ตามที่ สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล รายการ “ฟีบ้า เอเชีย คัพ 2021” รอบแบ่งกลุ่ม ช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-20 มิ.ย. ที่เมืองคลาร์ค ประเทศฟิลิปปินส์ โดยทัพยัดห่วงหนุ่มทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย โดย 2 ช่วงก่อนหน้านี้ แข่ง 4 เกม พ่ายทั้ง 4 เกม โดยพ่ายให้แก่ เกาหลีใต้ 1 เกม, พ่ายให้แก่ ฟิลิปปินส์ 2 เกม และพ่าย อินโดนีเซีย 1 เกม ซึ่ง 2 เกมสุดท้ายของช่วงที่ 3 นี้ ทีมไทยจะพบกับเกาหลีใต้ และ อินโดนีเซีย ผลปรากฎว่า ยัดห่วงหนุ่มไทย พ่ายไปทั้ง 2 เกม โดยเกมแรกแพ้ให้กับเกาหลีใต้ 53-120 ส่วนเกมที่สองพ่ายให้แก่อินโดนีเซีย 69-86 สรุปลงแข่งขัน 6 เกม แพ้รวด ได้อันดับสุดท้ายของกลุ่ม ตกรอบเรียบร้อยแล้ว
“เฮียต่าย” นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลฯ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าผิดหวังกับผลงาน โดยก่อนแข่งขันทีมมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งเรื่องของงบประมาณที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปแข่งขันมากกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่นักกีฬาลูกครึ่งในต่างประเทศก็ประสบปัญหาการเดินทาง ทำให้พลาดโอกาสมาร่วมทีม นอกจากนี้ ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้นักกีฬาไม่สามารถฝึกซ้อมได้เต็มที่ และไม่มีการแข่งขันเกมลีกในประเทศ การเตรียมความพร้อมจึงค่อนข้างยากมาก
นายนิพนธ์ กล่าวว่า หลังจากนี้สมาคมกีฬาบาสเกตบอลฯ จะนำข้อบกพร่องมาเตรียมความพร้อมสำหรับสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะมีนักกีฬาลูกครึ่งไทย-อเมริกัน มาร่วมทีม 4-5 คน ขณะที่คู่แข่งอย่างอินโดนีเซีย ที่มีผู้เล่นโอนสัญชาติด้วยนั้น ตนยังเชื่อว่าหากทีมไทยมีนักกีฬาลูกครึ่งมาช่วยก็จะสู้ได้แน่นอน ส่วน เจ้าภาพ เวียดนาม ได้รับรายงายว่าเตรียมดึงผู้เล่นต่างชาติมามาเสริมแกร่ง แต่ก็น่าจะติดข้อบังคบหลายด้าน ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าในซีเกมส์ ทีมไทยจะเข้าชิงฯ กับฟิลิปปินส์แน่นอน อยากให้แฟนกีฬาบาสเกตบอลที่วิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลเข้าใจถึงปัญหาและสบายใจได้ว่าในซีเกมส์ทีมไทยจะทำผลงานได้ดี แต่หากผลงานยังไม่เข้าตา ตนก็พร้อมพิจารณาตัวเองเช่นกัน