แม่ : แม่ยังไม่รับมาลัย และจะถามกระติกเองนะคะ ยังไม่รับพวงมาลัยของกระติก วันที่ 4 หนูไม่เคยติดต่อเลยว่า น้องโม ตกน้ำ มีปัญหาอะไร ถึงไม่บอกแม่ว่าลูกแม่ตกน้ำ
กระติก : หนูขอโทษจริงๆ ตั้งสติไม่ได้ หนูเสียใจที่ไม่ได้โทรหาแม่คนแรก หนูยอมรับตรงนี้ หนูสติแตกมากๆ หนูเสียใจการจากไปของโม
แม่ : วันที่ 4 แล้วนะ เราเห็นกันมาตลอด หนูเป็นผู้จัดการแตงโม ทำไมถึงพูดว่าไม่บอกแม่ เพราะแม่ไม่ใช่นักดำน้ำ
กระติก : หนูสื่อสารไม่เก่ง แม่ก็รู้หนูสื่อสารไม่เก่ง หนูสติแตก หนูไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูเสียใจหนูยอมรับ หนูยอมให้แม่ว่าหนู หนูเสียใจ
แม่ : วันนี้มีคนเยอะแยะ กระติกยังไม่ร้องไห้สักครั้ง
กระติก : คนเราเป็นมนุษย์การแสดงออกต่างกัน หนูขออธิบายนะแม่ อยู่คนเดียวหนูฟูมฟาย แต่หนูอยู่ต่อหน้าคนอื่นหนูทำไม่ได้
แม่ : คุณปอยังทำได้
กระติก : แม่ (ลากเสียง) นั่นคุณปอ แม่ต้องเข้าใจหนูด้วยนะ ถ้าหนูอ่อนโยนกว่านี้มันคงจะดีกว่านี้ใช่มั้ยแม่ แม่อยากเห็นหนูร้องไห้ใช่มั้ย
แม่ : ไม่ค่ะ แม่คิดว่าหนูปิดบังอะไรหรือเปล่า
กระติก : แม่ (ลากเสียง) หนูไม่ได้ปิดบังอะไรแม่เลย
แม่ : เอาน้องโมไปทำอะไร
กระติก : คุณแม่ คุณแม่คุยกับตำรวจนะคะ หนูให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว วันหนึ่งความจริงกระจ่างคุณแม่จะรู้เอง วันนี้หนูตอบอะไรแม่เลย หนูบอกแค่ว่าหนูไม่ได้ปิดบังอะไรคุณแม่เลย หนูอยากให้โมตื่นมาและมาอธิบายกับแม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่โมเขาไม่ตื่นมาแล้ว ทุกวันหนูนอนคิดถึงโม
แม่ : งั้นหนูอธิบายสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น
กระติก : หนูให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว หนูชวน ไปลงเรือแค่นั้นเอง โมเดินไปฉี่ โดยไม่ได้ไปบอกหนูด้วยซ้ำ หนูรู้อีกทีเขาตกไปแล้ว ทำไมหนูถึงรู้สึกว่าสังคมลงโทษหนูขนาดนี้ หนูชวนเพื่อนไปนั่งเรือคิดถึงเขาในแง่ดี นั่งเรือดีๆ สวย หนูไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น หนูพูดก็เหมือนแก้ตัว แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงกว่านี้ไม่จริงอีกแล้ว ให้เล่ากี่รอบมันก็มีแค่นั้น
แม่ : หนูไม่ได้ดูแลน้องโมในฐานะผู้จัดการเลยเหรอ หนูรู้มั้ยว่าการเป็นผู้จัดการเขาเป็นกันยังไง คุณนั่งเล่นโทรศัพท์ ไม่ได้ดูน้องโมเลย
กระติก : คุณแม่เขาไม่ได้บอกใครเลย ทุกคนเป็นพยานได้มีแซนคนเดียวที่รู้ หนูยืนใกล้ปอกับพี่เบิร์ต รู้อีกทีได้ยินข้างหลังตะโกนว่าอีโมตกน้ำ ให้หนูอธิบายกี่ทีหนูก็พูดได้แค่นี้เพราะหนูรู้แค่นี้จริงๆ แม่
แม่ : หนูทำอะไรอยู่
กระติก :หนูดูวิวอะแม่ ในใจหนูมีสองหมวก หนึ่งเป็นเพื่อนสองเป็นผู้จัดการ วันนั้นเราไปเที่ยวกัน ไม่ได้ทำงาน ถ้าเป็นการทำงานเราจะดูแลนักแสดงอย่างดี แต่วันนั้นเราไปเที่ยวในฐานะเพื่อน ถ้าวันนี้มีงานเราเกิดเหตุการณ์แบบนี้ โอเคหนูยอมรับว่าหนูทำเหตุการณ์แบบนั้นได้ไม่ดี แต่เป็นเพื่อนหนูก็มีสิทธิ์เที่ยวของหนู เขาก็ไม่ได้สนใจหนูด้วยตอนนั้น หนูพูดตรงๆ อยากให้แม่เข้าใจในมุมของหนู จะโทษหนูยังไงก็ได้ แต่หนูพูดจริงที่สุดแล้ว ถ้าพูดเกิดกว่านี้มันไม่จริงแล้วแม่ หนูอยากให้โมไปเข้าฝันแม่นะ แล้วไปอธิบายให้แม่ฟังเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง แต่มันทำอย่างงั้นไม่ได้ ต้องเป็นหนูที่มานั่งพูด หนูพูดแม่ก็ไม่เชื่อ เพราะหนูช้าเอง หนูผิดเลยนะ 1 ไม่โทรหาแม่ 2 ไม่กล้าเผชิญนะ หนูช้าไปทุกเรื่อง
แม่ : หนีหน้าแม่ด้วยที่นิติเวช อยู่ใกล้กันแค่นั้น
กระติก :หนูไม่เข้าเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าปิดแล้ว
แม่ : ยังไม่ปิด
กระติก : หนูมีพยาน
แม่ : หนูนั่งอยู่นานแล้ว ตอนที่เพื่อนๆ เข้าไปดูเขาก็แห่กันเข้าไปดูหมด
กระติก : แม่ให้หนูจำภาพโมดีๆ เหอะเนอะ หนูไม่ได้อยากเข้าไป ให้โมมันไปจากหนูให้จำภาพดีๆ อะแม่
แม่ : ที่พูดก็ถูกต้อง แต่มันเป็นการแสดงออกที่ประหลาดสำหรับแม่ กระติกเป็นแม่อีสเตอร์ คุณแม่รักอีสเตอร์ แม่ซื้อเปียโนให้อีสเตอร์ กระติกทำแบบนี้กับแม่ได้ยังไง
กระติก : หนูเสียใจแม่
แม่ : หนูโทรหาแม่ แม่จะให้อภัย แต่นี่ 4 วันนะ วันที่เจอศพน้องโมคุณก็ไม่อยู่ หนูมีอะไรปิดบังหรือเปล่า
กระติก : หนูไม่มีอะไรปิดบัง นิดนึงก็ไม่มี หนูก็โดนสังคมลงโทษ กับสิ่งที่หนูไม่กล้า
แม่ : แต่หนูไปที่อู่เรือได้นะ อู่เรือพี่ปอได้ แม่อยู่ที่ท่าน้ำ
กระติก : หนูไม่รู้ คุณแม่เราเถียงกันแบบนี้มันไม่จบหรอก
แม่ : แม่ไม่ได้เถียง แค่ความในใจของแม่ที่แม่สงสัย หนูจะตอบจริงหรือเท็จให้การตำรวจนั่นเรื่องของหนู แม่อยากเห็นหน้าคนนี้เหรอที่บอกว่ารักลูกคุณแม่ เป็นผู้จัดการลูกคุณแม่ เมื่อลูกแม่ตายหนูยังไม่ดูศพ ลูกแม่ตกน้ำทำไมไม่ช่วย
กระติก : หนูช่วยหนูโทรหาโบว์ เพื่อนๆ ก็ช่วยกันวนหาหลายรอบนะแม่นะ เราทำกันสุดความสามารถ
แม่ : คนตกในน้ำคุณตะโกนเขาจะได้ยินมั้ย
กระติก : แล้วแม่จะให้หนูทำยังไง
แม่ : คุณก็โดดลงไปสิ
กระติก : แม่ (ลากเสียง)
แม่ : คุณกระโดดลงไปสิ ถ้าพวกคุณว่ายน้ำเป็น
กระติก : หนูว่ายน้ำไม่เป็นแม่ (เสียงสูง)
แม่ : คุณแม่ไม่ทราบ คุณต้องแสดงความช่วยเหลือ ในปอดเขาเต็มไปด้วยดินด้วยทราย เขาพยายามแล้ว
แล้วกระติกก็กราบ วางมาลัย แล้วเดินจากไป.