นครพนม ปู่แทบขาดใจ หลานชายสุดรัก พ่อแม่แยกทางดูแลยิ่งกว่าลูก เปิดเรียนวันแรก หลังเลิกเรียนไปลงเล่นน้ำกับเพื่อนบริเวณฝายเก็บน้ำลึกกว่า 5เมตร ว่ายน้ำไม่เก่งจมน้ำดับ เสียดายอนาคตหวังเป็นที่พึ่งของครอบครัว ทั้งเรียนเก่งอยู่ห้องเรียนพิเศษ และเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน เจ้าหน้าที่ฝากเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครอง หมั่นดูแลบุตรหลาน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ร.ต.ท.สมภพ ห้วยทราย รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาแก นครพนม รับแจ้งมีเหตุจมน้ำเสียชีวิต บริเวณฝายน้ำล้น ในพื้นที่บ้านท่าศิลาลม หมู่ 8 ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม จึงประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ชุดกู้ชีพโรงพยาบาลนาแก แพทย์เวร เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ ค้นหาผู้เสียชีวิต
โดยในที่เกิดเหตุพบเป็นฝายน้ำล้น ระดับความลึก ประมาณ 5 เมตร ใกล้จุดเกิดเหตุพบเสื้อนักเรียน และรองเท้า สีน้ำตาลผู้สูญหายวางอยู่ริมตลิ่ง เจ้าหน้าที่จึงระดมช่วยกันค้นหา ใช้เวลานานกว่าชั่วโมง จึงสามารถค้นหาพบร่างผู้เสียชีวิต ห่างจากฝั่งประมาณ 4 -5 เมตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลัง คือ เด็กชายเกียรติพงศ์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนาแกสามัคคีวิทยา ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยบาดแผล อยู่ในสภาพสวมกางเกงนักเรียน ไม่สวมเสื้อ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบชันสูตรเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ภายหลังเกิดเหตุ ได้มีปู่ผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูสภาพศพหลานชาย ร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุสลดแบบนี้
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายจตุพงษ์ ไพจันทร์ อายุ 64 ปี ปู่ผู้เสียชีวิต ให้การว่า ปกติหลานชายอาศัยอยู่กับตนมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่แยกทางกันทำงานที่ต่างจังหวัด เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนจึงดูแลเสมือนลูก ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมาแม่มารับไปเที่ยว ที่ จ.ขอนแก่น พึ่งกลับมาส่งไม่กี่วัน เพราะจะเปิดเทอม จนกระทั่งวันนี้ไปโรงเรียนวันแรกของการเปิดเทอมใหม่ จากนั้นช่วงเลิกเรียน เพื่อนเล่าว่าได้ชวนกันไปเล่นน้ำ 4-5 คน บริเวณฝายจุดเกิดเหตุ แต่หลานชายที่เสียชีวิตว่ายน้ำไม่เก่ง คาดว่ากระโดดลงไปในจุดน้ำลึก ทำให้หมดแรงไม่สามารถว่ายน้ำช่วยเหลือตัวเองได้ และเพื่อนช่วยไว้ไม่ทัน ก่อนจมน้ำเสียชีวิต
ทั้งนี้ทางเพื่อน และญาติพี่น้อง ยังระบุอีกว่าแสนเสียดายอนาคต นอกจากจะเป็นเด็กเรียนเก่ง ได้มีโอกาสเรียนในห้องเรียนพิเศษ ยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอีกด้วย ชอบเล่นกีฬา เก่งทั้งกิจกรรมและการเรียน มีความประพฤติเรียบร้อย และเป็นความหวังของครอบครัว โดยเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนโดยละเอียดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครอง หมั่นดูแลบุตรหลาน ช่วงวันหยุด และหลังเลิกเรียน หวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
+++++++++++++
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.