จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 65 เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนประสานงากับรถเก๋ง เหตุเกิดบนถนนสุรินทร์สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ จนมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ น.ส.สุพัตรา คำปัจฉิม อายุ 20 ปี ส่วนนางสุภาพร คำปัจฉิม อายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวอยู่ในห้อง ICU
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 ส.ค. มีรายงานว่า นายโจ้ (นามสมมติ) ตำรวจ จ.สงขลา แฟนหนุ่มของ น.ส.สุพัตรา พร้อมกับญาติ เดินทางมารับศพ ซึ่งทันทีที่นายโจ้มาเห็น ก็มีอาการเศร้าสลดเสียใจ และได้ก้มลงหอมแก้มศพแฟนสาว โดยบรรกาศเป็นไปอย่างสุดเศร้า
นายโจ้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยแต่งหน้าศพแฟนสาว จากนั้นทางญาติได้นำชุดแต่งงานสีขาวมาสวมใส่ร่าง น.ส.สุพัตรา อย่างสวยงาม โดยนายโจ้ได้สวมใส่ชุดเจ้าบ่าว และเฝ้าดูช่างแต่งตัว บรรจงหวีผมให้กับศพแฟนสาวอย่างใกล้ชิด ก่อนจะมีการจัดงานวิวาห์ขึ้นอย่างเรียบง่าย
ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดบ้านขามน้อย ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ บรรยากาศงานศพวันนี้เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางญาติได้ทำรูปของ น.ส.สุพัตรา ตั้งไว้ที่หน้าโลงศพ เพื่อนตำรวจของเจ้าบ่าวเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย และทางเจ้าบ่าวก็ได้แต่ร้องไห้ จนทางญาติต้องเข้าไปปลอบใจตลอดเวลา
ส.ต.อ.ชวพล แซ่เฮ้า หรือ เต้ อายุ 26 ปี เจ้าบ่าว เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองเป็นคน จ.ยะลา และได้รู้จักกับเจ้าสาว ผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 63 และเริ่มตัดสินใจคบหากันอย่างจริงจัง โดยตัดสินใจจะแต่งงานกัน กำหนดแต่งงานคือวันที่ 8 ต.ค. 65 วันดังกล่าวก็ตรงกันกับวันเกิดของเจ้าสาว และวันเกิดของแม่ตนเอง
วันเกิดเหตุ มารู้เรื่องว่าเจ้าสาวเกิดอุบัติเหตุ ตอนประมาณ 21.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เอะใจอยู่แล้วว่าทำไมทักข้อความไปเจ้าสาวถึงไม่ตอบกลับมา จากนั้นเมื่อทราบข่าวก็พาครอบครัวขึ้นเครื่องบินมาที่ จ.สุรินทร์ เช้าของเมื่อวาน โดยระหว่างเดินทางตนเองก็ได้ให้ทางญาติของเจ้าสาวติดต่อไปหาซื้อชุดแต่งงาน เพื่อจะทำตามความต้องการของเจ้าสาวที่เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนแหวนที่เห็น เป็นแหวนแต่งงาน เจ้าสาวเลือกไว้
การแต่งงานดังกล่าว ตนเองต้องร้องขอให้ญาติของเจ้าสาวนำศพออกมาจากโลงเย็นทำพิธี ตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำใจได้หรือไม่ ก่อนจะเกิดเหตุตนเองฝันว่าเจ้าสาวชวนไปเที่ยวทะเล พอไปถึงก็ได้ขึ้นไปเล่นบานาน่าโบ๊ท ในความฝันเจ้าสาวก็ปล่อยให้ตนเองตกน้ำ จนต้องว่ายน้ำขึ้นมาบนฝั่งคนเดียวอย่างเดียวดาย ยอมรับว่าตกใจในความฝัน และไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจ้าสาวจะจากไปแบบนี้
ด้าน คุณพัศริน สวยรูป หรือ อูน เจ้าของร้านอูนนี่ดีกาย Wedding บอกว่า ก่อนหน้านี้มีคนติดต่อมาซื้อชุดเจ้าสาวให้กับผู้หญิงที่เสียชีวิตแล้ว ตอนแรกก็นึกเพียงว่าจะซื้อชุดเพื่อไปวางไว้บนร่างเจ้าสาวเท่านั้น เหมือนงานศพทั่วไปที่เอาเสื้อผ้าใหม่ไปวางไว้บนร่างคนตาย แต่ไม่คิดว่าเจ้าบ่าวจะนำชุดเจ้าสาวไปสวมใส่ให้เจ้าสาวที่มีร่างแต่ไร้วิญญาณ และไปถ่ายรูปคู่ระหว่างเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวที่เสียชีวิตแล้ว เหตุการณ์ขณะถ่ายรูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะถ่ายรูปได้แป๊บเดียวก็ต้องนำศพเจ้าสาวเข้าโลงศพ
ส่วนตัวปกติไม่รับแต่งหน้าศพ และไม่เคยแต่งหน้าศพมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นลูกค้าที่มาซื้อชุดเจ้าบ่าว และเจ้าสาวรวม 2 ชุด ซึ่งยังเป็นคนรู้จักกับนายอำเภอ วันที่มาติดต่อขอซื้อชุดเจ้าบ่าวติดต่อขอซื้อชุด ทั้งร้องไห้เพราะเจ้าสาวเพิ่งเสียชีวิต พร้อมกับชี้ชุดเจ้าสาวเองว่าจะเอาชุดดังกล่าว เป็นภาพที่ยังทำใจไม่ได้ และอยากทำให้เจ้าสาวครั้งสุดท้าย
ตอนนั้นพอได้ฟังก็สะเทือนใจ เพราะส่วนตัวเพิ่งเสียแม่และพี่สาวไปเช่นกันจึงเข้าใจหัวอกคนสูญเสียคนรัก ก็มีการปลอบใจและช่วยหาชุดให้เจ้าบ่าว โดยราคาชุดเจ้าสาว 9,500 บาท ส่วนราคาชุดเจ้าบ่าว 3,500 บาท ซึ่งปกติทั้งชุดเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะให้ลูกค้าเช่าราคาชุดละประมาณ 4,500 บาท
ต่อมาเจ้าบ่าวก็ขอร้องให้ไปช่วยดูงานให้จึงเห็นใจและไปช่วยดูแล ได้เตรียมเครื่องแต่งหน้าออกจากบ้านไป เมื่อไปถึงพบว่ามีทีมพยาบาลดูแลอยู่ข้างศพเจ้าสาว จากนั้นก็ตกใจเพราะเจ้าบ่าวขอร้องให้นำชุดเจ้าสาวไปสวมใส่ให้ร่างผู้หญิงที่เขารัก ตอนแรกนึกว่าจะนำชุดเจ้าสาวไปสวมใส่ให้เจ้าสาวที่มีร่างแต่ไร้วิญญาณเท่านั้น ทำให้ตัดสินใจช่วยงานถึงที่สุดทั้งแต่งหน้าให้เจ้าสาว สวมชุดเจ้าสาว และหาเครื่องประดับให้เพื่อมาใส่ร่างเจ้าสาวอย่างฉุกละหุก เจ้าบ่าวก็ขอซื้อในราคา 500 บาท และหารองเท้ามาสวมใส่ให้อีก ราคา 1,000 กว่าบาท เป็นความบังเอิญที่ไซซ์ดันไปตรงกับเท้าของเจ้าสาว กระทั่งแต่งตัวให้เสร็จเหมือนเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานจริง
จากนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ถ่ายรูปคู่กัน มีการสวมแหวนให้เจ้าสาว ซึ่งเป็นแหวนที่เจ้าบ่าวเตรียมไว้แต่งงานกับเจ้าสาวก่อนเจ้าสาวจะเสียชีวิตกระทันหัน ก่อนนำเจ้าสาวเข้าโลงและเจ้าบ่าว ก็มีความประสงค์ที่จะเผาร่างเจ้าสาวทั้งที่สวมชุดวิวาห์ พอถามเหตุผลเจ้าบ่าวก็บอกเพียงว่าอยากแต่งงานกับเจ้าสาว ก่อนเจ้าสาวจะจากไป เพราะรักเจ้าสาวคนนี้มาก ทำให้ตนสงสารทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวกับความรักครั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศกมาก ทั้งชีวิตไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
นายโรจน์ฤทธิ์ คำปัดฉิม อายุ 22 ปี พี่ชายผู้ตาย บอกกว่า เช้าวันเกิดเหตุกำลังเดินทางไปขายของ โดยอยู่ที่ จ.ขอนแก่น ต่อมาระหว่างเดินทางถึง จ.ร้อยเอ็ด ก็ทราบว่าน้องสาวเสียชีวิต ซึ่งน้องเดินทางไปกับแม่ไปทำธุระส่วนตัวไปหาหมอฟัน หลังทำธุระเสร็จแล้วปรากฎว่าขากลับก็เกิดอุบัติเหตุทำให้ตัวน้องสาวเสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุน้องสาวอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านพัก บางครั้งก็จะอยู่กับแฟน แล้วมีแพลนหลังแต่งงานกับแฟนจะไปใช้ชีวิตที่ภาคใต้ ได้ฤกษ์วันแต่งงานตรงกับวันเกิดน้องสาว เพราะเป็นฤกษ์งามยามดี แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ก่อน
ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์วานนี้ที่แฟนของน้องสาวทำพิธีแต่งงานกับศพน้องสาว ทั้งคู่ใส่ชุดวิวาห์และมีการสวมแหวนแต่งงานกัน ส่วนตัวสะเทือนใจอยู่แล้วเพราะสูญเสียน้องสาว แต่ก็ดีใจที่ความฝันน้องเป็นจริงแม้สิ้นลมแล้ว แต่ก็ได้แต่งงานกับคนรักตามที่น้องสาวหวังไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ก็คิดว่าน้องได้สมหวังแล้ววิญญาณคงหมดห่วง ยอมรับว่าฝ่ายชายรักน้องสาวมากมีการมาปรึกษาขอจัดพิธีแต่งงานกับศพน้องชาย ตนก็ได้ช่วยแฟนน้องสาว ทั้งไปขอซื้อชุดวิวาห์ จนกระทั่งพิธีแต่งงานเสร็จสมบูรณ์
ส่วนกำหนดเผาศพเจ้าสาว จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 8 ส.ค. 65 และเป็นตัวเลขวันเดียวกับกำหนดแต่งงาน และวันเกิดของเจ้าสาว ที่เป็นความต้องการของตัวเจ้าบ่าว