Thailand Sport Magazine Sponsored

แซมมิส เรเยส : จากความฝันนักบาสเกตบอลทีมชาติสู่รุกกี้ NFL – Sanook

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

โบกมือลาบ้านเกิดและครอบครัวตั้งแต่อายุ 14 ปี, ใช้ชีวิตลำพังในสหรัฐอเมริกาด้วยเงินไม่ถึง 2,000 บาทต่อเดือน, กินโดนัทลดราคาชิ้นละ 8 บาท ประทังชีวิต, เข้าเรียนร่วมกับลูกหลานซีอีโอ, ตระเวนเล่นบาสเกตบอลกับ 4 มหาวิทยาลัย, ทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร และเซ็นสัญญามูลค่ามากกว่า 80 ล้านบาท ในฐานะนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอาชีพ

นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ แซมมิส เรเยส ผู้เล่นตำแหน่งปีกในชาวชิลีของ วอชิงตัน ฟุตบอลทีม อดีตนักบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยที่ไปไม่รอดบนเส้นทางเก่า แต่กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง เพราะความสู้ไม่ถอยของตัวเอง

เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจนี้เป็นอย่างไร ติดตามได้ที่นี่กับ Main Stand

จากบ้านมาสร้างฝัน

ชิลี ดินแดนที่ทอดยาวทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ หากพูดถึงกีฬาอันดับหนึ่งของประเทศแห่งนี้ ฟุตบอล ย่อมเป็นคำตอบแรกที่หลายคนนึกถึง แต่ยังมีกีฬาอีกชนิดหนึ่ที่ครองใจชาวชิลีไม่แพ้เกมลูกหนัง นั่นคือ บาสเกตบอล


Photo : facebook.com/sammisreyes

แซมมิส เรเยส ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่เติบโตขึ้นมาโดยมีความรักต่อกีฬาบาสเกตบอลในหัวใจ คุณพ่อของเขา แดเนียล เคยโบกมือลาครอบครัว เมื่ออายุ 16 ปี เพื่อตระเวนเล่นบาสเกตบอลทั่วชิลี เรเยสมองเห็นการเดินทางของคุณพ่อเป็นแบบอย่าง เขาไม่เคยลังเลจะเดินทางตามความฝัน แม้ต้องแลกมาด้วยระยะห่างจากครอบครัว

ความทะเยอทะยานกำหนดจุดหมายปลายทางของมนุษย์ แทนที่จะตั้งเป้าเป็นสุดยอดนักบาสเกตบอลในชิลี ความฝันเดียวของเรเยส คือ การก้าวสู่เวที NBA นี่คือแรงผลักดันที่ทำให้เขาพัฒนาตนเองตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 14 ปี เรเยสได้รับข้อเสนอที่ไม่เคยคาดฝัน เมื่อเขาได้รับทุนการศึกษานักกีฬาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเวสต์เลค รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา

“ไม่มีใครพร้อมลาจากครอบครัวตั้งแต่อายุ 14 ปี มันทำให้ผมกลัวว่า วันหนึ่งผมต้องรับโทรศัพท์เพื่อฟังข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผม” แซมมิส เรเยส เปิดใจกับ ESPN

“ผมไม่เคยกลัวเส้นทางที่รออยู่ข้างหน้า ผมแค่นั่งลงและร้องไห้ ผมเศร้าเพราะไม่รู้ว่าครั้งต่อไปที่ผมจะได้เจอหน้าพ่อ แม่ และเพื่อนของผมคือเมื่อไหร่ แต่ผมพร้อมจะก้าวต่อไป”


Photo : Instragram/sammisreyes

หากไม่ใช่เพราะ “ความฝัน” ที่อยากประสบความสำเร็จบนเวทีบาสเกตบอล เรเยสคงไม่ยอมโบกมือลาบ้านเกิด เพื่อมาเผชิญชะตาชีวิตเพียงลำพังในต่างแดน แม้จะเป็นประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ชีวิตของนักเรียนทุนนักกีฬาคนนี้ไม่ง่ายเลย

เรเยสต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังในหอพักนักเรียน โดยมีเพียงโค้ชประจำทีมบาสเกตบอลที่จะแวะมาดูแลความเป็นอยู่ของเขาสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งในส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งนี้ไม่ได้ออกทุนให้ เรเยสจึงต้องเอาตัวรอดในแต่ละเดือนด้วยเงิน 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 1,600 บาท ที่ครอบครัวส่งมาในแต่ละเดือน

โชคดีที่อนาคตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลรายนี้เป็นคนฉลาด เขานำเงินทั้งหมดที่ได้มาไปซื้อโปรตีนผง ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่เหลือเงินซื้อข้าวในแต่ละมื้อ แต่เมื่อคุณมีร่างกายที่พร้อมจะลงสนามและฝึกซ้อม เรเยสก็แค่เดินทางไปซ้อมบาสเกตบอลในแต่ละวัน แลกกับข้าวเช้าและข้าวเที่ยง

ส่วนข้าวเย็นนั้น ถ้าเขาโชคดีหน่อย เพื่อนร่วมทีมจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน หากวันไหนโชคไม่ดี เรเยสจะไปซื้อโดนัทลดราคาที่ร้านค้าโละทิ้งหลังเวลาสองทุ่ม ในราคาเพียง 25 เซนต์ หรือราว 8 บาทต่อชิ้น

“หากคุณต้องเลือกระหว่างโดนัทหนึ่งถาดกับถั่วสำเร็จรูปทั้งกระป๋อง บางครั้งคุณจำเป็นต้องเลือกโดนัทนะ เพราะนั่นจะช่วยให้คุณมีกินต่อไปอีก 2-3 วัน แต่ตอนนี้ผมกินโดนัทไม่ได้อีกแล้ว ผมไม่อยากแม้แต่จะมองมันด้วยซ้ำ” เรเยสแสดงให้เห็นว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขากินโดนัทไปมากแค่ไหน

มันคือการใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน และเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เรเยสต้องเผชิญหน้ากับปัญหาด้านภาษา เนื่องจากเขาพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นในช่วงแรก แถมยังไม่มีคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ สิ่งเดียวที่เป็นกำลังใจของเขาคือครอบครัว แม้เรเยสจะต้องยอมปิดบังความลำบากทั้งหมดที่เขาเผชิญ เพื่อไม่ให้คนข้างหลังต้องเป็นห่วง ขณะที่เขาเดินทางไล่ล่าความฝัน

ความอดทนและความพยายามไม่เคยทรยศใคร แม้สถานการณ์รอบข้างจะไม่เป็นใจแค่ไหน เมื่อเรเยสได้รับข่าวร้ายว่า โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเวสต์เลค กำลังจะปิดตัวลง


Photo : facebook.com/sammisreyes

เขาได้รับความช่วยเหลือจาก รูสเวลท์ เกรย์ (Roosevelt Gray) โค้ชบาสเกตบอลประจำโรงเรียน ที่ใช้เส้นสายฝากเด็กหนุ่มขยันตั้งใจจากชิลีคนนี้ เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเซนต์แอนดรูว์ สถานศึกษาระดับสูงในฟลอริด้า ที่เต็มไปด้วยลูกหลานซีอีโอ และคนขับรถ BMW มาโรงเรียน

ทั้งที่ได้โอกาสศึกษาในโรงเรียนระดับท็อป แต่เรเยสยอมรับว่าเขาไม่เหมาะกับสถานศึกษาที่เต็มไปด้วยลูกคนรวย เขาย้ายโรงเรียนอีกครั้ง โดยคราวนี้เข้าศึกษาที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานอร์ทโบวาร์ด ซึ่งสถานที่แห่งนี้เองช่วยแนะนำให้เด็กหนุ่มจากประเทศชิลี รู้จักกับกีฬาอเมริกันฟุตบอลเป็นครั้งแรก

เดินทางผิด ชีวิตเปลี่ยน

ตลอดเวลาที่เรเยสศึกษาในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานอร์ทโบวาร์ด แซมมิส เรเยส ได้รับการดูแลอย่างดีโดย สตีฟ ริฟกินด์ (Steve Rifkind) เจ้าของค่ายเพลงฮิปฮอป Loud Records และ SRC Records โดยลูกชายของเขา อเล็กซ์ ริฟกินด์ คือเพื่อนซี้ของเรเยส โดยทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมทีมบาสเกตบอลในลีก AAU (Amateur Athletic Union)

ขึ้นชื่อว่าเจ้าของค่ายเพลง สตีฟ ริฟกินด์ ย่อมมีสายตาที่สามารถตัดสินว่าใครจะเป็นซูเปอร์สตาร์ผ่านการมองเพียงครั้งเดียว เมื่อเขาเห็นส่วนสูง 196 เซนติเมตร น้ำหนัก 104 กิโลกรัมของเรเยส เขาแนะนำเด็กหนุ่มชาวชิลีทันทีว่า “นายควรไปเล่นอเมริกันฟุตบอลนะ”


Photo : nstagram/steverifkind

เมื่อได้รับคำชี้ทางจากบุคคลที่เคารพเหมือนพ่อคนที่สอง เรเยสจึงลองฝึกฝนอเมริกันฟุตบอลดูสักตั้ง แต่หัวใจที่เรียกร้องถึงความสำเร็จบนเวทีบาสเกตบอล ส่งผลให้เรเยสประกาศยกธงขาวจากกีฬาบนสนามหญ้า เพื่อกลับมาเอาดีบนเส้นทางบาสเกตบอลอีกครั้ง เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่ริฟกินด์ที่เชื่อว่า สามารถพัฒนาตัวเองจนเป็นผู้เล่นระดับดราฟต์รอบแรกได้สบาย

แต่ถ้าดูผลงานบนเวทีบาสเกตบอลของเรเยสในขณะนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเดินตามความฝันของตัวเองอีกสักตั้ง เขาทำแต้มเฉลี่ย 24.5 แต้มต่อเกม และค่าเฉลี่ยรีบาวด์ต่อเกมอยู่ที่ 13.2 ครั้งต่อเกม ผลงานตรงนี้ทำให้เขาได้รับข้อเสนอจาก 25 มหาวิทยาลัยในการแข่งขันระดับ Division I (ลีกสูงสุดของบาสเกตบอลมหาวิทยาลัย) ซึ่งเรเยสเลือกไปต่อกับมหาวิทยาลัยฮาวาย


Photo : facebook.com/sammisreyes

ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยความฝันจากชิลี แพ็คกระเป๋าสู่เกาะสวาทหาดสวรรค์ โดยไม่รู้เลยว่า ฮาวาย คือ นรกทั้งเป็นที่รอเขาอยู่ เพราะยังไม่ทันที่เขาจะได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียว เรเยสบาดเจ็บบริเวณเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าต้องพักยาวทั้งฤดูกาล แถมเฮดโค้ชที่ดึงตัวเขาเข้ามาดันถูกไล่ออกระหว่างฤดูกาล เรเยสไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาวาย และหาสถานศึกษาแห่งอื่นที่ยังเห็นค่าตัวเขาในฐานะนักบาสเกตบอล

มหาวิทยาลัยปาล์มบีชสเตท, มหาวิทยาลัยทูเลน และมหาวิทยาลัยโลโยล่านิวออร์ลีนส์ คือ สามสถานศึกษาที่เรเยสตระเวนลงเล่นขณะเขาเข้าเรียนในชั้นอุดมศึกษา แต่ไม่มีที่ไหนเลยที่เขาจะประสบความสำเร็จ ท้ายที่สุด เขาจึงต้องยอมรับความจริงว่า ความฝันที่จะลงเล่นใน NBA ได้หลุดลอยไป และไม่มีวันจะเป็นจริงได้อีกแล้ว

“ผมทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นไม่ได้เลย” เรเยสยอมรับความล้มเหลวบนเส้นทางนักบาสเกตบอลของตัวเอง

“ผมตกหลุมรักกีฬาบาสเกตบอลในฐานะผู้เล่น และอยากก้าวไปให้ถึง NBA ผมคงหงุดหงิดมากถ้าผมไม่ลองเดินไปให้สุดบนเส้นทางนั้น” 

“แต่การไม่ฟังคำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางกีฬาของผม เมื่อตอนที่ผมยังเด็ก นั่นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ของผม ป่านนี้ผมคงลงเล่นใน NFL ไป 3-4 ฤดูกาล ซึ่งมันคงทำให้ผมกลายเป็นผู้เล่นที่ดีกว่านี้”


Photo : facebook.com/sammisreyes

เรเยสลงเล่นกีฬาบาสเกตบอลเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 ในฐานะนักกีฬาทีมชาติชิลี ที่ลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์บาสเกตบอลชิงแชมป์โลกรอบคัดเลือก 2019 หลังเสร็จสิ้นภารกิจซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลว เรเยสพร้อมจะก้าวไปบนเส้นทางใหม่ และอาชีพใหม่ที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นคือ “พนักงานส่งอาหาร”

พนักงานส่งอาหาร สู่ นักกีฬา NFL

ความจริงแล้ว แซมมิส เรเยส ยังรักกีฬาบาสเกตบอลเต็มหัวใจ และอยากใช้เวลากับมันให้นานที่สุด เขาเริ่มเปิดคอร์สสอนกีฬาบาสเกตบอลแก่ผู้ที่สนใจ โดยขณะเดียวกัน เขาเริ่มกลับมาฝึกฝนกีฬาอเมริกันฟุตบอลอีกครั้ง ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 ในแคมป์ฝึกซ้อมที่เมืองแอชเบิร์น รัฐเวอร์จิเนีย


Photo : facebook.com/sammisreyes

ทุกอย่างกำลังไปได้สวย กระทั่งการมาถึงของวิกฤติโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้คอร์สสอนบาสเกตบอลของเขาต้องหยุดชะงักลง เรเยสที่ค่าใช้จ่ายรัดตัว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหางานประจำทำเพื่อเอาตัวรอด ขณะที่เขายังฝึกซ้อมอเมริกันฟุตบอลต่อไป

เรเยสจึงสมัครเป็นพนักงานขับรถแก่บริษัท DoorDash แพลต์ฟอร์มรับส่งอาหารในสหรัฐอเมริกา ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เขากำลังใช้ชีวิตหลังพวงมาลัย เพื่อตระเวนขับรถส่งอาหารทั่วเขตนอร์ท เวอร์จิเนีย ในช่วงเวลาว่างที่เขาไม่ได้ลงเล่นบนสนามฝึกซ้อม

“เมื่อคุณทำงานบริการ ผู้คนมากมายจะกลับมาช่วยเหลือคุณ” เรเยสพูดสิ่งที่ได้รับจากประสบการณ์พนักงานส่งอาหาร

“ผมได้รับคำแนะนำดี ๆ จำนวนมาก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ผมพยายามตอบข้อความลูกค้า และนายจ้างทุกคนที่ผมรู้จัก ผมพยายามยิ้มกว้างและจริงใจกับทุกคน ซึ่งสุดท้าย การกระทำตรงนี้มันกลับมาตอบแทนผม”


Photo : facebook.com/sammisreyes

เมื่อสถานการณ์โควิดในสหรัฐอเมริกาเริ่มดีขึ้น เรเยสเดินหน้าเต็มตัวบนเส้นทางอเมริกันฟุตบอล เขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม NFL’s International Player Pathway Program หรือโปรแกรมที่ช่วยฝึกฝนนักกีฬาต่างชาติผู้มีพื้นฐานกีฬาอื่นสู่อเมริกันฟุตบอล โดยเขาเลือกเล่นในตำแหน่งปีกใน (Tight End) นอกจากนี้ เรเยสยังเข้าฝึกซ้อมเป็นเวลา 10 สัปดาห์ ที่ IMG Academy ในรัฐฟลอริด้า

ความทุ่มเททุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของเรเยสจะมีค่าหรือไม่ ถูกตัดสินในวันที่ 31 มีนาคม 2021 หรือวันแข่งขัน Pro Day ที่มหาวิทยาลัยฟลอริด้า ซึ่งจะเป็นวันที่ผู้เล่นหน้าใหม่นอกเหนือการดราฟต์ จะได้แสดงสมรรถภาพร่างกายต่อหน้าแมวมองจากบรรดาทีมในลีก NFL

เรเยสแสดงให้เห็นทุกอย่างที่เขามีในตัว ด้วยผลงาน 4.65 วินาที ในการวิ่งระยะ 40 หลา และยกน้ำหนัก 102 กิโลกรัม ด้วยท่า Bench-press ได้ถึง 31 ครั้ง เมื่อบวกกับผลการทดสอบด้านอื่นที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เรเยสถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 11 ผู้เล่นน่าจับตาจาก Pro Day ที่ฟลอริด้า และได้รับความสนใจจากหลายทีมใน NFL


Photo : washingtonfootball

ท้ายที่สุด เรเยส เลือกเซ็นสัญญากับ วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ที่กล้ายื่นสัญญายาว 3 ปี มูลค่า 2.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 81.5 ล้านบาทให้กับเขา ถือเป็นจำนวนเงินที่น่าเหลือเชื่อสำหรับชายหนุ่มชาวชิลี ที่ต้องกินโดนัทลดราคาเมื่อ 10 ปีก่อน และเพิ่งทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งอาหารเมื่อปีที่แล้ว

“มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง ผมนั่งลงและร้องไห้อยู่ราวครึ่งชั่วโมง เพราะผมไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะบ้าคลั่งได้ขนาดนี้” เรเยสให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น หลังเซ็นสัญญาเป็นนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพ

“นี่คือการเดินทางอันยาวนาน เป็นช่วงเวลา 10 ปีที่ผมเสียสละทุกอย่างในชีวิตและทำงานหนักมาตลอด ซึ่งมันไม่ใช่แค่ผมที่เสียสละ แต่รวมถึงครอบครัวของผมด้วย”


Photo : seattletimes.com

ขณะนี้ วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ลงเล่นในฤดูกาล 2021 ไปแล้ว 2 เกม แซมมิส เรเยส ยังคงไม่ได้ลงสนามให้กับต้นสังกัด เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ นี่จึงเป็นบททดสอบอีกครั้งในชีวิตของเขา ถึงความไม่ง่ายบนเวทีอเมริกันฟุตบอล

แต่ถ้าคุณอ่านเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรเยสจะลุกขึ้นสู้กับอุปสรรค และท้าทายโชคชะตาของตัวเองอีกครั้ง น่าสนใจเหลือเกินว่า นักสู้ชาวชิลีคนนี้จะเดินไปได้ไกลแค่ไหนบนเส้นทางความฝันครั้งใหม่ของเขา

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.