‘ยีน’แชร์ประสบการณ์รัก บทเรียนครั้งสำคัญลูกผู้หญิง – ตั้งแต่เล่นละครมา นางเอกสาว ‘ยีน’ เกวลิน ศรีวรรณา ยกให้ละคร “มัจฉา อันดา” ทางช่อง 8 เป็นละครที่ยากที่สุด นอกจากจะต้องใส่ชุดนางเงือกที่ดูจะเป็นสิ่งที่ปราบเซียนแล้ว การที่ต้องลงไปแสดงในถ้ำ ยังเป็นอะไรที่สุดหิน
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
โดยวันนี้เจ้าตัวจะมาเปิดใจถึงบทบาทการแสดงที่ได้รับ และการพัฒนาฝีมือตลอด 9 ปีที่อยู่วงการบันเทิง รวมถึงการแชร์ประสบการณ์ตรงในเรื่องความรักที่ผ่านมาของเธอ ซึ่งถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ
บทบาทในละคร มัจฉาอันดา เป็นอย่างไรบ้าง?
ยีน – “เรื่องนี้ยีนรับบทอันดา นางเงือก จากมหาสมุทรแดนเหนือ มีภารกิจปกป้อง คทาสมุทรซึ่งเป็นอาวุธเปรียบเหมือนขีปนาวุธ ห้ามตกอยู่ในมือคนชั่ว”
แบบนี้ต้องใส่หางนางเงือกด้วยใช่ไหม?
ยีน – “ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่ปราบเซียนมากพอสมควร โอเคเรามีพื้นฐานการว่ายน้ำ แต่สิ่งที่ยากคือเหมือนเราถูกมัดขาอยู่ในถุงทำให้ยืนในน้ำไม่ได้ เวลาอยู่กลางน้ำต้องหาอะไรเกาะ เพราะตีขาตลอดเวลาไม่ไหว มันหมดแรง บางซีนแช่น้ำนานมาก ถ่ายตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมงเย็น แล้วถอดหางแค่รอบเดียวคือตอนพักเที่ยง นิ้วลอกแบบเหี่ยวไปหมดเลย”
“ตั้งแต่ถ่ายละครมาเรื่องนี้ยากที่สุดแล้ว ไหนจะลงไปอยู่ที่ถ้ำใช้เวลา 4 วันในการถ่ายทำ หินสุดๆ เนื่องจากในถ้ำอากาศไม่มีและร้อนจนหายใจไม่ออก สมองบางทีมันเบลอ ถ้าเทียบกันส่วนตัวมองว่าอุปสรรคในการลงน้ำไม่เยอะเท่าการลงไปอยู่ในถ้ำ ก็ถือเป็นความสนุกและท้าทายดีค่ะ”
นอกจากเรื่องนี้ ยังมีผลงานอื่นอีกไหม?
ยีน – “มีเรื่องศีรษะมาร ตอนนี้กำลังถ่ายทำ น่าจะได้ชมกันกลางปี ซีจีเรื่องนี้ก็ไม่เบา”
โลดแล่นในวงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว?
ยีน – “9 ปีค่ะ ถือว่ามีผลงานต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของตัวเอง ทุกครั้งเวลาเล่นละครแต่ละเรื่องเราจะคิดว่าต้องเล่นยังไงที่จะให้คาแร็กเตอร์ไม่ซ้ำ ยอมรับเป็นโจทย์ที่ยากกับการจะหาคาแร็กเตอร์เพื่อไม่ให้ซ้ำทางตัวเอง อยากให้คนดูและผู้ใหญ่เห็นในความแตกต่างว่าเราสามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา กับ 9 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวถือว่าพอใจ เนื่องจาก มีการพัฒนาแบบกราฟขึ้น แต่ละบทบาท ก็ท้าทายขึ้นเรื่อยๆ”
ยังเซ็นสัญญากับช่อง 8 อยู่ใช่ไหม?
ยีน – “ใช่ค่ะ เพิ่งต่อสัญญาอีก 5 ปี เพราะอยู่ที่นี่มีผลงานเรื่อยๆ แล้วเป็นภาพจำของทุกคนว่า ยีน เกวลิน อยู่ช่อง 8 อีกอย่างเราไม่เห็นว่าละครของช่องอื่นแตกต่างจากช่องเรา ที่ชอบคือช่อง 8 ค่อนข้างทำงานแนวแฟนตาซีเยอะ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุก ชอบเล่นอะไรที่เหนือธรรมชาติไปแล้ว”
คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง?
ยีน – “จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อย่างการมาอยู่ช่อง 8 เวลายีนไปต่างจังหวัด หน้าไม่แต่งเขาก็ยังจำได้ ถึงแม้คนจะรู้จักเราไม่เยอะมากแต่ยังไงการที่เรามีงานตรงนี้ก็แฮปปี้แล้ว ส่วนถ้ามันจะเปรี้ยงปร้างขึ้นมาก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้วค่ะ”
มองเรื่องความโด่งดังบ้างไหม?
ยีน – “มองค่ะ บางทีเราอาจจะเป็นที่นิยมในกลุ่มคนอีกแบบหนึ่ง หรือบางคนอาจจะได้กลุ่มคนที่เป็นโซเชี่ยล ด้วยไลฟ์สไตล์เราไม่หวือหวา ไม่เน้นทำอะไรแล้วต้องโพสต์ตลอด แต่จริงๆ คนที่อยู่ในที่แจ้งมันควรต้องโพสต์อะไรบ้างเนอะ ปีนี้ก็ตั้งเป้าว่าจะพยายามผลักดันตัวเองเข้าสู่โซเชี่ยลให้มากขึ้น พยายามลงรูปมากขึ้นค่ะ”
มาถึงเรื่องความรัก อัพเดตหัวใจกันหน่อย?
ยีน – “เพิ่งมีคนคุยได้เดือนกว่าๆ หลังโสดมา 2 ปี ที่ตัดสินใจคุย คือถูกใจไลฟ์สไตล์ที่ตรงกัน ชอบอะไรคล้ายๆ กัน ความที่ยีนใจร้อน เขาใจเย็น เลยคิดว่าลองคุยกันดู คนนี้เป็นคนไทย อายุมากกว่า แต่ไม่บอกว่าเป็นคนในหรือนอกวงการ”
ย้อนถึงความรักที่ผ่านๆ มา ได้ข่าวว่าเจอแต่ผู้ชายแปลกๆ?
ยีน – “สมัยก่อนเคยมีแฟนคนไทยขึ้นชื่อเป็นไฮโซ คบกัน 3 ปีกว่าได้ สิ่งที่เขาให้เรามาทุกอย่างมันคือตามวาระโอกาสและเทศกาล ก็เป็นสิ่งที่แฟนทำให้กันอยู่แล้ว แต่วันที่เลิก เขากลับทวงทุกอย่างคืน บอกเลยช็อก เสียความรู้สึก”
พอโดนทวงมา ได้คืนเขาไหม?
ยีน – “ไม่ค่ะ เอาตรงๆ เขาฟ้องเราเลย มีจดหมายมาที่บ้าน พอดีตอนนั้นคุยกับพี่ดิว (อริสรา) เขาเลยแนะนำทนายมาให้ ทนายบอกว่าเคสนี้คบกันด้วยเสน่หา ไม่ใช่มีพันธสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มีของแบรนด์เนมบางอย่างที่คืนไป อยากได้คืนก็เอาไป”
หนีเสือปะจระเข้ เพราะเจอคนใหม่ที่หนักกว่า?
ยีน – “ใช่ หลังเลิกกับคนนั้น ก็ขยาดผู้ชายไทย มาคบคนสิงคโปร์ คบเดือนแรกไม่มีปัญหา แต่เริ่มรู้สึกว่าเขาเหมือนมีปัญหาเวลาเขาทำอะไรให้แล้วเราแค่ Thank you อย่างเดียวไม่ได้ แต่เขาต้องการคำพูดที่สวยหรูกว่านั้น แล้วปัญหาอยู่ที่ว่าพอเขาไม่จบ เขาอารมณ์เสียใส่เรา ลงไม้ลงมือ”
“เดือนที่สองเขามาเที่ยวกรุงเทพฯ จองห้องพักและซ่อนดอกไม้ไว้ในตู้ เราก็พูดว่าไม่ต้องเตรียมอะไรให้เลย แค่มาหาก็แฮปปี้แล้ว เขาถามว่าแน่ใจนะ เขาก็เดินไปที่ตู้คว้าช่อดอกไม้ เขวี้ยงใส่ถังขยะ ตะโกนด่าเราว่าไร้สกุล โอ๊ย! คือช่วงที่คบเขาในระยะเวลาหนึ่งปีเป็นอะไรที่เรารู้สึกด้อยค่าลงไปทันทีเมื่ออยู่กับคนคนนี้”
เห็นว่าโดนกักขังและ ด่าหยาบด้วย?
ยีน – “เขาด่าว่าอีกะ-รี่ มึงต้องอยู่ที่นี่ ถ้ามึงจะออกไปไม่ต้องเหยียบสิงคโปร์อีก อยู่ที่นั่น 10 เดือนกว่า มีอย่างเดียวที่ทำได้คือต้องกลับไทยเดือนละครั้ง เพราะพาสปอร์ตเราอยู่ได้แค่เดือนละครั้ง พอรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ ทุกเดือนเราก็จะทยอยขนของเรากลับ แต่ต้องทำแบบไม่ให้เขารู้”
สุดท้ายหลุดออกมาจากชีวิตผู้ชายคนนี้ได้ยังไง?
ยีน – “เพราะโควิด ต้องขอบคุณโควิดที่มาช่วยชีวิต ตอนนั้นพอได้กลับไทยแล้วเป็นช่วงล็อกดาวน์ประเทศ เขาเป็นคนบอกเลิกเนื่องจากเราบอกปัดที่จะไปหา แล้วเราอ้างว่าเราเซ็นสัญญากับช่อง 8 ต่อ ทำให้เขาตัดเราได้เร็วเพราะเขาต้องการจะเอาเราไปอยู่นู่น”
ทำไมทนอยู่ตั้งเป็นปี?
ยีน – “เราห่วงความปลอดภัยตัวเอง เพราะเขาขู่ว่าถ้าเรากลับไทย เขาจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ เขาบอกเขาไม่มีอะไรจะเสีย คือเขาสามารถปั้นเรื่องมาทำลายชีวิตเราได้อ่ะ”
ครอบครัวรู้เรื่องไหม?
ยีน – “เพิ่งบอกครอบครัวตอนที่เลิกแล้ว ไม่อยากให้เขากังวลเลยจัดการด้วยตัวเอง เชื่อว่าแม่คงเสียใจอยู่ลึกๆ เขาเลยไม่ค่อยอยากให้มีแฟน เพราะเจอแต่คนแบบนี้”
ยังเชื่ออยู่ไหมว่ารักแท้มีอยู่จริง?
ยีน – “เชื่อค่ะ ยังศรัทธาในความรัก คือเราเติบโตมาในครอบครัวที่ทุกคนให้ความรัก แฟนคลับก็รักเรา ก็เลยยังเชื่อ เพราะไม่ใช่ว่าคนรอบข้างทุกคนทำร้ายเราหมด แค่เพียงว่าสิ่งที่เราเจอมามันคือความโชคไม่ดี แต่ถามว่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ไหม กลัวค่ะ แล้วก็ระแวงไปเลย”
มุมมองความรักเปลี่ยนไหม?
ยีน – “เปลี่ยนไปเยอะเลย กลายเป็นระวังตัวมากขึ้น บางเรื่องคือดีเพราะเป็นเรื่องความปลอดภัย ถ้าสมมติว่ามันไม่ใช่ขึ้นมาก็สามารถตัดได้เลย แต่เรื่องไม่ดีคือมันอาจจะทำให้คนที่เราคบอยู่เหนื่อย ฉะนั้นเราก็ต้องพยายามควบคุมความรู้สึกตัวเอง”
ฝากอุทาหรณ์ถึงผู้หญิง?
ยีน – “เรื่องที่แชร์ ยีนประสบมาตรงๆ เราไม่ควรให้ใครมากดขี่ข่มเหง ตราบใดที่เรายังมีแรงทำ เราทำเองดีกว่า อย่าให้คนมองว่าผู้หญิงเป็นเพศอ่อนแอ ที่ผ่านมาเราอาจ จะอ่อนแอทางร่างกาย แต่จิตใจเราไม่เคยอ่อนแอค่ะ”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล