“ไมอามี ฮีต” ปั้นดินขึ้นสู่ดาว / MVP

คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ติดตามผลการแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟ 2022 ช่วงเช้าวันพุธ (20 เม.ย.) ฟีนิกซ์ ซันส์ ทีมที่ผมปันใจจาก ชิคาโก บูลล์ส ด้วยความอยากเห็น “CP3” คริส พอล การ์ดจ่ายประสบการณ์สูง ได้รับแหวนแชมป์สักวง เกิดโชคร้ายเมื่อ เดวิน บูเกอร์ การ์ดตัวสกอร์สูงสุดของแฟรนไชส์ฤดูกาลนี้ ดันมาบาดเจ็บจนถูก นิว ออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ ตีเสมอซีรีส์ 1-1 เกม ต้องรอลุ้นกันต่อว่า จะหายกลับมาช่วยทีมตอนไหน เพราะคู่ต่อสู้ดูท่าทางจะเป็นหมูที่ไม่ยอมให้เคี้ยวง่ายๆ

ทีมที่ผมให้ความสำคัญสัปดาห์นี้อยู่ทางฝั่งตะวันออก ไมอามี ฮีต ซึ่งดูตามรายชื่อผู้เล่น มีแค่ จิมมี บัตเลอร์ กับ แบม อเดบาโย ที่พอจะคุ้นหู แม้วามีคนอื่นๆ อาจจะเคยสร้างผลงานโดดเด่นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงระดับท็อปของลีก และน่าประหลาดที่คู่ปรับในคอนเฟอเรนซ์ของพวกเขา มีผู้เล่นระดับท็อปหลายคน อาทิ โจเอล เอ็มบีด กับ เจมส์ ฮาร์เดน ของ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส, ยานนิส อันเตโตคุมโป ของ มิลวอกี บัคส์ หรือ เควิน ดูแรนท์ กับ คายรี เออร์วิง ของ บรูกลิน เน็ตส์ ทว่า ทีมของ เอริก สโปเอลสตรา กลับเป็นทีมอันดับ 1 และมีสิทธิ์เข้าเพลย์ออฟรอบ 2 แบบกวาด 4 เกมรวด หลังขึ้นนำ แอตแลนตา ฮอว์กส 2-0 เกม

แนวทางการบริหารของ แพ็ท ไรลีย์ ประธาน ไมอามี ตั้งแต่ปี 1995 มักเน้นสร้างทีมด้วยผู้เล่นชื่อดัง เริ่มจากเทรดคว้า อลอนโซ มอร์นิง เซ็นเตอร์ กับ ทิม ฮาร์ดอเวย์ การ์ดจ่าย ตามด้วยคว้า เอ็ดดี โจนส์ กับ ไบรอัน แกรนท์ เมื่อปี 2000, ลามาร์ โอดอม ปี 2003 ต่อมา โอดอม กับ แกรนท์ ถูกปล่อยให้ แอลเอ เลเกอร์ส เพื่อแลก ชาคิลล์ โอ’นีล เมื่อปี 2004 จนถึงยุค “บิ๊ก 3” ดึง เลอบรอน เจมส์ กับ คริส บอช มาประสานงาน ดีเวย์น เหว็ด เมื่อปี 2010 และล่าสุดคว้า บัตเลอร์ ร่วมทีม เมื่อปี 2019

อย่างไรก็ตาม บรรดาซูเปอร์สตาร์เหล่านั้น มักจะกินค่าจ้างราคาแพง และ ไมอามี ต้องเสียสิทธิ์ดราฟต์มากมาย โดยนับตั้งแต่ ไรลีย์ ก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหาร พวกเขาใช้สิทธิ์ดราฟต์รอบแรกแค่ 14 จาก 26 ครั้ง ซึ่ง 3 สิทธิ์จากทั้งหมดถูกนำไปเทรดให้ทีมอื่นๆ ในวันดราฟต์ ด้วยแนวทางบริหารเช่นนี้ ส่งผลให้พวกเขาต้องเฟ้นหาผู้เล่นฝีมือดีที่ไม่ถูกดราฟต์

ดันแคน โรบินสัน เป็นผู้เล่นลำดับแรกๆ ที่ถูกดึงเข้าทีมแบบไม่ผ่านการดราฟต์ เมื่อปี 2018จากการค้นพบของ เชต แคมเมอเรอร์ บุคลากรระดับอาวุโสด้านทรัพยากรผู้เล่น โดย โรบินสัน เซ็นสัญญาเป็นขุนพล ฮีต ชุดซัมเมอร์ ลีก ซัดเฉลี่ย 12.7 แต้ม ยิง 3 คะแนนเข้าเป้า 21 จาก 38 ครั้ง ด้วยผลงานเช่นนี้ เขาจึงได้รับสัญญาแบบ two-way เล่นให้ทั้ง ฮีต กับ ซิอุกซ์ ฟอลล์ส สกาย ฟอร์ซ แฟรนไชส์ระดับ G-ลีก ของ ไมอามี ก่อนก้าวสู่บทบาทตัวจริง ฤดูกาล 2019-20

โรบินสัน วัย 27 ปี เซ็นสัญญามูลค่าแพงสุดของลีก 5 ปี 90 ล้านเหรียญ (ราว 3,042 ล้านบาท) เฉพาะผู้เล่นที่ไม่ผ่านการดราฟต์ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บทบาทของเขาเปลี่ยนแปลงช่วงท้ายฤดูกาลปกติ 2021-22 ถูกจับมานั่งสำรอง หลีกทางแก่ แม็กซ์ สตรัส ผู้เล่นที่ไม่ถูกดราฟต์อีกคนหนึ่ง เล่นตัวจริงแทน 16 เกม ทำให้ ไมอามี สถิติ ชนะ 14 แพ้ 2 แต่แรงของ โรบินสัน ยังไม่ตกช่วงเพลย์ออฟ เหมา 27 แต้ม เพลย์ออฟ เกม 1 ต้อน ฮอว์กส 115-91

เหล่าขุนพลที่เข้าสู่ NBA โดยไม่ผ่านการดราฟต์ของ ไมอามี ทำสกอร์เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนรวม ตลอดฤดูกาลนี้ สูงสุดอันดับ 2 ของลีก แบ่งเป็น โรบินสัน 10.9 แต้มต่อเกม, สตรัส 10.6 แต้มต่อเกม, คาเล็บ มาร์ติน 9.2 แต้มต่อเกม และ เกบ วินเซนต์ 8.7 แต้มต่อเกม และ 4 จากท็อป 5 ผู้เล่นลงสนามมากสุดฤดูกาลนี้ เป็นผู้เล่นที่ไม่ผ่านการดราฟต์ ได้แก่ โรบินสัน 79 เกม, วินเซนท์ 68 เกม, สตรัส 68 เกม และ ดีเวย์น เดดมอน 67 เกม ขณะที่ พี.เจ. ทัคเกอร์ ดราฟต์รอบ 2 ปี 2006 รั้งอันดับ 2 ของลิสต์ดังกล่าว 71 เกม

ในสถานการณ์ที่ ไมอามี ต้องการขุมกำลังที่เหลืออยู่ เนื่องจากตัวหลักอย่าง บัตเลอร์, อเดบาโย, ไคล์ ลาวรี และ ไทเลอร์ เฮอร์โร พลาดลงสนามรวมกัน 86 เกม และด้วยสมดุลของผู้เล่นที่ไม่ถูกดราฟต์ขึ้นมาทดแทน ส่งผลให้พวกเขาทำสถิติชนะ 53 เกม ฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นการชนะอย่างน้อย 50 เกม เฉพาะ 1 ซีซัน ครั้งแรก นับตั้งแต่ปีสุดท้ายของยุค “บิ๊ก 3” ฤดูกาล 2013-14 และจบอันดับ 1 ของ อีสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์

หลักการสำคัญของ ฮีต ด้านการผลักดันผู้เล่นไม่ถูกดราฟต์ มีอยู่ 3 ประการ คือ สรรหาคนฝีมือดีมีอนาคต, มอบโอกาส และ เฝ้าดูความสำเร็จ ท้ายที่สุดแล้ว เราจะเห็นพวกเขาไปได้ไกลแค่ไหน สำหรับเพลย์ออฟ 2022 ก็ยังเป็นปริศนาที่ยังรอคอยคำตอบ เพราะคู่แข่งอย่าง บัคส์, เซเวนตีซิกเซอร์ส, บรูกลิน เน็ตส์ หรือ บอสตัน เซลติกส์ ก็ยังมิอาจมองข้ามได้