ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา วีรกรรมของ Kanye West (หรือที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Ye อย่างเป็นทางการแล้ว) เป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนเพลง คนในวงการบันเทิง และคนทั่วไปในโลกโซเชียลมากมาย ต้นเหตุของเรื่องมาจากส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่เผยให้เห็นความคิดของเขาที่มีต่อการต่อต้านยิว ทฤษฎีสมคบคิด วิพากษ์วิจารณ์การรณรงค์ Black Lives Matter ยกเลิกความสัมพันธ์ทางธุรกิจต่างๆ และถูกบล็อกจากโซเชียลมีเดียหลายแห่ง
พฤติกรรมของเขาที่ทำให้เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ทั้งที่เขาเสียใจ และไม่ได้เสียใจที่ทำลงไป จนนำมาสู่คำถามที่ว่า “หรือเขาควรถูกแบนได้แล้ว” มีอะไรบ้าง แล้วเราถึงขั้นต้องแบนเขาจริงๆ หรือ มาดูไปทีละข้อกัน
1.
Kanye West กับ Candace Owens นักอนุรักษ์/พิธีกร/นักเขียน และนายแบบอย่างน้อย 1 คน สวมเสื้อที่มีประโยคว่า White Lives Matter ในงานแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเล็กชั่นของ Yeezy ในปารีส The Southern Poverty Law Center ระบุว่า ประโยคนี้มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิที่เคลื่อนไหวหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อฟื้นคืนลัทธินาซี (Neo-Nazi) ซึ่งเป็นลัทธิที่มีความเชื่อว่าผิวขาวเป็นใหญ่เหนือเผ่าพันธุ์อื่นๆ และเป็นด้านตรงข้ามที่ต่อต้านการรณรงค์เรื่อง Black Lives Matter โดยตรง
2.
หลังจากวิพากษ์วิจารณ์ Bernard Arnault ซีอีโอของ LVMH (LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton) ในงานแฟชั่นโชว์ของตัวเอง Kanye West ก็โพสต์ลงใน Instagram ขึ้นมาลอยๆ ว่า Bernard Arnault “ฆ่าเพื่อนที่ดีที่สุดของผม” (KILLED MY BEST FRIEND) โดยไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลอะไรเพิ่มเติม เหมือนว่าต้องการจะพูดถึงการจากไปด้วยโรคมะเร็งของดีไซน์เนอร์ Virgil Abloh เมื่อปี 2021 และหลังจากนั้นยังอ้างอีกว่า ความเป็นอภิชนนิยม (elitism) และการเหยียดเชื้อชาติของ LVMH เป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของดีไซน์เนอร์คนดังกล่าว เรื่องนี้ทำให้ Tremaine Emory ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Supreme ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ Kanye West ว่าเขาใช้เรื่องการเสียชีวิตของดีไซน์เนอร์ Virgil Abloh เพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง
3.
หลังจากที่ Kanye West ไม่พอใจกับข้อสัญญาระหว่างเขากับ Adidas ที่จะผลิตสินค้าให้กับ Yeezy ทาง Adidas จึงออกมาบอกว่าตอนนี้กำลังพิจารณาถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างแบรนด์กับ Kanye West ทำให้ Kanye West โพสต์ลง Instagram ของตัวเองเพื่อตอบโต้ว่า “ไอ้เ*** อาดิดาส กูนี่แหละ ADIDAS ADIDAS นี่แหละขโมยดีไซน์ของกูไป” (FUUUUUUCK ADIDAS I AM ADIDAS ADIDAS RAPED AND STOLE MY DESIGNS.)
นอกจากนี้ ในสัมภาษณ์ของ Fox News Kanye West เอารูปอัลตร้าซาวด์แขวนไว้รอบคอเพื่อแสดงให้เห็นถึงความคิดของเขาในการเป็นฝ่ายสนับสนุนการปกป้องชีวิตเด็กทารก (pro-life) และอ้างโดยไม่มีข้อมูลว่า “ตอนนี้มีจำนวนเด็กดำที่ถูกทำให้แท้งมากกว่าที่ทำให้เกิดขึ้นมาในนครนิวยอร์ก 50% ของคนดำที่เสียชีวิตในอเมริกามาจากการถูกทำแท้ง” และยังพาดพิงถึงนักร้องสาว Lizzo เมื่อพูดถึงประเด็นน้ำหนักเกินว่าเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเชื้อชาติคนดำ”
4.
Kanye West ถูกจำกัดการใช้ Instagram เพราะฝ่าฝืนกฎการใช้แอปฯ หลังจากที่ Diddy (Sean Combs) โทรคุยกับเขา เรื่องที่ Diddy ไม่พอใจที่ Kanye สนับสนุน White Lives Matter หลังจากวางสายไป Diddy ส่งข้อความเพื่ออยากนัดเจอและพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ Kanye โพสต์ภาพแคปเจอร์หน้าจอบทสนทนาที่เขาคุยกับ Diddy โดยมีใจความว่า “กูจะใช้มึงเป็นตัวอย่างให้ชาวยิวที่บอกมึงให้โทรหากู ว่าไม่มีใครคุกคามหรือโน้มน้าวกูได้” (Ima use you as an example to show the Jewish people that told you to call me that no one can threaten or influence me) ซึ่งคณะกรรมการชาวอเมริกันเชื้อสายยิวระบุว่าข้อความนี้ก่อให้เกิด “การปรากฏซ้ำของความโลภและการควบคุม” เกี่ยวกับคนยิว ที่หมายถึงเป็นข้อความที่สื่อความหมายไปในทางเหยียดเชื้อชาติยิวนั่นเอง
5.
Kanye West โพสต์ลง Twitter ว่าเขากำลังจะ “death con 3 on Jewish people” คำว่า death con เป็นการเลี่ยงสะกดจากคำว่า defcon ซึ่งหากอ้างอิงจากเว็บไซต์ Veteran คำว่า defcon 3 หมายถึง “การเพิ่มกำลังสู้ให้มากกว่าขึ้นกว่าระดับเดิม” และมักหมายถึง “การเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคด้วยการมีส่วนร่วมของกองกำลังสหรัฐที่เป็นไปได้” เปรียบเสมือนคำเตือนก่อนที่กองกำลังสหรัฐจะเข้าโจมตีในอีก 15 นาทีข้างหน้า โดยสรุปแล้ว ที่ Kanye West โพสต์จึงหมายถึงตัวเขาพร้อมที่จะเร่งเครื่องเพื่อโจมตีชาวยิวในอีกไม่นานนี้
อย่างไรก็ตาม Kanye ระบุว่า ในสิ่งที่เขาโพสต์ ไม่ได้มีความหมายในเชิงของการต่อต้านยิวแต่อย่างใด เพราะ “คนดำก็เป็นชาวยิวเหมือนกัน” แต่จากข้อความของเขาทั้งหมด ทำให้แอคเคาท์โซเชียลมีเดียของเขาโดนล็อกห้ามใช้งานทันที
6.
ในช่วงที่แอคเคาท์ social media ของเขาโดนล็อกทั้งหมด Kanye โพสต์วิดีโอสารคดีลงในช่อง YouTube โดยเป็นฟุตเทจของเขาที่กำลังเปิดหนังโป๊ให้เหล่าผู้บริหารของ Adidas ดูระหว่างประชุมด้วยกัน
7.
Kanye ให้ข้อมูลผิดๆ ว่า Planned Parenthood (หน่วยงานการวางแผนครอบครัว และให้บริการด้านสุขภาพสตรีอเมริกัน) ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อ “ควบคุมประชากรชาวยิว” โดยเขาระบุว่า Margaret Sanger ผู้ก่อตั้ง Planned Parenthood มีความเชื่อในเรื่องของสุพันธุศาสตร์ มีแนวคิดแบ่งแยกเชื้อชาติ และยังมีความคิดเหยียดคนพิการด้วยการสนับสนุนการคัดเลือกพันธุ์อีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นองค์กร Planned Parenthood ก็ประณาม Kanye ยกใหญ่
8.
รายการทอล์คโชว์ที่ชื่อว่า The Shop ประกาศว่าจะไม่ออนแอร์คลิปสัมภาษณ์ของ Kanye West เพราะเขาใช้ช่องทางของรายการในการ “ย้ำคำพูดแสดงความเกลียดชัง และทัศนคติที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งยวด”
9.
ในรายการ Drink Champs (ที่ตอนของ Kanye ถูกลบออกไปแล้ว) Kanye อ้างอิงอย่างผิดๆ ว่า George Floyd เสียชีวิตเพราะยา fentanyl (ยาระงับปวดประสิทธิภาพสูง) ไม่ใช่จากการที่เจ้าหน้าที่ Derek Chauvin ที่ล็อคคอเขานานถึง 9 นาที ทำให้ครอบครัวของ George Floyd พูดว่าพวกเขาเตรียมฟ้องกลับ Kanye
10.
Kanye กล่าวกับ Piers Morgan พิธีกร/นักข่าว ว่า ประธานาธิบดี Joe Biden “แม่*โค**ปัญญาอ่อน” ที่ไม่รับคำแนะนำจาก Elon Musk แล้วเขาก็อ้างว่าเขาสามารถใช้คำนั้นได้เขา “ป่วยเป็นโรคทางจิต”
จากพฤติกรรมหลายๆ อย่างที่มักแสดงให้เห็นถึงความคิดในเรื่องของการเหยียดเชื้อชาติ และการให้ข้อมูลผิดๆ หรือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ โดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ ทำให้แบรนด์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเขาเริ่มทยอยยกเลิกสัญญาหรือไม่สนับสนุนผลงานของเขาของมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
Forbes รายงานว่า หลังจากที่ Kanye West ถูกยกเลิกสัญญาจาก Adidas และเขาถูกทยอยยกเลิกจากแบรนด์อื่นๆ มากมาย เขาสูญเสียรายได้มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในวันเดียว (เกือบ 7.6 หมื่นล้านบาท) แต่เขายังทำใจดีสู้เสือด้วยการโพสต์ลง Instagram ถึง Ari Emmanuel ซีอีโอ Endeavor บริษัทตัวแทนดาราฮอลลีวูดผู้เคยเขียนบทความเรียกร้องให้แบรนด์ต่างๆ ยกเลิกสัญญากับ Kanye ว่า “ผมสูญเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว แต่ผมยังมีชีวิตอยู่ได้ นี่คือการปราศรัยแห่งความรัก ผมยังคงรักคุณอยู่ พระเจ้าก็ยังคงรักคุณอยู่ เงินไม่ใช่ตัวตนของผม ผู้คนต่างหากที่เป็นตัวตนของผม”
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.