าทีมรักบี้ไทยต้องมีเหรียญติดมือแน่นอน