สลด! พายุถล่มบ้านพัง 3 พ่อแม่ลูกหนีตายลงเรือ ถูกคลื่นซัดล่มลูกชาย 7 ขวบจมดับ

คลิกที่นี่

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 6 พ.ค.64 พ.ต.ท.วุฒิชัย สังวาลทรัพย์ สว.(สอบสวน) สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจมน้ำ ที่บริเวณป่าจากริมคลองหมู่ที่ 4 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงได้ประสานแพทย์ รพ.พระสมุทรเจดีย์ สวาทยานนท์  และมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปตรวจสอบ

ที่บริเวณทางเดินปูนศาลาริมน้ำ หมู่ 4 ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พบ น.ส.จงกล จงกล สะงางาม อายุ 42 ปี  ที่อยู่ 73 หมู่ 11 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มีอาชีพเป็นชาวประมง นั่งกอดสด ลูกชายคือด.ช. สุริยะ สังเวียน อายุ 7 ปี ในสภาพเนื้อตัวเปียกทั้งคู่ ร้องไห้อย่างเวทนาด้วยความเสียใจ โดยมี นายสุรพล เกื่อกล อายุ 52 ปี ที่อยู่ 11/12 หมู่ 1 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ. สมุทรปราการ ผู้เป็นพ่อและมีอาชีพทำประมง ยืนร้องไห้ปลอบภรรยาและดูศพลูกชายด้วยความโศกเศร้า

นายสุรพล เกื่อกล พ่อของ ด.ช.สุริยะ ที่เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า  ได้อาศัยอยู่บ้านพักลักษณะกระต๊อบมุงจาก ปลูกอยู่ที่ริมป่าชายเลนบริเวณปากอ่าว ติดทะเล หมู่ที่ 11 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์  จ.สมุทรปราการ อยู่รวมกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก มีอาชีพทำประมงชายฝั่ง

ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ  03.30 น.เมื่อเช้านี้ได้มีพายุพัดกระหน่ำเข้ามาที่บ้านเป็น ระยะ ๆ พายุลูกแรกพัดผ่านไปด้วยดี พอมาถึงลูกที่ 2  ที่

ซึ่งเป็นลูกที่ใหญ่มากทำให้กระต๊อบบ้านพักของตนพังพินาศปลิวว่อนไปตามแรงลม พังไปต่อหน้าต่อตา ตนจึงได้อพยพ  ภรรยา และลูก ลงเรือแต่ถูกคลื่นซัดจนจมน้ำไปคนละทิศละทาง ตนเองพยายามว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งเพื่อที่จะไปนำเรืออีกลำไปช่วยลูกและภรรยา แต่ก็ไม่สามารถว่ายน้ำถึงฝั่งได้ เนื่องจากคลื่นสูงและแรง จนกระทั่งตนเองว่ายกลับเข้าฝั่งได้ช่วงเวลา 04:30 โดยประมาณ โดยรอยคออยู่ในน้ำประมาณเกือบ 1ชม. จนมาทราบว่า ภรรยา และลูก ถูกชาวบ้านช่วยเหลือไว้ แต่ลูกวัย7ขวบได้เสียชีวิตแล้ว

จากการสอบถาม น.ส.จงกล สง่างาม ภรรนยา โดยเล่าให้ฟังว่า พายุนั้นแรงมากพัดถล่มบ้าน โดยหลังจากบ้านพังก็ต่างคนต่างกระจายกันอยู่ในน้ำ โดยตนเองได้กอดลูกไว้แนบอกแน่นตลอด จนกระแสน้ำพัดไปติดกิ่งไม้จนมีเรือของชาวบ้านมาช่วยไว้ได้

ส่วน นายนที อ่ำถนอม อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ช่วยเหลือ 2 แม่ลูกเข้าฝั่ง ได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากภายุสงบลงช่วงเช้า ตนเองได้นำเรือออกร่องไปทำธุระ ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ก็พบว่า มีหญิงคนหนึ่งกอดลูกอยู่บริเวณป่าจากริมตลิ่ง สภาพเปียกไปทั้งตัว ตนเองจึงนำเรือเข้าช่วยขึ้นฝั่ง และ แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

คลิกที่นี่