‘กรุงเทพฯที่เคลื่อนไหว’ ดูหนังไทยที่สะท้อนภาพเรื่องราวหลากหลายในเมืองหลวง

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งทุกอย่างอันเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ และเนื่องในวาระที่เดือนเมษายน เป็นเดือนของการสถาปนากรุงเทพ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จึงได้จัดโปรแกรม กรุงเทพฯ ที่เคลื่อนไหว หรือ Bangkok in Motion อันเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมใต้ร่มพระบารมี 239 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ของกระทรวงวัฒนธรรม คัดสรรภาพกรุงเทพมหานครกับสถานะที่เคลื่อนไปมาซึ่งปรากฏอยู่ในภาพยนตร์มาจัดฉายให้ชม ทั้ง ‘ทวิภพ’ (2547) ฉบับ Director’s Cut ของผู้กำกับ สุรพงษ์ พินิจค้า ที่แสดงภาพกรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะชี้เป็นชี้ตายอนาคตของบ้านเมืองโดยมีพระบารมีและพระปรีชาสามารถของบุรพกษัตริย์เป็นปัจจัยสำคัญ , ‘คนกลางแดด’ (2522) ผลงานที่ คิด สุวรรณศร ตั้งใจสร้างสำหรับโอกาสครบรอบ 200 ปี กรุงเทพฯ ในปี 2525 โดยเลือกนำเสนอกรุงเทพฯ ในฉากที่เป็นนาฏกรรมชีวิตของชนชั้นแรงงาน , ‘บางกอกแดนเจอรัส เพชฌฆาตเงียบ อันตราย’ (2543) หนังที่ตีแผ่ด้านมืดของกรุงเทพฯ จากมุมมองของผู้กำกับต่างชาติ แดนนี และ ออกไซด์ แปง และ ‘รถไฟฟ้า มาหานะเธอ’ (2552) หนังรักพนักงานออฟฟิศ ที่มีจุดตั้งต้นจากการจราจรในกรุงเทพฯ และฉายภาพเมืองกรุงในด้านสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ทั้ง ‘สวัสดีบางกอก’ (2553) ชุดหนังสั้นว่าด้วยกรุงเทพฯ 9 เรื่องของผู้กำกับ 9 คน และ ‘Bangkok Stories’ (2559) โปรเจกต์หนังสั้นบอกเล่าความรัก 6 เรื่อง ที่มีฉากหลักเป็นย่านสำคัญต่าง ๆ ทั่วเมืองกรุง ในส่วนรายละเอียดของแต่ละเรื่องที่จะฉายในโปรแกรมมีดังนี้คือ

‘ทวิภพ’ งานจากนิยายเรื่องดังของทมยันตี ที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวไทยยุคปัจจุบันที่หลงมิติไปอยู่ในสยาม สมัยแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศมหาอำนาจทางตะวันตกพยายามจะเข้ามายึดครอง สุรพงษ์ พินิจค้า กำกับการแสดง และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ ฉายในวันที่ 6 และ 23 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่โรงศาลาศีนิมา

‘คนกลางแดด’ ภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนภาพแทนสภาพชีวิตผู้คนที่ปากกัดตีนถีบอยู่ในกรุงเทพฯ ช่วงที่กำลังจะครบรอบ 200 ปี ผ่านเรื่องราวของ ‘เปลว’ หนุ่มผู้มีอาชีพรับจ้างส่งน้ำแข็ง ท่ามกลางความยากจนของคนในชุมชนสลัมที่ต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด จนเมื่อถูกโกงส่วนแบ่ง ทำให้เปลวต้องเข้าไปพัวพันกับพวกนายทุนหน้าเลือด ส่งผลให้ชีวิตของเขาและคนรอบข้างต้องตกอยู่ในอันตราย โดยครั้งนี้ภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติจะนำมาฉายในวันที่ 6 และ 16 เมษายน เวลา 15.30 น. ที่โรงช้างแดง

‘บางกอกแดนเจอรัส เพชฌฆาตเงียบ อันตราย’ งานที่ ปวริศร์ มงคลพิสิฐ, เปรมสินี รัตนโสภา แสดง และ 2 ผู้กำกับชาวฮ่องกง ออกไซด์ แปง และ แดนนี แปง ทำหน้าที่เล่าเรื่องราวของก้องหนุ่มพิการที่ทั้งเป็นใบ้และหูหนวก ทำให้เขาเก็บตัวอยู่ในโลกเงียบ ๆ ตามลำพัง จนกระทั่งมือปืนคนหนึ่งได้มาเห็นฝีมือการยิงปืนที่แม่นยำของก้อง จึงชักชวนให้เขาเข้าสู่วงการนักฆ่า ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล ฉายวันที่ 8 เมษายน เวลา 13.00 น. และวันที่ 28 เมษายน เวลา 15.30 น. ที่โรงช้างแดง

‘สวัสดีบางกอก’ คือ จดหมายเหตุบันทึกภาพกรุงเทพฯ เมื่อ 10 ปีก่อน ผ่านภาพยนตร์สั้น 9 เรื่องจากผู้กำกับ 9 คน ที่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นสื่อที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พลเมืองกรุงเทพฯ และผู้มาเยือนมีความรู้สึกร่วมและผูกพันกับเมืองหลวงแห่งนี้ โดยภาพยนตร์ที่อยู่ในชุดดังกล่าว จะแบ่งฉายออกเป็น 2 ชุด คือ โปรแกรม 1 มีเรื่อง ‘กรุงเทพมหาเสน่ห์’ ภาพยนตร์เชิงสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวของหลากหลายวิถีชีวิตผู้คนในกรุงเทพฯ ด้วยอารมณ์ขันแบบเสียดสี ตลก แต่น่ารัก กำกับโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว , ‘มาหานคร’ เรื่องที่กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล นำแสดงโดย ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, ทราย เจริญปุระ ในเรื่องของ ‘สน’ ชาวนาชาวอ่างทองบังเอิญถูกล็อตเตอรี่ จึงเดินทางมากรุงเทพฯเป็นครั้งแรก พร้อมกับเมียสาว พวกเขาไปในหลายที่ที่มีคนบอกว่าคือสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ จนในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับความหมายที่แท้จริงของคำว่า “กรุงเทพฯ” ส่วนเรื่อง ‘Bangkok Blues’ นั้นกำกับโดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริงแฮม, หลุยส์ สก๊อต ในเรื่องราวหนุ่มลูกครึ่งที่กำลังหัวเสียจากการถูกบอกเลิก จึงชวนเพื่อนลูกครึ่งอีกคนตามไปง้อ โดยที่คนหลังนี้ชอบบันทึกเสียงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ต่างสถานที่ ต่างเวลากัน สำหรับ ‘หลง…แต่ไม่ลืม’ กำกับโดย ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ นำแสดงโดย วินัย พันธุรักษ์, อารักษ์ อมรศุภศิริ ที่จะให้ดูเรื่องของ ‘แอ๊ด’ อดีตนักดนตรีวัย 60 กว่า ที่เขาได้พบกับนักดนตรีรุ่นหลานบนรถเมล์ และหลงทางไปจนถึงเวิ้งนาครเกษม ณ ที่นั่นความทรงจำเดิม ๆ ในวัยหนุ่มได้กลับคืนมาอีกครั้ง สำหรับเรื่อง ‘Silence’ นั้น เป็นเอก รัตนเรือง กำกับ พลอย หอวัง และ นพชัย ชัยนาม แสดงในเรื่องของหญิงสาววัยรุ่นผู้แต่งตัวโฉบเฉี่ยวตามสมัย วันหนึ่งระหว่างกลับจากการเที่ยวกลางคืนอย่างสุดเหวี่ยง เธอได้พบกับคนบ้าใบ้ท่าทางน่ากลัวที่ดูเหมือนจะมาคุกคาม แต่แล้วก็พบว่า…เข้าชมได้ในวันที่ 7 เมษายน เวลา 15.30 น. และวันที่ 13 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่โรงช้างแดง

ขณะที่โปรแกรม 2 มีเรื่อง ‘กรุงเทพฯ ที่รัก’ ภาพยนตร์สารคดีซึ่งกำกับโดย สันติ แต้พานิช จะเป็นการนำเสนอผ่านบทสัมภาษณ์ของหลากหลายผู้คนในกรุงเทพฯ ตั้งแต่พระสงฆ์จนถึงสาวประเภทสอง , เรื่อง ‘ทัศนา’ กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง นำแสดงโดย บงกช คงมาลัย, แทนไท ประเสริฐกุล เรื่องของสาวตาบอดที่หารายได้จากการขายล็อตเตอรี่ ซึ่งอาศัยอยู่ใต้สะพานโทรม ๆ เธอปรารถนาที่จะมองเห็น จนกระทั่งในวันหนึ่งก็ได้พบกับเทวดา ผู้ที่ทำหน้าที่เสมือนดวงตาให้กับเธอ , เรื่อง ‘พี่-น้อง’ กำกับโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล นำแสดงโดย ธาราทิพย์ ศรีดี ดูชีวิตของเอิน เด็กสาววัยมัธยมต้น ที่มีความอิจฉาลึกๆต่อพี่สาวผู้มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมไปหมด และเมื่อพี่กำลังจะมีแฟนหนุ่ม เอินจึงพยายามทำลาย แต่แล้วเธอก็ได้พบว่าพี่สาวรวมทั้งพ่อแม่รักเธอยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด สำหรับเรื่องสุดท้ายในชุดนี้คือ ‘ผีมะขาม’ ที่ผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ฉายภาพชายหนุ่มคนหนึ่งได้ซื้อบริการและหลับนอนกับโสเภณีที่โรงแรมโทรม ๆ เขาและเธอได้เดินคุยกันจากสนามหลวงจนถึงถนนราชดำเนินในยามค่ำคืน ณ ที่นั่น เธอได้เล่าเรื่องราวของเธอให้เขารู้ จนท้ายที่สุดเขาไม่แน่ใจว่า เธอคือคนหรือผีกันแน่ จะฉายในวันที่ 13 เมษายน เวลา 15.30 น. และ 21 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่โรงช้างแดง

‘รถไฟฟ้า มาหานะเธอ’ ภาพยนตร์เรื่องดัง ผลงานกำกับของ อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม นำแสดงโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา, คริส หอวัง เรื่องราวความรักที่เล่าผ่านวิถีชีวิตคนทำงานและระบบการจราจรในกรุงเทพฯ ผ่านตัวละคร เหมยลี่ พนักงานออฟฟิศสาวโสดวัยสามสิบ กับ ลุง วิศวกรรถไฟฟ้าหนุ่มหล่อที่ทำงานในเวลากลางคืน เวลาในชีวิตที่ไม่ตรงกันจึงเป็นอุปสรรคในความรักของทั้งคู่ รวมถึงเรื่องราวในอดีตของลุงที่เหมยลี่ไม่เคยรู้ ฉายวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่โรงช้างแดง

สุดท้ายในโปรแกรมนี้คือ ‘Bangkok Stories’ ชุดภาพยนตร์สั้นที่นำเอกลักษณ์อันหลากหลายของแต่ละพื้นที่ในกรุงเทพฯ ทั้งเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรม มาบอกเล่าเป็นเรื่องราวความรัก 6 เรื่อง ในต่างย่านและเวลา ผ่านสายตาผู้กำกับ 6 คน ได้แก่เรื่อง ‘เยาวราช’ กำกับโดย อภิญญา สกุลเจริญสุข ในเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว ทั้งคู่ทำตัวเหมือนเป็นเพื่อนซี้ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริงต่อกัน , เรื่อง ‘ข้าวสาร’ กำกับโดย อโนชา สุวิชากรพงศ์ ชมการพบเจอกันของสาวต่างชาติที่ได้พบกับดาราไทยที่เธอไม่รู้จัก แต่เขาก็ได้ช่วยเหลือเธอในยามคับขัน , ‘สีลม’ ผู้กำกับ วรกร ฤทัยวาณิชกุล ถ่ายทอดเรื่องของชายหนุ่มสองคนที่เจอกันในห้องสมุด การพูดคุยอย่างถูกคอ ทำให้ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืนในวันแรกที่ได้พบกัน , ‘พาหุรัด’ กำกับโดย โสรยา นาคะสุวรรณ ความรักขอบหนุ่มชาวอินเดียกับสาวชาวจีนโดนกีดกันจากญาติผู้ใหญ่ด้วยเหตุผลว่าวัฒนธรรมแตกต่างกันเกินไป พวกเขาจึงต้องแอบคบหาอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง ‘หมอชิต’ กำกับโดย วิชชานนท์ สมอุ่มจารย์ ในเรื่องราวที่ว่าด้วยมิตรภาพของคนต่างถิ่นที่มาเจอกันในเมืองหลวงเมื่อหลายปีก่อน และได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง และ ‘สุขุมวิท’ กำกับโดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ เรื่องกลุ่มเด็กไฮโซที่พบกันที่สระว่ายน้ำ และเรื่องตลกชวนอมยิ้มของวัยรุ่นสามคน จะฉายให้ชมในวันที่ 15 เมษายน เวลา 15.30 น. และ 21 เมษายน เวลา 15.30 น. เข้าชมได้ที่ โรงช้างแดง

ทั้งหมดนี้เป็นเสมือนคอลเลกชันรวมภาพเคลื่อนไหวของเมืองที่ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวอย่างกรุงเทพมหานคร ผ่านสายตาและการสร้างสรรค์ของผู้กำกับคนสำคัญของไทยหลายต่อหลายคน ที่จะฉายให้ชมตามวันและเวลาดังกล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-482-2013 – 15 ต่อ 0 หรือ 081-550-8716