แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทยก็ทำผลงานได้น่าประทับใจในโตเกียวพาราลิมปิก 2020 ตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากผ่านการคัดเลือกเข้าไปร่วมแข่งขันมากถึง 74 คนซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าพาราลิมปิกทุกครั้งที่ผ่านมา และยังคว้ามาได้ถึง 18 เหรียญ ดันไทยขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 25 ของตารางสรุปเหรียญ
การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. และปิดฉากลงวันนี้ (5 ก.ย.) โดยคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบการส่งนักกีฬาไทยลงแข่งขันใน 14 ชนิดกีฬา คือ เทควันโด ยิงธนู แบดมินตัน วีลแชร์ฟันดาบ ยกน้ำหนัก ว่ายน้ำ เทเบิลเทนนิส กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรสซิง) จักรยาน ยิงปืน วีลแชร์เทนนิส บอคเซีย ฟุตบอลตาบอด และยูโด
ทัพนักกีฬาไทยประเดิมเหรียญแรกได้ในวันที่ 2 ของการแข่งขัน จากผลงานของสายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ ที่เอาชนะคู่ต่อสู้จากจีนในการแข่งขันประเภทดาบเอเป้ หญิงเดี่ยว ในรอบรองชนะเลิศ ได้เหรียญทองแดงมาครองเมื่อวันที่ 26 ส.ค.
จากนั้นก็เก็บเหรียญมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากทีมกรีฑา นำโดยพงศกร แปยอ ที่ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายด้วยการคว้าถึง 3 เหรียญทองจากการแข่งขันประเภท 100, 400 และ 800 เมตรชาย T53 แถมยังทุบสถิติได้ทั้ง 3 รายการ คือ ทำลายสิถิติโลกระยะ 400 เมตร และทำลายสิถิติพาราลิมปิกระยะ 100 และ 800 เมตร
นักกีฬาพาราลิมปิกอีกคนหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงมากคือ ขวัญสุดา พวงกิจจา หรือ “ขวัญ” นักเทควันโดสาววัย 21 ปี ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทควันโดคนพิการทีมชาติคนแรกที่ได้เป็นแชมป์โลกรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. ระดับความพิการ K44 เมื่อปี 2019
ที่โตเกียวพาราลิมปิกคราวนี้ ขวัญสุดาผ่านเข้าไปถึงรอบชิงเหรียญทองแดง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. หญิง K44 และสามารถเอาชนะคู่แข่งจากอุซเบกิสถานไปอย่างขาดลอย ได้รับการบันทึกว่าเป็นนักกีฬาพาราไทยคนแรกที่ได้เหรียญรางวัลจากเทควันโด
สื่อกีฬาหลายสำนักเล่าถึงประวัติของขวัญสุดาว่าเธอมาจากครอบครัวที่ยากจนมาก ถึงขนาดที่ไม่มีไฟฟ้า จนที่บ้านต้องใช้ตะเกียงน้ำมัน และอุบัติเหตุจากตะเกียงน้ำมันนี่เองที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้พิการต้องเสียแขนซ้ายไป
รอยยิ้มของขวัญสุดาขณะที่เธอวิ่งโบกธงชาติไทยไปรอบสนามนำความสุขให้โค้ช ทีมงานและคนไทยถ้วนหน้า
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติกำหนดจะมอบเงินอัดฉีดให้นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญรางวัลมาได้ดังนี้ เหรียญทอง 7.2 ล้านบาท เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่น้อย แต่ก็ยังน้อยกว่าเงินอัดฉีดสำหรับนักกีฬาโอลิมปิก (เหรียญทอง 12 ล้านบาท เหรียญเงิน 7.5 ล้านบาท เหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท) นำมาซึ่งเสียงเรียกร้องให้ปรับเงินอัดฉีดของนักกีฬาพาราลิมปิกให้เท่ากับนักกีฬาโอลิมปิกทีมชาติ
สรุปตารางเหรียญพาราลิมปิก 2020 ไทยอยู่ในอันดับที่ 25 จาก 18 เหรียญรางวัล (5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง) ส่วนอันดับ 1-3 ในตารางคือ จีน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ ส่วนเจ้าภาพญี่ปุ่นอยู่อันดับที่ 11
จำนวนเหรียญที่ได้ในโตเกียวพาราลิมปิกเท่ากับ 18 เหรียญรางวัลที่ทัพนักกีทำได้ในพาราลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล (6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง) แต่ไม่ว่าจะอยู่ในอันดับไหนบนตารางเหรียญ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยก็สรุปเอาไว้อย่างดีว่า “จำนวนเหรียญในตาราง ไม่สำคัญเท่ากับพวกเรานักกีฬาพาราไทยได้แสดงความสามารถและความมุ่งมั่นให้ทุกคนได้เห็น”
บีบีซีไทยรวบรวมภาพของนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญรางวัลมาได้จากพาราลิมปิก 2020 ที่โตเกียว
5 เหรียญทอง
ที่มาของภาพ, EPA
พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์เรสซิง คว้าเหรียญทองแรกให้ทีมชาติไทยและยังเป็นเจ้าของสถิติโลกคนใหม่จากการแข่งขันประเภท 400 เมตรชาย T53 เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 46.61 วินาที เมื่อวันที่ 29 ส.ค.
ที่มาของภาพ, Reuters
หลังจากได้เหรียญเงินในการแข่งขันวีลแชร์เรสซิง 400 เมตรชาย T54 ไปแล้ว อธิวัฒน์ แพงเหนือลงแข่งอีกหนึ่งรายการคือวีลแชร์เรสซิง 100 เมตรชาย T54 เมื่อวันที่ 1 ก.ย. และคว้าเหรียญทองได้สำเร็จด้วยเวลา 13.76 วินาที นับเป็นเหรียญทองที่ 2 ของทัพนักกีฬาไทย
ที่มาของภาพ, Reuters
เหรียญทองเหรียญที่ 3 ของไทยในโตเกียวพาราลิมปิก 2020 มาจากพงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรสซิงอีกครั้งจากการแข่งขันประเภท 100 เมตรชาย T53 ซึ่งพงศกรเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลาได้ 14.20 วินาที ทำลายสถิติพาราลิมปิกเกมส์
ที่มาของภาพ, Reuters
พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรสซิงทีมชาติไทยลงแข่งขันประเภท 800 เมตรชาย T53 ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการที่ 2 ของเขาในโตเกียวพาราลิมปิก พงศกรทำเวลาได้ 1.36.07 นาที ทำลายสถิติพาราลิมปิกเกมส์ และคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 3 ให้ตัวเองและเป็นเหรียญทองที่ 4 ของทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 2 ก.ย.
ที่มาของภาพ, Getty Images
นักบอคเซียทีมชาติไทย 4 คน ได้แก่ วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, สุบิน ทิพย์มะนี, วัชรพล วงษา และวรวุฒิ แสงอำภา คว้าเหรียญทองเหรียญที่ 5 ให้ทัพนักกีฬาได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะคู่แข่งจากจีนไป 8-2 คะแนน ในการแข่งขันบอคเซีย ประเภททีม BC 1-2 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.
5 เหรียญเงิน
ที่มาของภาพ, Getty Images
อธิวัฒน์ แพงเหนือ นักวีลแชร์เรสซิงลงแข่งประเภท 400 เมตรชาย T54 รอบชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 29 ส.ค. เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ทำเวลาได้ 45.73 วินาที คว้าเหรียญเงินมาครอง เป็นเหรียญเงินแรกของทีมชาติไทยในครั้งนี้
ที่มาของภาพ, Getty Images
วัชรพล วงษา นักกีฬาบอคเซียทีมชาติไทย แชมป์เก่าในพาราลิมปิกเกมส์ที่บราซิลเมื่อปี 2016 ฝ่าฟันเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันประเภทบุคคล BC 2 มาพบกับคู่ต่อสู้จากญี่ปุ่นเจ้าภาพ แต่วัชรพลแพ้ไป 0-5 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครอง
ที่มาของภาพ, Getty Images
ประวัติ วะโฮรัมย์ นักกีฬาวีลแชร์เรสซิง เตรียมพร้อมออกสตาร์ทในการแข่งขันประเภท 1,500 เมตรชาย T54 เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เขาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ด้วยเวลา 2.50.20 นาที คว้าเหรียญเงินให้ทีมชาติไทย
ที่มาของภาพ, Getty Images
สุจิรัตน์ ปุกคำ นักแบดมินตันพาราลิมปิกทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันแบดมินตัน หญิงเดี่ยว WH1 ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศมาพบกับเจ้าภาพญี่ปุ่น แต่แพ้ไปแบบสูสี 1-2 เกม คว้าเหรียญเงินไปครอง เมื่อวันที่ 4 ก.ย.
8 เหรียญทองแดง
ที่มาของภาพ, Reuters
รุ่งโรจน์ ไทยนิยม นักเทเบิลเทนนิส ได้เหรียญทองแดงประเภทชายเดี่ยว คลาส 6 วันที่ 28 ส.ค.
ที่มาของภาพ, Getty Images
ภูธเรศ คงรักษ์ นักวีลแชร์เรสซิงทีมชาติไทย (สวมหมวกหมายเลข 8) ขับเคี่ยวกับคู่แข่งมาอย่างดุเดือดในการแข่งขันประเภท 5,000 เมตรชาย T54 เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ซึ่งภูธเรศเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 10.30.37 นาที ได้เหรียญทองแดง
ที่มาของภาพ, Reuters
ภูธเรศ คงรักษ์ นักวีลแชร์เรสซิง โพสท่าให้ช่างภาพหลังจากคว้าเหรียญทองแดงเหรียญที่ 2 ของเขาในโตเกียวพาราลิมปิกเกมส์ จากการแข่งขันประเภท 1,500 เมตรชาย T54 เมื่อวันที่ 31 ส.ค.
ที่มาของภาพ, Reuters
นักกีฬาเทเบิลเทนนิสพาราลิมปิกไทย 3 คน ได้แก่ อนุรักษ์ ลาววงษ์ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น และถิรายุ เชื้อวงษ์ ร่วมกันสู้เต็มที่ในการแข่งขันประเภททีมชาย คลาส 3 จนมาเจอกับทีมชาติจีน ซึ่งเล่นได้เหนือกว่าในรอบรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ทีมไทยจึงได้เหรียญทองแดงไปครอง
ที่มาของภาพ, Facebook/กองประชาสัมพันธ์ กกท.
สายชล คนเจน นักวีลแชร์เรสซิงทีมชาติไทย ลงแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ 800 เมตรชาย T54 เมื่อวันที่ 2 ก.ย. เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ท่ามกลางสายฝนในกรุงโตเกียวด้วยเวลา 1.34.19 นาที คว้าเหรียญทองแดงมาครอง
ที่มาของภาพ, Facebook/กองประชาสัมพันธ์ กกท.
5 ก.ย. วันสุดท้ายของโตเกียวพาราลิมปิก อำนวย เวชวิฐานและสุจิรัตน์ ปุกคำ นักแบดมินตันวีลแชร์หญิงของไทยลงแข่งขันในประเภทหญิงคู่ WH รอบชิงเหรียญทองแดง และสามารถเอาชนะคู่แข่งจากสวิตเซอร์แลนด์ไปได้ 2-0 เกม คว้าเหรียญทองแดงเหรียญที่ 8 ให้ทัพนักกีฬาไทย
