นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา และบริษัท เชียงใหม่รีเวอร์ไซด์พลาซ่าโฮเต็ล จำกัด ร่วมลงนามสัญญาบริหาร “โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่” โดยจัดพิธีลงนามสัญญาบริหารระหว่างสองบริษัทฯ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์การรุกขยายธุรกิจของเซ็นทารา สอดคล้องกับแผนธุรกิจและวิสัยทัศน์ในการก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า
สำหรับเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ เป็นโรงแรมสูง 27 ชั้น ขนาด 526 ห้องพัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง แขกผู้เข้าพักสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของแม่น้ำปิงได้จากทุกห้อง ใกล้ย่านเมืองเก่าเชียงใหม่ แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย โดยเซ็นทาราได้เข้ารีแบรนด์ปรับโฉมโรงแรมแห่งนี้ และเปิดให้บริการลูกค้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565
เซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ สามารถมอบประสบการณ์เข้าพักอันน่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนได้ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเหนือระดับ ทั้งห้องพักขนาดกว้างขวาง สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ห้องนวด ห้องซาวน่า และห้องอบไอน้ำ รวมถึงซันเซ็ท พูล เด็ค ใกล้สระว่ายน้ำ ที่เรียงรายไปด้วยเก้าอี้บีนแบคแบบสบายๆ ให้ลูกค้าได้รับชมวิวขอบฟ้ายามบ่ายคล้อยไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน อีกทั้งศาลาริมน้ำที่มอบบรรยากาศอันแสนผ่อนคลายให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำและภูเขาที่โอบล้อมโรงแรมแห่งนี้อยู่ มีห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในภาคเหนือ สำหรับเป็นสถานที่จัดประชุมสัมมนาและงานเลี้ยงทุกประเภท และได้รับการรับรองด้วยตราสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand Mice Venue Standards – TMVS) จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (Thailand Convention & Exhibition Bureau – TCEB)
นายธีระยุทธกล่าวว่า เซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ของเซ็นทาราในเชียงใหม่ ต่อจากโรงแรมคุ้มพญา รีสอร์ทและสปา เซ็นทาราบูติก คอลเลกชั่น โดยในอนาคตเซ็นทารามีกำหนดเปิดให้บริการโรงแรมโคซี่ เชียงใหม่ ในไตรมาส 1 ปี 2568 นับเป็นโรงแรมแห่งที่ 3 ของเครือเซ็นทาราในเชียงใหม่ ทั้งนี้ เซ็นทาราตั้งเป้าขยายโรงแรมและรีสอร์ตในเครือจากปัจจุบันเกือบ 90 แห่ง ให้ได้เป็น 200 แห่ง ภายในปี 2569 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนจำนวนของโรงแรมในไทยและต่างประเทศอยู่ที่จำนวนใกล้เคียงกัน