‘WARRIX’ ผู้นำแบรนด์ผลิตภัณฑ์ Sport – Health & Lifestyle แบบครบวงจร

     วิกฤติโรคระบาดทำให้คนไทยกว่า 16 ล้านคน ตื่นตัวเรื่องสุขภาพและหันมาสนใจออกกำลังกายกันมากขึ้น และ 42% ของคนไทยมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องกับความนิยมในกีฬาประเภทต่าง ๆ ที่นักกีฬาไทยได้สร้างชื่อเสียง และเทรนด์ออกกำลังกายใหม่ ๆ ทั้งการออกกำลังกายที่ฟิตเนสและในบ้าน ทำให้กีฬากลายเป็นหนึ่งในเทรนด์มาแรง และเป็นปัจจัยผลักดันให้ธุรกิจเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาในประเทศซึ่งมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

     โดยเร็ว ๆ นี้ กำลังจะมีบริษัทเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำของไทย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ คือ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ ‘วอริกซ์’ (WARRIX) มาดูว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่น่ารู้ ก่อนลงทุนในหุ้นน้องใหม่ตัวนี้

1. WARRIX มีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มหลัก

     ปัจจุบัน WARRIX มีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มหลักคือ Licensed Product อาทิ สินค้าและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติ การสนับสนุนทีมสโมสรและองค์กรกีฬาชั้นนำต่างๆในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ชุดกีฬาของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน, สิทธิ์สนับสนุนชุดกีฬาของสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ทีมชาติต่างประเทศ และกลุ่ม Non – Licensed Product เป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและปรับเปลี่ยนตามความนิยม เช่น สินค้าคลาสสิค ได้แก่ เสื้อโปโล สินค้าคอลเลคชั่น สินค้า Made to order

     นอกจากนี้ WARRIX ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องกีฬาและอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ลูกฟุตบอล รองเท้ากีฬา นาฬิกาแบบสปอร์ต รวมถึงคลีนิคกายภาพวอริกซ์ ‘Warrix Physiotherapy & Performance Studio’ ซึ่งให้บริการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายแก่นักกีฬาและบุคคลทั่วไป ด้วยทีมนักกายภาพบำบัดที่เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย

2. เน้นคาแรคเตอร์แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ ในคอนเซ็ปต์ ‘Warrior หรือ นักรบ’

     WARRIX ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้คาแรคเตอร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทันสมัย ในคอนเซ็ปต์ Warrior หรือนักรบ ที่แสดงถึงชัยชนะ ความแข็งแรง ดุดัน และเป็นสุภาพบุรุษ เพื่อสื่อถึงการเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่พร้อมทุ่มเทและมุ่งมั่นแข่งขันในทุกสนาม รวมถึงเลือดความเป็นนักสู้ของคนไทย โดยดัดแปลงมาจากสัญลักษณ์ของนักรบไทย และเน้นการออกแบบให้เป็นสากล

3. เป็นผู้นำทางด้านสปอร์ตไลเซนซิ่ง (Sport Licensing)

     โดยเป็นผู้ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิตเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นระยะเวลา 12 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2571 นอกจากนี้ที่ผ่านมา Warrix ยังเป็นผู้สนับสนุน สโมสรกีฬา/องค์กรกีฬาชั้นนำทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ กว่า 30 แห่ง อาทิ AFF Suzuki Cup 2020, Myanmar Football Federation สโมสรบีจีปทุมยูไนเต็ด สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย สมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เป็นต้น

4. สร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่น

     โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยไอเดียและแรงบันดาลใจผ่านการเล่าเรื่องราว “Storytelling” และได้พัฒนานวัตกรรมเส้นใยและเนื้อผ้าโดยให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ระดับโลกภายใต้นวัตกรรมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Warrix ใช้ชื่อว่า “Comba + Tech” และการเล่าเรื่องราวผ่านเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยทั้ง 6 รุ่น ได้แก่

     – ปราบไตรจักรไชยานุภาพ

     – Changsuek The Genesis

     – NOW or NEVER

     – KINGDOM

     – Faith

     – Unite

5. มีช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย

     WARRIX มีช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลายเพื่อลดการพึ่งพาช่องทางใดช่องทางหนึ่ง และทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง โดยแบ่งเป็น 6 ช่องทางหลัก ได้แก่ ร้านค้าของบริษัท Warrix Flagship Store ที่ Stadium one และเมืองทองธานี ร้านค้าปลีกทั่วไป (Traditional trade) กว่า 400 ร้านค้าครอบคลุมทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ (Modern trade) อาทิ Supersports ทั่วประเทศ และ Sport Mall ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ผ่าน24Shopping งานโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน และ ช่องทางออนไลน์ อาทิ Shopee Lazada และเว็บไซต์ของ Warrix ซึ่งความหลากหลายของช่องทางจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ จากฐานลูกค้ากลุ่มนักกีฬาและแฟนกีฬาไปยังกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยได้มากขึ้น โดยปัจจุบัน WARRIX มีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกทั่วไป (Traditional trade) ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ (Modern trade) และร้านสะดวกซื้อ 7-11 มากที่สุด

6. ตั้งเป้าสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ Sport – Health & Lifestyle แบบครบวงจรของไทย

     จากวิสัยทัศน์ของ WARRIX ที่จะ ‘เป็นผู้นำทางด้านธุรกิจวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพครบวงจรและมีความเป็นมืออาชีพในระดับภูมิภาคอาเซียนและมุ่งเน้นเป็นผู้ริเริ่มพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ของเสื้อผ้ากีฬาที่มีคุณภาพดีเป็นเลิศ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน’ ทำให้บริษัทฯ มีเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ภายใต้การรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยการเพิ่มสินค้าให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า โดย WARRIX มีแผนพัฒนาธุรกิจ ใน 5 ด้าน ได้แก่ Sports, Active & Lifestyle, Health, Explorer และ Web 3.0

7. สองเมกะโปรเจ็กต์ในอนาคต

     เพื่อก้าวสู่เป้าหมายและขยายธุรกิจให้ครบวงจร WARRIX ได้วางแผนพัฒนาโครงการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และสำนักงาน บริเวณถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยมีแผนสร้างอาคารศูนย์สุขภาพและกายภาพบำบัดแห่งใหม่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในอนาคต รวมถึงพัฒนาโครงการ Warrix Lifestyle @ Siam Square เพื่อยกระดับแบรนด์และผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดระดับพรีเมียม โดยเน้นกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น คนทำงาน และผู้หญิง บนพื้นที่ตั้งใจกลางสยามสแควร์ซึ่งเป็นแหล่งรวมกิจกรรมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

8. สินค้าคลาสสิคและสินค้าคอลเลคชั่นเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ

     จากข้อมูล 3 ปีล่าสุด (ปี 2562 – ปี 2564) รวมถึงงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 พบว่า สินค้าประเภท Non – Licensed Product มีสัดส่วนรายได้สูงสุด ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของ WARRIX ที่ต้องการลดการพึ่งพารายได้สินค้าภายใต้สัญญาสนับสนุน รวมถึงต้องการสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อขยายฐานลูกค้าและมุ่งไปสู่การเป็นผู้นำด้านสินค้า Lifestyle โดยเฉพาะสินค้าคลาสสิค และสินค้าคอลเลคชั่น ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบเองนั้นได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้งาน ถือเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วน 34.90% และ 28.26% ตามลำดับ

     โดยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 WARRIX มีรายได้รวม 697.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65.41 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ที่คลี่คลายของ COVID-19 ทำให้กิจกรรมกีฬาและการใช้ชีวิตของผู้คนเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าที่มีประสิทธิภาพจากปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นด้วย

9. เตรียมเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ mai

     ในปีนี้ WARRIX เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในโครงการก่อสร้างอาคารคลีนิคกายภาพและศูนย์ออกกำลังกาย ถนนพระราม 9 และส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการต่าง ๆ

     ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้น IPO ที่โดดเด่น และมีแนวทางการขยายธุรกิจในอนาคตอย่างชัดเจน โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=440061

Reference:

– แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนฉบับเต็มของ WARRIX ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th