พ่อเมืองกาญจน์ สั่ง นอภ.นำกำลัง อส.ฝ่ายปกครองจับ 2 ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า พันสองร้อยเม็ด
แอบลักลอบขายยาให้กับนักท่องเที่ยวบนแพพักกลางเมืองกาญจน์ เห็นเจ้าหน้าที่กระโดดน้ำว่ายหลบหนีดำน้ำมุดใต้แพปีนช่องลับหนีซ่อนตัวบนฝ้า แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ถูกติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 8 มิ.ย.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่บ้านลิ้นช้าง หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี ว่ามีขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดนำยาบ้ามาขายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาล่องแพ และกลุ่มชาวบ้านทาสยา โดยใช้แพพักข้างท่าเทียบแพแควใหญ่ เกาะรัตนกาญจน์ ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ เป็นขายและแหล่งมั่วสุมเสพยา
หลังรับแจ้งนายจีระเกียรติ จึงได้สั่งการให้นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และ นายอรรถพล แก่นทรัพย์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลัง ร้อย อส.ที่ 2 และ ร.ต.อ.สุชาติ เรณู รอง สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร่วมกับนายนพดล กระจ่างฉาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ปากแพรก นำกำลังลงพื้นที่เกาะรัตนกาญจน์ เพื่อตรวจสอบ โดย นายอรรถพล แก่นทรัพย์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อม อส.10 นาย ลงพื้นที่สืบหาข่าว
พบว่าแพพักต้องสงสัย เลขที่ 21/2 หมู่ 1 ต.ปากแพรก มีผู้ชาย 2 คน ทราบชื่อในเวลาต่อมา ชื่อนายสุริยา แดงหิรัญ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กับ นายภูวนัย ภังคานนท์ อายุ บ้านเลขที่ 97 หมู่ 3 ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี อยู่ในบ้านสภาพเหมือนคนเมายา มีพฤติการณ์น่าสงสัย นายอรรถพล จึงแสดงตัวและสอบถาม แต่คนทั้ง 2 ลักษณะท่าทางมีพิรุธ พูดจาวกไปวนมาแบบไม่รู้เรื่อง
สอบถามทราบว่าจนยอมรับสารภาพว่า เพิ่งเสพยาบ้ามา จึงทำการจับกุมตัว และนำตัวนายภูวนัยนำพาเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นภายในแพพักที่มีห้องพักอยู่ 3 ห้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายภูวนัย ได้นำพาเจ้าหน้าที่เดินลงแพ เมื่อถึงแพพัก นายภูวนัย ได้กระโดดลงไปแม่น้ำแควใหญ่ เพื่อว่ายน้ำหลบหนี ดำน้ำหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเจ้าหน้าที่ อส.คาดว่า นายภูวนัย น่าจะดำน้ำมุดไปหลบซ่อนตัวอยู่ใต้แพ เจ้าหน้าที่ อส.จึงได้กระโดดลงน้ำว่ายติดตามไปค้นหา แต่ก็ไม่พบ ใช้เวลาดำน้ำค้นหาอยู่ใต้แพพักอยู่นาน
จึงพบว่า ใต้พื้นแพพักมีการทำช่องลับเอาไว้ จึงเปิดออกดูพบว่า ภายในช่องลับมีกล่องกระดาษขนาด กว้าง 12 นิ้ว ยาว12 นิ้ว หนา 3 นิ้ว ซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับ จึงนำกล่องกระดาษออกมาตรวจสอบ พบภาพในกล่องกระดาษ มียาบ้า 1,200 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใส่ ถุงละ 50 เม็ด จำนวน 24 ถุง และพบถุงพลาสติกใสสำหรับบรรจุยาบ้าแบ่งขายกว่า 100 ถุง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดยาบ้าไว้
จากนั้น นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้นำ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นแพอย่างละเอียด พบว่าภายในห้องนอนทั้ง 3 ห้องไม่สามารถเปิดประตูได้ เพราะกลอนประตูเป็นประตูอัตโนมัติที่ใช้กลอนแบบกดรหัสและต้องสแกนนิ้วมือจึงจะสามารถเปิดปิดกลอนประตูได้
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจหาวิธีโดยการงัดกลอนประตูเข้าไปตรวจสอบ เมื่อเปิดประตูได้ พบว่าภายในห้องนอนบนพื้นมุมห้องมีการเจาะพื้นเป็นช่องขนาด 60 ซม.คูณ 60 ซม. ในช่องลับใต้พื้นมีการทำช่องใส่ของคือช่องที่พบกล่องกระดาษใส่ยาบ้าที่ตรวจค้นพบ
ขณะทำการตรวจค้นในห้อง นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้ยินเสียงกุ๊กกักบนฝ้าเพดานใต้หลังคาแพ เหมือนมีอะไรซุกซ่อนอยู่บนฝ้า จึงสั่งการให้ปลัด และอส.ทำการเปิดฝ้า และปีนขึ้นไปตรวจสอบ ก็พบว่า นายภูวนัยที่กระโดดลงแม่น้ำดำน้ำหลบหนีไป ซ่อนตัวอยู่บนฝ้าเพดาน จึงทำการจับกุมนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสุริยา และ นายภูวนัย 2 ผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพว่า มาเสพยาที่แพหลังนี้อยู่เป็นประจำ เวลาอยากยา ไม่ได้เป็นเจ้าของยาบ้าที่พบ ยาบ้าที่พบไม่รู้ว่าเป็นของใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ
ภายหลังการจับกุม นายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการบุกตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้รับการร้องเรียนว่า แพพักหลังดังกล่าวเป็นสถานที่แอบลักลอบจำหน่าย และมั่วสุมค้ายาเสพติดกันอยู่เป็นประจำ จึงได้สั่งการให้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบชาย 2 คน ต้องสงสัยและมีพิรุธ แถมยังมีการหลบหนีการจับกุม รวมทั้งค้นพบยาบ้าจำนวนประมาณ 1,200 เม็ด จึงทำการจับกุม และจะต้องตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งแพหลังดังกล่าวเป็นแพ 1 ใน 13 หลัง ที่ทางราชการฟ้องขับไล่จากพื้นที่เดิม เพราะไม่ยอมย้ายจากจุดที่ทางจังหวัดจัดทำไว้ให้เป็นท่าจอดแพ ซึ่งมีคดีฟ้องร้องกันอยู่
และจากการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ ทำให้ทราบว่าเหตุที่ไม่ยอมย้ายแพไปจอดยังที่แห่งใหม่นั้น เชื่อว่าแก๊งค้ายาเสพติดใช้แพพักแห่งนี้เป็นสถานที่ในการค้ายาบ้าให้แก่กลุ่มพวกติดยา ซึ่งก็เป็นไปตามที่มีคนร้องเรียนมาทางจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล และติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ ที่ถือว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่ขายให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวล่องแพและชาวบ้านใกล้เคียง ก็จะขยายผลตามระเบียบกฎหมายต่อไป เบื่องต้นจะสืบสวนติดตามตัวและออกหมายจับ นายศิวาภัทร จันทร์ฉาย น้องชายนายสุริยา ซึ่งเป็นเจ้าของแพพักหลังนี้ต่อไป
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาคนทั้ง 2 ในข้อหาร่วมกับครอบครองยาเสพติดประเภท1(ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติดต่อไป