ถอดรหัส “โค้ชแม็ก” ร.ต.ท.ชัชวาล ขาวละออ ทุ่มเทเต็มที่กับทุกบทบาทที่ได้รับ – เดลีนีวส์

“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหมายเลข 1 ของโลก ผงาดคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกให้กับวงการเทควันโดไทย และเป็นเหรียญทองที่ 10 ของทีมไทย ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากความสุดยอดที่เกิดจาก “น้องเทนนิส” โดยตรงแล้ว ทีมงานทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลัง ก็มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จในครั้งนี้เช่นกัน ไล่ตั้งแต่กำลังใจครอบครัว การบริหารจัดการที่ดีของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย รวมทั้งการฝึกหนักจากทีมงานผู้ฝึกสอน

ซึ่งผู้ที่เปรียบเสมือนร่วมกัน “ปิดทองหลังพระ” ใน “โตเกียวเกมส์ 2020” ครั้งนี้ ย่อมมีชื่อของ “แม็ก” ชัชวาล ขาวละออ อดีตจอมเตะหนุ่มของไทย รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

ร.ต.ท.ชัชวาล ขาวละออ หรือ “โค้ชแม็ก” ที่ปัจจุบันเป็น 1 ใน 4 ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ “โค้ชเช” เช ยอง ซอก เฮดโค้ชทีมเทควันโดไทย เริ่มเล่นเทควันโดมาตั้งแต่วัย 8 ขวบ ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ “ชุดมันสวยดี”

“ชุดสวยและเท่คือแรงจูงใจที่ทำให้ผมเล่นเทควันโด ตอนนั้นเทควันโด ถือว่ายังไม่นิยมมากนัก แต่พอเล่นแล้วมันท้าทาย อยากแข่ง อยากชนะ แต่ผมก็แพ้มาตลอด แต่พอได้ชนะบ้างก็เริ่มติดใจ มีความมุ่งมั่น อยากลงแข่งขันอีก”

“ผมติดทีมเยาวชนทีมชาติไทยครั้งแรก เมื่อปี 2546 คว้าแชมป์เอเชีย ที่เวียดนาม ด้วยวัย 16 ปี ปีต่อมาไปแข่งเยาวชนชิงแชมป์โลก แต่ไม่ได้เหรียญ ก่อนที่ปี 2548 จะก้าวขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งมีโค้ชเช เข้ามาเป็นเฮดโค้ช พร้อมด้วย โค้ชลี ซอง โฮ จากนั้นก็คว้าแชมป์เยาวชนเอเชียอีกครั้ง ต่อด้วยเหรียญทอง โคเรีย โอเพ่น และติดทีมชุดใหญ่ ไปคว้าเหรียญเงิน ซีเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่ฟิลิปปินส์”

“เจ้าแม็ก” สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม ปี 2549 คว้าเหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย รุ่น 54 กก.ชาย ซึ่งเป็นคนแรกที่ทำได้ ก่อนไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่จีน แต่ไปแพ้ในรอบชิงเหรียญทองแดง แม้จะไม่ได้เหรียญโอลิมปิก แต่เขาก็ได้แชมป์โลกและเหรียญทอง เอเชี่ยนเกมส์ 2010 ที่จีน ก่อนจะประกาศอำลาทีมชาติ ในปี 2555

“หลังเลิกเล่นผมไปทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวที่ช่องที-สปอร์ต ของ กกท. ตอนนั้นไม่คิดว่าจะเปิดยิมเลย จนถึงตอนนี้ก็ไม่คิดจะเปิด ผมอยากเป็นสื่อมวลชน ตามที่ได้เรียนจบคณะนิเทศาสตร์ สาขาวิทยุและโทรทัศน์ ม.เกษมบัณฑิต การอยู่ในแวดวงข่าวทำให้ซึมซับชีวิตและวิธีการทำงานแบบพี่ๆ นักข่าวสายกีฬา ถือเป็นประสบการณ์ดี แปลกใหม่และท้าทายมาก”

ต้นปี 2556 “โค้ชแม็ก” เข้าสู่วงการเทควันโดอีกครั้ง จากคำเชิญชวนของ นายปรีชา ต่อตระกูล (อุปนายสมาคมฯ ในตอนนั้น) ให้เข้ามาเป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งยุคนั้นมีโค้ชไทยร่วมงานกันเกือบ 10 คน แต่แม็กเป็นคนเดียวที่ไม่ต้องเขียนใบสมัคร ไม่ต้องยื่นใบสมัคร ได้เข้าเป็นโค้ชทีมเทควันโดเลย

“ผมโทรฯไปคุยกับโค้ชเช เล่าถึงที่มาที่ไป ซึ่งโค้ชเช บอกว่าโอเค ยินดีมาก ตอนนี้ในทีมเทควันโด มีโค้ชคนไทยอยู่ 4 คน คือ ผม, พี่ชิต-วิชิต สิทธิกัณฑ์, โค้ชเล็ก-ชนาธิป ซ้อนขำ (เหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2008) และโค้ชต้อ-พีระเทพ อ่อนศิลา”

“โค้ชเทควันโด เป็นงานที่ท้าทายมาก ตอนเป็นนักกีฬาเราดูแลแค่ตัวเองเท่านั้น แต่พอมาเป็นโค้ช ต้องดูแลนักกีฬาทุกคน ซึ่งตอนนี้มีทีมชาติชุดใหญ่ทั้งหมด 28 คน มันไม่ง่ายเลย เราต้องมีความละเอียด เรียนรู้นักกีฬาทุกคนอย่างเข้าอกเข้าใจ ซึ่งโค้ชทั้ง 4 คน จะต้องทำให้ได้และทำให้ดีเหมือนกันทุกคน”

ถามว่าได้เรียนรู้อะไรจาก “โค้ชเช” บ้าง “โค้ชแม็ก” บอกว่า เยอะมาก 1 เรื่องระเบียบวินัย 2 ความมุ่งมั่นและเต็มที่ 3 การมีลูกล่อลูกชน โดยเฉพาะกับนักกีฬาทีมชาติ ทุกคนต่างจิตต่างใจ นิสัยแตกต่างกัน เมื่อเข้าแคมป์มาก็ต้องฝึกหนัก ฉะนั้นเราต้องมีทั้งดุ ทั้งปลอบ มีทั้งไม้แข็ง ไม้อ่อน เพื่อให้เขาผ่อนคลาย ไม่เครียด ลำพังแค่ซ้อม ก็หนักแล้ว ยิ่งตอนแข่งขัน ยิ่งหนักเข้าไปอีก อีกอย่างคือเรื่องของเทคนิคการฝึกซ้อมและแข่งขัน ที่โค้ชเช จะมีเคล็ดลับใหม่ๆ มาเสริมเขี้ยวเล็บให้ทั้งโค้ชและนักเทควันโดไทยเสมอ

“โค้ชเชเป็นคนที่มุ่งมุ่นตั้งใจเต็มที่ ทั้งในช่วงฝึกซ้อมและแข่งขัน แกจะบอกเสมอว่านักกีฬาจะเก่งหรือไม่เก่งไม่ได้สำคัญ แต่เรื่องของการมีระเบียบวินัย จะต้องมาก่อนเสมอ เขายังสอนเรื่องการใช้ชีวิตนอกสนามและการทำงาน จุดที่เน้นย้ำคือทุกคนต้องมีความกระตือรือล้นในตัวเองอยู่ตลอดเวลา”

นอกจากจะเป็นโค้ชเทควันโดไทยแล้ว “โค้ชแม็ก” ยังสามารถสอบเข้าเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ทำงานที่ศูนย์บริการการศึกษา โรงเรียนนายร้อยสามพราน จ.นครปฐม อีกด้วย โดยมีหน้าที่สอนด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 1-4

“พ่อผมเป็นพยาบาล พี่ชายเป็นหมอ (นพ.ชาวาลา ขาวละออ) จริงๆ ผมก็อยากเป็นหมอเหมือนพี่ชาย แต่รู้ตัวว่าเรียนไม่เก่ง จึงต้องหันมาเอาดีทางการเป็นนักกีฬาและต่อยอดมาเป็นตำรวจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมาก”

“โค้ชแม็ก” ยังอุทิศตนให้กับงานด้านสาธารณการกุศลอย่างต่อเนื่อง โดยเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญูมาตั้งแต่สมัยเป็นนักกีฬา ซึ่งเขาบอกว่าเป็นอีกงานที่รักเพราะได้ช่วยเหลือชาวบ้านและผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจากภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้หวังเงินทองหรือผลตอบแทนแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้คือบุญกุศลและความสุขใจ

อดีตจอมเตะทีมชาติไทย ยังใช้เวลาว่างจากการเป็นโค้ชเทควันโดและงานตำรวจ ร่วมกับแฟนสาว เปิดร้านขายหอยนางรมและหอยแครงยักษ์ที่ชื่อ “ร้านหอยเติบ” อยู่ที่ตลาดเลียบทางด่วนรามอินทราอีกด้วย โดยเปิดมาตั้งแต่ตอนเกิดไวรัสโควิด-19 ในช่วงแรก

“เร็วๆ นี้เราจะเปิดร้านหอยเติบ สาขา 2 ที่ตลาดรังสิต คลอง 1 จ.ปทุมธานี ซึ่งจะมีอาหารซีฟู้ดขายครบทุกชนิด ทั้งหอยนางรม หอยแครงจักรพรรดิ์ หอยหวาน หอยเชลล์ ปูเนื้อ และกุ้งแม่น้ำ รับรองว่าทุกอย่างสดสะอาดอร่อยส่งตรงจากสุราษฎร์ธานีทุกวัน”

“กระแสตอบรับถือว่าดีมากครับ มีลูกค้าขาจรและขาประจำมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าคนสำคัญก็คือโค้ชเช ที่จะมาซื้อบ่อยๆ เพราะแกชอบกินหอยนางรมมาก”

“โค้ชแม็ก” แจ้งข่าวดีด้วยว่า เขาและ “น้องลูกเกด” วิสาสินี เพชรประพันธ์ แฟนสาววัย 23 ปี เตรียมลั่นระฆังวิวาห์ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ พิธีในช่วงเช้าจะจัดแบบเรียบง่ายภายใต้มาตการป้องกันโควิด-19 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านเกิดของฝ่ายหญิง ส่วนพิธีฉลองสมรสในช่วงเย็นจะต้องเลื่อนไปก่อนประมาณเดือน ก.พ.ปีหน้า เพราะสถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย อีกหนึ่งข่าวดีของ “โค้ชแม็ก” ก็คือเขาจะได้รับการเลื่อนยศเป็น “ร้อยตำรวจเอก” ในต้นเดือน ม.ค.ปีหน้าอีกด้วย

“ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน” ซึ่ง “แม็ก” ร.ต.ท.ชัชวาล ขาวละออ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากีฬาเทควันโดได้ให้อะไรกับเขามากมาย เขาประสบความสำเร็จ ทั้งเกมในสนามและชีวิตนอกสังเวียนได้ เป็นแบบอย่างที่ดีของการเป็นนักกีฬาและการทำงานในหลายบทบาทที่น้องๆ เยาวชนคนไทย น่าจะนำไปศึกษาและเป็นต้นได้ดีเลยทีเดียว

วอน อ่อนวงค์