15เมษายน2564 เมื่อเวลาประมาณ14.00น. หน่วยกู้ภัยฮุก31จุด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนจมน้ำที่บริเวณท่าหาดยาว บ้านทับโพธิ์ หมู่ที่3ต.ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ จึงได้แจ้งไปยัง สภ.รัตนบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ร้อยเวรออกไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ โดยมี ร.ต.อ.ประสิทธิ์ สมศรี รอง สว. (สอบสวน) เป็นผู้รับแจ้ง จากนั้นก็ได้ระดมเจ้าหน้าที่หน่วยประดาน้ำกู้ภัยในพื้นที่ รีบออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อทำการช่วยเหลือและค้นหา
โดยที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เขตรอยต่อระหว่าง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กับ อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด โดยมีแม่น้ำมูลกั้นระหว่างกลาง โดยที่เกิดเหตุเป็นหาดทรายทอดยาวลงไปยังแม่น้ำมูล ชื่อว่า ท่าหาดยาว อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่3บ้านทับโพธิ์ ต.ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งบริเวณหาดทรายมีร้านค้ามาเปิดให้บริการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม และบริการนั่งแพเล่นน้ำ ที่บริเวณริมแม่น้ำมูลทั้ง2ฝั่ง โดยพบชาวบ้านที่มาเที่ยวต่างพากันมุงดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมากทั้ง2ฝั่ง เมื่อเจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยฮุก31จุด อ.รัตนบุรีเดินทางมาถึง ก็พบกับชุดของหน่วยกู้ภัยฮุก31ของทางฝั่ง อ.สุวรรณภูมิ และ อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ดมาเตรียมพร้อมคอยอยู่แล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงได้ประชุมวางแผนในการลงดำน้ำเพื่อค้นหาผู้สูญหาย
จากนั้นหน่วยกู้ภัยฮุก31ทั้ง3อำเภอ ก็ได้ร่วมกันลงไปค้นหายังจุดที่ได้รับการแจ้งบอกจากญาติๆของผู้สูญหาย ซึ่งจุดที่ว่าอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ15เมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีระดับน้ำลึก ซึ่งหน่วยกู้ภัยใช้เวลาประดาน้ำค้นหาประมาณ15นาที ก็พบร่างผู้สูญหายซึ่งเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานานนับชั่วโมง จึงได้น้ำร่างขึ้นมาบนฝั่ง เพื่อรอการชันสูตรของแพทย์ ซึ่งสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายทิวากร อุตมา หรือ น้ำพุอายุ17ปี อยู่บ้านเลขที่ ( ตามบัตรประชาชน )3/9หมู่ที่9ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
จากการสอบถามญาติที่มาด้วยคือ นางอรดี บุญชม อายุ36ปี ซึ่งเป็นอา ชาว ต.สาวแห อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด ได้เปิดเผยว่า นายทิวากร หรือน้องน้ำพุ ได้กลับมาบ้านช่วงปิดเทอมกับน้องชาย ซึ่งเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็จะกลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งได้มาตั้งแต่วันที่10เม.ย. ก่อนที่จะกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯในวันที่17เม.ย. นี้ ซึ่งในวันนี้ก็ได้พากันเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำกับทางครอบครัว ซึ่งมาด้วยกันทั้งหมด3ครอบครัว จำนวน12คน โดยได้เช่าแพและสั่งอาหารมารับประทานกัน ก่อนที่เด็กๆลูกหลานจะพากันลงเล่นน้ำ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน จากนั้นตนก็ได้เห็นน้องน้ำพุ กอดห่วงยางที่เช่ามา ลอยตัวออกห่างจากฝั่งไป โดยมีพี่น้องต่างพากันว่ายน้ำเล่นอยู่ข้างๆกันประมาณ5-6คน แต่พอเดี๋ยวเดียวก็เห็นน้องน้ำพุหลุดออกจากห่วงยางแล้วจมน้ำ โดยเห็นโผล่เพียงมือที่ยกขึ้นเหมือนกับจะขอความช่วยเหลือ ทุกคนต่างตกใจ เพราะรู้ว่าน้องน้ำพุว่ายน้ำไปเป็น จึงได้ตะโกนให้เข้าไปช่วยกัน แต่ก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยได้ทัน น้องน้ำพุได้จมลงหายไปต่อหน้า ซึ่งทุกคนต่างช่วยกันงมหาจนเหนื่อย แต่ก็ได้พบ เนื่องจากจุดนั้นเป็นจุดที่มีร่องน้ำลึกจึงได้รีบโทรฯไปแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย ซึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงก็นานนับชั่งโมง เนื่องจากมีระยะทางไกล จนกระทั่งสามารถงบหาร่างพบ แต่น้องน้ำพุก็ได้สิ้นลมหายใจไปนานแล้ว
โดยหลังจากที่หน่วยกู้ภัยได้นำร่างขึ้นมาบนฝั่ง แม่ของผู้เสียชีวิต ก็ได้แต่ตะโกนร้องเรียกหาลูก น้ำพุๆดังลั่น ส่วนพ่อและญาติๆต่างก็พากันร่ำไห้เสียงดังระงม ก่อนที่พ่อและแม่ ต่างช่วยกันปั๊มหัวใจและร่างของน้องพร้อมร้องเรียกชื่อเพื่อช่วยลูก ทั้งที่รู้ว่าไม่มีโอกาสแล้ว ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวที่มุงดูด้วยความเศร้าสลดกันเป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านที่นี่ต่างพากันกล่าวว่า ท่าหาดยาวแห่งนี้ มีคนมาเสียชีวิตที่นี่ทุกปี ทั้งๆที่มีการเตือนอยู่เป็นประจำ เพราะน้ำที่นี่ลึกมาก และกระแสน้ำข้างล่างจะไหลแรง ทำให้เกิดการดูดคนจมได้ง่าย
ด้าน นายสนทนา เทิดธีรธรรม ปลัดอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ และ นายมนตรี มุงธิราช ปลัดอำเภอโพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ก็ได้กล่าวว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจตราตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่มีเทศกาลต่างๆ เพื่อควบคุมมิให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นสาเหตุใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุ และทะเลาะวิวาทกัน จึงมีข้อห้ามอย่างชัดเจน ส่วนสาเหตุการจมน้ำที่เกิดขึ้น ก็อาจจะเป็นเพราะความประมาทและไม่ฟังคำเตือน ซึ่งต่อไปก็จะต้องวางมาตรการให้เข้มขึ้นกว่านี้อีก เพื่อป้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อีก
เรื่องโดย วิจิตร ชุนหกิจขจร | ภาพโดย วิจิตร ชุนหกิจขจร
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.