ในการบรรยายพิเศษ หัวข้อ The Rapid Digital Transformation in the Leading Energy Business ในพิธีเปิดหลักสูตร Digital Transformation for CEO # 3 จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (2 เม.ย.2564)
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวตอนหนึ่งว่า โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ทำให้ธุรกิจต้องรับตัว ในส่วนของอุตสาหกรรมพลังงานกำลังถูกท้าทายด้วยอัตราเร่งของการเปลี่ยนแปลงทางพลังงาน ความผันผวนต่าง ๆ ทั้งโรคระบาดและราคาน้ำมันเป็นปัจจัยเร่งการตัดสินใจลงทุนใน Digital Technology มากขึ้น และเกิดความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม ซึ่งจะมี Internet of Things เชื่อมโยงทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะเครื่องจักร แต่ทุกความต้องการของมนุษย์เข้าด้วยกัน ขณะนี้เราอยู่ในยุคของ intelligence ซึ่ง machine เริ่มสื่อสารกันเองได้ และตัดสินใจแทนคนในหลาย ๆ เรื่อง และ Machine เริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเอง และก็พัฒนา ซึ่งมีทั้งประโยชน์มหาศาล และโทษก็อนันต์ ซึ่งเราต้องบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ดี
ทั้งนี้อิทธิพลของดิจิทัลเข้ามาทำให้รูปแบบการทำธุรกิจเปลี่ยนไปมาก และที่พูดกันว่าสมัยนี้หมดยุคแล้วที่เราเคยได้ยินว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” แต่ต้อง “เป็นปลาที่ว่ายน้ำเร็ว” แต่วันนี้ขอเพิ่มว่า ต้องเป็น”ปลาตัวใหญ่ และว่ายน้ำเร็ว”ด้วย
ขณะทิศทางของอุตสาหกรรมพลังงานซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ปตท.ถือเป็นบริษัทขนาดกลางเมื่อเทียบกับบริษัทพลังงานรายใหญ่ ๆ ในโลก ปัจจุบันอุตสาหกรรมพลังงานมีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยทิศทางได้มุ่งสู่พลังงานสะอาด(GO GREEN) และมุ่งสู่พลังงานไฟฟ้า (GO ELECTRIC) โดยผู้นำโลกอย่างสหรัฐฯประธานาธิบดีไบเดนส่งสัญญาณชัดกระแสโลกจากนี้มุ่งสู่พลังงานสะอาด โดยนโยบายด้านนี้จะแรงขึ้น
อย่างไรก็ตามเชื้อเพลิงจะมีช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งปัจจุบันโลกเราใช้พลังงานหลัก ๆ ได้แก่ ถ่านหิน น้ำมัน และแก๊ส แนวโน้มข้างหน้า 3 ตัวนี้จะลดการใช้น้อยลง เพราะเป็นโฮโดรคาร์บอน ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไร แต่ก่อนจะไปถึงพลังงานทดแทน เวลานี้ต้นทุนพลังงานทดแทนโดยรวมก็ยังแพงกว่า ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับยังไม่มากพอ ซึ่งพลังงานทดแทนอาจจะใช้เวลานิดหนึ่ง แต่ช่วงที่เปลี่ยนที่จะไปก่อนคือถ่านหิน ตามด้วยน้ำมัน ส่วนแก๊สยังมองว่าเป็นเชื้อเพลิงช่วงเปลี่ยนผ่านอยู่ เพราะในบรรดา 3 ตัวนี้ แก๊สสะอาดที่สุด และเวลานี้อินฟาร์สตรัคเจอร์มันพร้อมทั่วโลก เพราะฉะนั้นก็จะยังอยู่ไปอีกระยะหนึ่งโดยสรุปแนวโน้มภาพใหญ่ของพลังงานคือ GO GREEN และ GO ELECTRIC โดยมีแก๊สหรือก๊าซเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน
สำหรับในยุคดิจิทัลแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ยังเดินคนเดียวไม่ได้ จะคิดหรือพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตัวเอง เขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง ทำเรื่องดิจิทัลด้วยตัวเอง “ยาก” เพราะฉะนั้นจะเกิดโมเดลของการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กันเต็มไปหมด ยักษ์ใหญ่ก็ต้องจับมือกัน อย่างบริษัทด้านพลังงานก็ต้องวิ่งไปจับกับบริษัทที่เป็นดิจิทัลทั้งหลายเพื่อที่จะเอาโนว์ฮาว หรือองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้กับของตัวเอง หรือสร้างธุรกิจใหม่ร่วมกัน
“ปตท.ต้องทรานส์ฟอร์มแต่คงไม่ทิ้งของเดิมเลย และจะรุกเปลี่ยนร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่ได้ เพราะโลกนี้อย่างไรพลังงานก็ต้องใช้ อย่างพลังงานไฟฟ้ายังต้องใช้ แต่แน่นอนต้องเป็นพลังงานรูปแบบใหม่ เป็นพลังงานที่โลกปัจจุบันและอนาคตจะต้องใช้ เพราะฉะนั้นเราจะเป็นบริษัทพลังงานที่เอาเรื่อดิจิทัล เอาเรื่อง Text ทั้งหลายมาใช้ในองค์กร และมีการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่เป็นเทรนด์”
ปัจจุบันในองค์กรของปตท.ในส่วนของฝ่ายกฎหมายหรือฝ่ายบัญชีได้นำ AI (Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์) เข้ามาช่วยในการอ่านสัญญาต่าง ๆ เพื่อดึงเนื้อหา หรือคีย์เวิร์ดออกมา ขณะที่ในธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมี โรงกลั่นครบวงจรของปตท. ที่จะมีอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำส่งต่อกัน ซึ่งตลอดทั้งซัพพลายเชนของปตท.และนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ทั้งหมด ทั้งนี้โรดแม็ปของปตท.คือองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยปีนี้จะมีการจัด AI Contest ใน ปตท. คือแต่ละฝ่ายที่นำ AI มาใช้ในงานของตัวเองจะจัดประกวดแข่งกัน เพื่อกระตุ้นในทุกหน่วยงานในองค์กรนำ AI มาใช้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
8แสนล้านลุย‘S-Curve’ ปตท.สยายปีกรุก‘อีวี-คลาวด์-AI-ยา’
ปตท.ก้าวสู่ยุควิสัยทัศน์ใหม่ ปรับองค์กรสู่การเป็นบริษัทพลังงานรูปแบบใหม่รับ 6 เทรนด์มาแรง
ปตท.ผนึกม.มหิดลวิจัย-พัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก
ปตท. ขยายเวลาส่วนลด LPG ผู้มีรายได้น้อย 3 เดือนถึง มิ.ย.
ปตท.สผ.พบแหล่งน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติอีกโครงการซาราวัก เอสเค 405บี
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.