สลด! สามีภรรยา เจ้าของธุรกิจพันล้าน จมน้ำในสระว่ายน้ำโรงแรมบนเกาะเต่าเสียชีวิต – มติชน

สามีภรรยา นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของธุรกิจโรงแรมห้าดาวในจังหวัดภูเก็ต และเป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติกในจังหวัดระยอง และปราจีนบุรี จมน้ำสระว่ายน้ำโรงแรมบนเกาะเต่าเสียชีวิต

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 4 มิถุนายน 64 พ.ต.อ.เกรียงไกร ไกรแก้ว ผกก.สภ.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำภายในสระน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า 2 ราย เป็นสามีภรรยาชาวไทย เชื้อชาติอินเดีย หลังร้บแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ศุภกิจ ชูคำ พนักงานสอบสวน ทีมแพทย์โรงพยาบาลเกาะเต่า และอาสาสมัครมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณสระว่ายน้ำของโรงแรม พบร่างหมดสติไม่มีชีพจรทั้ง 2 ราย แพทย์ พยาบาล จึงได้ช่วยฟื้นคืนชีพ จนเริ่มมีชีพจรอ่อนกลับมา จากนั้นจึงได้นำผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ส่งไปรักษาโรงพยาบาลเกาะเต่า แต่ระหว่างทางผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวนทราบชื่อ นายราเกซ สัจจธรรมกูล อายุ 59 ปี และนางอันชู สัจจธรรมกูล อายุ 55 ปี ทั้งสองเป็นคนสัญชาติไทย เชื้อชาติอินเดีย และเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้าน มีโรงแรมห้าดาวที่ จ.ภูเก็ต และเป็นเจ้าของโรงงานฉีดพลาสติกที่ จ.ระยอง และปราจีนบุรี

จากการสอบปากคำลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนเองและพ่อกับแม่ได้เดินทางมาเที่ยวเกาะเต่าเพื่อพักผ่อน ก่อนเกิดเหตุตนเองได้แยกไปเดินเล่นบริเวณชายหาด ส่วนพ่อและแม่ได้เล่นน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงแรม เมื่อตนเองเดินกลับมาก็พบว่าพ่อกับแม่จมน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำ ตนเองจึงรีบวิ่งไปแจ้งพนักงานโรงแรมให้มาช่วยเหลือ ต่อมาก็มีทีมแพทย์โรงพยาบาลเกาะเต่า และภู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า เข้ามาช่วยชีวิตพ่อกับแม่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตทั้งสองไว้ได้

พ.ต.อ.เกรียงไกร ไกรแก้ว ผกก.สภ.เกาะเต่า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และตามร่างกายผู้เสียชีวิตก็ไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย จึงสันนิษฐานว่านายราเกซ หรือนางอันชู คนใดคนหนึ่งได้จมน้ำก่อนและอีกคนลงน้ำไปช่วย แต่ด้วยทั้งสองคนมีอายุมาก หรืออาจจะว่ายน้ำไม่แข็ง จึงทำให้จมน้ำเสียชีวิตทั้งคู่

เบื้องต้น ร.ต.อ.ศุภกิจ ชูคำ พนักงานสอบสวน สภ.เกาะเต่า ได้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้แพทย์โรงพยาบาลเกาะเต่าชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสำนวนคดี หากญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตเจ้าหน้าที่จะได้ให้นำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป