สุรินทร์- สุดสลด! แม่วัย 47 ปี ชาวเมืองช้าง โดดลงไปช่วยลูกชาย 10 ขวบกับหลานชาย 8 ขวบ จมน้ำในบ่อ สามารถช่วยหลานชายขึ้นมาได้รอดชีวิตคนเดียว แต่ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นจมไปกับลูกชาย เสียชีวิตทั้งสองแม่ลูก ขณะสุนัขตัวสนิทนอนเฝ้าศพไม่ห่าง
วันนี้ (21 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำศูนย์วิทยุสื่อสาร 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีผู้จมน้ำเสียชีวิต 2 ราย เป็นแม่ลูกกัน ที่บริเวณบ่อน้ำข้างสระน้ำสาธารณประโยชน์ หนองตาวิน หมู่ 8 บ้านโคกจ๊ะ ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งเหตุได้ประสานแจ้งให้ ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมื่องสุรินทร์ พร้อมทั้ง ร.ต.ท. ภาณุวัฒน์ ริมหมู่ดี พนักงานสอบสวนเวร เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่บ่อน้ำ ข้างสระน้ำสาธารณประโยชน์หนองตาวิน บ้านโคกจ๊ะ หมู่ 8 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวมายื่นดูเหตุการณ์ด้วยความเศร้าสลด ซึ่งสระน้ำสาธารณะ กำลังมีการขุดลอก ปรับแต่งพื้นผิว รอบสระน้ำ และคนงานที่ทำการลูกลอกสระน้ำ ได้ใช้รถแมคโฮ ขุดบ่อน้ำ ขนาดความยาว ประมาณ 3 เมตร กว้าง 1 เมตร ลึกประมาณ 2.5 เมตร
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีเด็กชาย เอ็ม อายุ 10 ขวบ เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ป.4) กับ เด็กชายโอม อายุ 8 ขวบ เรียน ป.2 โรงเรียนเดียวกัน พร้อมด้วย นางจ๊าบ อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ เด็กชายเอ็ม พากันเดินทางมาที่สระน้ำดูคนงานที่กำลังมีการปรับเกลี่ยหน้าดิน
ขณะเดียวกัน ด.ช.เอ็ม เห็นบ่อน้ำที่รถแมคโฮ ขุดไว้ และมีน้ำซึมออกมาจนเต็มบ่อ อยากรู้ว่า น้ำลึกแต่ไหน จึงได้ กระโดดลงไปในบ่อน้ำ กระทั่งน้ำท่วมหัว พยายามจะปีนขึ้นจากบ่อ แต่ขึ้นไม่ได้ ด.ช.โอม (เสื้อม่วง) ยืนดูอยู่ เห็น ด.ช.เอ็ม จะจมน้ำ จึงเอามือยื่น ไปให้ ด.ช.เอ็ม จับเพื่อจะดึงขึ้น แต่ดึงขึ้นไม่ได้ หนำซ้ำ ยังถูกดึงตกลงไปในน้ำอีกคน เด็กชายทั้ง 2 คน พยายามดิ้นรน เพื่อพยุงร่างกายขึ้นจากบ่อน้ำ แต่ขึ้นไม่ ได้
ขณะที่นางจ๊าบ ผู้เป็นแม่ ด.ช.เอ็ม เห็นเหตุการณ์ ลูกและหลานกำลังจะจมน้ำ ได้กระโดดลงไปบ่อน้ำอีกคน เพื่อช่วยเด็กสองคน ได้ใช้มือดันร่าง ด.ช.โอม ผู้เป็นหลาน อายุ 8 ขวบ ขึ้นจากน้ำได้ รอดปลอดภัย ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น จมน้ำเสียชีวิต ไปพร้อมลูกชาย ด.ช.เอ็ม
ด้าน นายกุน มิตุตาวงค์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านโคกจ๊ะ ผู้ที่ลงบ่อน้ำร่าง 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อน้ำ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเวลา ประมาณเที่ยววัน ตนกำลังหว่านแห ท้ายสระน้ำหนองตาวิน ไม่ไกลจากบ่อน้ำมากนัก ได้ยินเสียง ชาวบ้านที่มาหาปลาที่สระน้ำตาวินว่า มีคนจมน้ำตาย 2 คน แม่ลูก ขอให้ตนมาช่วยเอาร่างขึ้นจากบ่อด้วย จากนั้นตนได้วิ่งมาที่บ่อน้ำ ช่วงนั้นมีชาวบ้านหลายคน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านก็มาด้วย ไปปรึกษากันว่า อย่างไรต้องช่วยเอาร่าง 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อน้ำ และขอให้ทุกคนที่มาที่เกิดเหตุว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แก่ 2 แม่ลูก ตนกล้าที่จะลงน้ำงมเอาศพขึ้นมา ทุกคนตกลงว่า เป็นพยานให้ลุงลงไปเอาศพใน 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อ
ตนจึงลงไปในบ่อ เจอศพ ผู้เป็นแม่ ยังไม่จมน้ำ เพราะอาจเป็นที่เสื้อที่แกใส่ ทำให้พยุงตัวไว้ ทำให้ศพลอยน้ำ ส่วนลูกชายจม ใต้น้ำตนเองก็มุดน้ำลงไปงมศพขึ้นมา ชาวบ้านที่อยู่บนบ่อ ก็ช่วยนำร่าง ทั้งแม่และลูก มานอนไว้ริมขอบบ่อน้ำ อาสากู้ภัยสุรินทร์ นำผ้าขาวมาคลุ่มร่างไว้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์มาชันสูตรพลิกศพ
ส่วนครูที่โรงเรียนราชวิถี ต.เฉนียง ที่น้องนักเรียน ทั้ง ด.ช.เอ็ม และ ด.ช.โอม เรียนอยู่ หลังทราบข่าวก็เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ด้วยความเสียใจกับลูกศิษย์ ด.ช.เอ็ม ที่จมน้ำเสียชีวิต พร้อมทั้งบอกว่า เด็กชายทั้ง 2 คน ไม่ได้เดินทางไปเรียน เมื่อวาน กับวันนี้ หลังจากกลับจากทางโรงเรียน พาไปทัศนศึกษา กลับมาก็ไม่ไปโรงเรียน มาทราบข่าวในวันนี้ บอกว่า เด็กชายเอ็มน้ำเสียชีวิต พร้อมแม่ รู้สึกเสียใจมาก แต่ยังโชคดี ที่น้องโอม รอดชีวิตมาได้
ผู้สื่อข่าวสังเกตุเห็นสุนัขเพศผู้ตัวหนึ่งสีน้ำตาล ดำ นั่งเฝ้าศพของ 2 แม่ลูก ไม่ห่าง บางครั้งนอนเฝ้า บางครั้งเดินรอบๆวนไปวนมาไม่ห่างร่างของ 2 แม่ลูก ผู้สื่อข่าวสอบถาม วิทยา จิตเดียว อายุ 44 ปี พ่อของ ด.ช.โอม ผู้รอดชีวิต ในเหตุการณ์ว้นนี้ บอกว่า สุนัขตัวนี้ อายุ ราว 7 ปี เป็นสุนัขตนเองมันจะสนิท กับป้าจ๊าบมาก ป้าจ๊าบ ผู้ตาย แกชอบไปกินข้าวที่บ้านตนเอง สุนัขตัวนี้ก็มานั่งเล่นนั่งเฝ้าแก่ตอดเวลา วันนี้มันก็ตาม แกมาที่สระน้ำตาวิน ตั้งแต่ก่อนเที่ยง จนกระทั่งแกจมน้ำตาย มันก็ยังเฝ้าอยู่ตลอดเวลา
ร.ต.ท. ภาณุวัฒน์ ริมหมู่ดี พนักงานสอบสวนเวร ได้บันทึกทึกภาพ รวบรวมหลักฐาน สอบปากคำชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้น โดยมีแพทย์หญิงศุธินี ทัตติยกุล แพทย์เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ เดินทางมาชันสูตรพลิกศพ ประสาน อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ นำศพร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ร่าง ส่งพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่นิติเวช โรงพยาบาลสุรินทร์ หลังจากนั้นจะได้มอบศพ ให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ต่อไป
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.