ดาวเตะวัย 29 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในศึกพรีเมียร์ลีกด้วยการซัดไปแล้ว 10 ประตูจาก 10 เกมลีก และตะบันไป 15 ตุงจาก 14 แมตช์ในทุกรายการ ซึ่งทำให้ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ มีลุ้นแชมป์ลีก และนำทัพ “หงส์แดง” ทะลุรอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อยแล้ว
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “คิง ออฟ อียิปต์ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ก็ต้องขอบคุณความมีระเบียบวินัยในเรื่องโภชนาการ และแผนการออกกำลังกายที่เข้มข้น รวมถึงการตื่นเช้าประมาณตีสามเพื่อออกกำลังกายในช่วงรอมฎอนด้วย
การทุ่มเทของ ซาลาห์ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ลูกหนังในปัจจุบันนี้ แล้ว “บังโม” มีสูตรการกินและการออกกำลังกายยังไง ไปดูกันดีกว่า
การรับประทานให้ถูกต้อง
สิ่งที่ ซาลาห์ นำเข้าไปในร่างกายทุกๆ วันมีความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จของเขา แม้ว่าเจ้าตัวจะมีช่วง “ชีทเดย์” หรือ “วันตามใจตัวเอง” ด้วยการหม่ำพิซซ่าก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเขา
“บังโม” เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องแผนการไดเอทของเขากับ “ซีเอ็นเอ็น” สื่อระดับโลกว่า “โภชนาการมีความสำคัญมาก มันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา มันช่วยเรื่องการฟื้นฟูร่างกายให้กับผม ทำให้ผมนอนหลับสบาย และช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว นักโภชนากรของผมบอกว่าเพราะการที่ผมไม่มีไขมันในร่างกาย ผมสามารถกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ยิ่งผมไม่ดื่มแอลกอฮอลก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่”
หากจะพูดกันตามความเป็นจริง ด้วยการที่ ซาลาห์ เป็นชาวมุสลิมมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องใส่ใจ และระมัดระวังในเรื่องการกินอาหารอย่างมาก สำหรับอาหารเช้า เจ้าตัวจะหม่ำไข่ปาราถะ หรือไข่กับแป้งทอด กับนม 1 แก้ว ถ้าหากเขายังคงหิว ก็จะเสริมด้วยผลไม้ 1 ถ้วย
ในช่วงอาหารกลางวัน ซาลาห์ จะเน้นการพวกแคลอรี่เยอะมาก โดยเขาจะกินถั่วเลนทิล, ผัก, ขนมปัง, ไก่ และตบท้ายด้วยโยเกิร์ต 1 ถ้วย ส่วนเมนูโปรดของ “บังโม” เป็นอาหารประจำชาติอียิปต์ที่มีชื่อว่า คูชารี ซึ่งทำมาจากข้าว, มะกะโรนี และถั่วเลนทิล ส่วนด้านบนจะราดด้วยซอสมะเขือเทศรสเผ็ด, ถั่วลูกไก่ และหัวหอม
สำหรับอาหารเย็นปกติแล้วจะเป็นพวกเมนูเบาๆ อย่างเช่นซุป, สลัด และผักที่ชื่นชอบ พร้อมกับตบท้ายด้วยเมนูล้างปากนั่นก็คือน้ำผลไม้สดที่ปราศจากน้ำตาล 1 เกม ก่อนที่จะเข้านอนเพื่อพักผ่อน
ไม่เคยพลาดการเข้าโรงยิม
“บังโม” เป็นคนที่เสียสละตัวเองอย่างมากในการออกกำลังกาย โดยเขาไม่ได้แค่ทำการฝึกซ้อมกับ “เดอะ เร้ดส์” เท่านั้น เขายังเพิ่มการเล่นเวทเทนนิ่ง, บอดี้เวท, พลัยโอเมตริก (การออกกำลังกายที่ใช้ความแข็งแรงและความเร็ว ในการหด และคลายตัว), โยคะ, ว่ายน้ำ และการยืดเหยียด
“ปกติแล้ว ผมจะตื่นเช้าเพื่อไปฝึกซ้อมโดยจะเริ่มในช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายก็ได้ หลังจากนั้นผมจะทำการฟื้นฟูร่างกายเกือบ 2 ชั่วโมง การทำกายภาพบำบัดในเรื่องอาการบาดเจ็บ หรือการนวดกล้ามเนื้อ สิ่งเหล่านี้มันจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของร่างกายคุณได้”
“ต่อจากนั้นผมก็จะไปเข้ายิมของสโมสรซึ่งเป็นออปชั่นสำหรับนักเตะแต่ละคน หลังจากการฝึกซ้อม ผมจะทำการยืดเหยียดและฟื้นฟูร่างกายอีกครั้ง ตบท้ายผมจะไปไปว่ายน้ำที่สระของสโมสร หรืออยู่กับ มักกะห์ (ลูกสาวของเขา) ที่บ้าน ผมจะเสร็จกิจกรรมทุกอย่างประมาณทุ่มหรือสองทุ่ม” ซาลาห์ กล่าว
ในช่วงระหว่างรอมฎอน แน่นอนว่า ซาลาห์ ต้องทำให้ทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่พลาดแม้แต่นาทีเดียวในการรักษากล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ็ค โดยเจ้าตัวจะตื่นตั้งแต่ตีสาม หลังจากนั้นก็จะอดอาหารหลายชั่วโมงตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งตก เขาจะไปเล่นเวทที่โรงยิมในบ้านตัวเอง
การเปลี่ยนแปลงร่างกายอย่างน่าเหลือเชื่อ
สมัยที่ ซาลาห์ อยู่กับ เชลซี เขาเป็นนักเตะที่ค่อนข้างผอมเลยทีเดียว และก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับการเป็นนักเตะ “สิงห์บลูส์” ก่อนที่จะไปชุบตัวที่ ฟิออเรนติน่า แบบยืมตัว จากนั้นก็ย้ายไป โรม่า
ช่วงเวลาเหล่านั้น ซาลาห์ พยายามวางแผนการไดเอท และออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด จนทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน “บังโม” กลายเป็นนักฟุตบอลที่มีรูปร่างสุดยอดไม่ได้ต่างอะไรกับ โรนัลโด้ ด้วยซ้ำ
บ่อยครั้งที่ ซาลาห์ ไม่กลัวที่จะถอดเสื้อโชว์หุ่นในอินสตาแกรมเพื่อเป็นการเอาใจบรรดาแฟนคลับของเขา ขนาดเพื่อนร่วมสังกัดลิเวอร์พูล ยังต้องอึ้งกับร่างกายที่สุดเพอร์เฟกต์ของเจ้าตัวเลยทีเดียว
เมื่อเร็วๆ นี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ของทัพ “หงส์แดง” ได้แชร์ภาพที่ ซาลาห์ ถอดเสื้ออยู่ในสระว่ายน้ำ ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการมีระเบียบวินัยในตัวเองจึงได้ผลลัพธ์ที่เพอร์เฟกต์แบบนี้
ทอมเม้ง
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.