Thailand Sport Magazine Sponsored

“สสส.” เผย 5 Insight พฤติกรรมการออกกำลังกายคนไทย พบทุกกลุ่มวัยออกกำลังกายมากขึ้น 35% หันออกกำลังกายที่ “บ้าน” – Brand Buffet

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

เมื่อพูดถึง “การออกกำลังกาย” สมัยก่อนคนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นกิจกรรมสำหรับผู้สูงวัย เพราะมักจะเห็นกลุ่มสูงวัยจำนวนมากมาเดิน และวิ่งจ็อกกิ้ง ตามสวนสุขภาพตอนเช้าๆ หรือเย็นๆ จนชินตา แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ภาพของคนออกกำลังกายเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ทุกกลุ่มวัย ตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงสาวๆ และหนุ่มๆ ต่างหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้หุ่นดี แถมยังได้เจอเพื่อนใหม่ ช่วยให้คลายเหงาได้มากขึ้นด้วย

ดังนั้น เพื่อทำความเข้าใจอินไซต์การออกกำลังกายของผู้บริโภคยุคนี้ให้มากขึ้น “สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” (สสส.) และ “ไวตามินส์ คอนซัลติ้ง แอนด์ รีเสิร์ช” จึงร่วมกันสำรวจพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้บริโภคชาวไทย โดยการสำรวจนี้เป็นการสำรวจผ่านช่องทางออนไลน์ของ Buzzebees Panel ระหว่างวันที่ 10-17 ตุลาคม 2565 จากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน อายุ 18-60 ปี ครอบคลุมกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยพบ 5 เทรนด์ ที่น่าสนใจ ดังนี้

1.ออกกำลังกายไม่ใช่กิจกรรมของคน “สูงวัย” แต่ “ทุกวัย” ให้ความสำคัญมากขึ้น

โควิด-19 อาจจะทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป แต่ก็ทำให้คนตื่นตัวและหันมาออกกำลังกายมากขึ้นเช่นเดียวกัน และไม่เฉพาะคนสูงวัยเท่านั้น โดยผลสำรวจพบว่า คนทุกวัยหันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น โดยกลุ่ม 40-49 ปี ชอบเคลื่อนไหวร่างกายและเล่นกีฬามากสุด รองลงมาคือ กลุ่ม 18-29 ปี ตามด้วย 30-39 ปี และ 50-60 ปี

2.เทรนด์ออกกำลังกายที่ “บ้าน” มาแรง

เมื่อพูดสถานที่ออกกำลังกาย ที่ผ่านมาเรามักจะนึกถึงสวนสาธารณะและฟิตเนส ซึ่งผลสำรวจในครั้งนี้ คนส่วนใหญ่ยังคงนิยมออกกำลังกายในสวนสาธาณะ มีสัดส่วนถึง 47% โดยคนต่างจังหวัดจะนิยมออกกำลังกายในสวนสาธารณะมากกว่าคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ต่างจังหวัด 52% กรุงเทพฯ และปริมณฑล 36%) แต่เทรนด์ที่น่าสนใจคือ คนหันมาออกกำลังกายที่ “บ้าน” เพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนถึง 35% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 50-60 ปี ในขณะที่ฟิตเนสมีสัดส่วนเพียง 4% เท่านั้น

โดยแรงจูงใจที่ทำให้คนหันมาออกกำลังกลายที่บ้านกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนมองหากิจกรรมคลายเหงาระหว่างอยู่บ้านมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ การออกกำลัง กระทั่งโควิด-19 คลี่คลายขึ้น คนยังคงนิยมออกกำลังกายที่บ้านต่อเนื่อง เพราะสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทาง แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่นิยมออกกำลังกาย พบว่า คนส่วนใหญ่นิยมออกกำลังกายในวันทำงานหรือวันธรรมดามากกว่าวันหยุด โดย 29% ของคนที่นิยมออกกำลังกายในวันธรรมดา จะชอบออกกำลังกายช่วงเย็นมากกว่า (15.01-18.00 น.) โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ขณะที่คนต่างจังหวัดนิยมออกกำลังกายช่วงเช้า ส่วนวันหยุด พบว่าคนออกกำลังทุกช่วงเวลา แต่ที่น่าสนใจคือ คนต่างจังหวัดนิยมออกกำลังกายในช่วงสายๆ (09.01-12.00 น.)

3.“คาร์ดิโอ” กิจกรรมออกกำลังกายสุดฮิต

เมื่อถามถึงรูปแบบกิจกรรมการออกกำลังกายที่คนนิยมมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า คาร์ดิโอ เป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่คนชื่นชอบมากที่สุด มีสัดส่วน 86% โดยเฉลี่ยใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รองลงมาคือ การเล่นโยคะ 72% ตามด้วยการเล่นกีฬา เช่น ฟุตบอล แบตมินตัน และบาสเกตบอล 65% แต่หากแยกตามเพศ พบว่า ผู้ชายจะชอบการเล่นกีฬา และยกน้ำหนักมากกว่า ส่วนเพศหญิงจะชอบคาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แอโรบิก (88%)

ขณะที่กิจกรรมขยับร่างกาย 3 อันดับแรกที่คนใช้เวลานานสุดคือ ทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำกับข้าว ล้างจาน ตามด้วย เดินติดต่อกัน เช่น เดินช้อปปิ้ง พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น, และเดินขึ้นลงบันได โดยใช้เวลาในการออกกำลังกายเฉลี่ยมากกว่า 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

4.ชี้ 40% อยากมีรูปร่างดี ดันคนออกกำลังกายมากขึ้น

นอกจากปัจจัยเรื่องของโควิด-19 ที่ทำให้คนหันมาห่วงสุขภาพและออกกำลังกายมากขึ้นแล้ว เนื่องจากไม่อยากเจ็บป่วยและเข้าโรงพยาบาล ผลวิจัยครั้งนี้ ยังพบแรงบันดาลใจที่ทำให้คนอยากออกกำลังกายเพิ่มขึ้น 3 อันดับแรก คือ

1.อยากมีรูปร่างดี 40%

2.รู้สึกสุขภาพดีอยู่แล้ว แต่อยากมีสุขภาพดีมากขึ้นกว่านี้ 38%

3.อยากหากิจกรรมใหม่ๆ ทำ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 34%

หากแบ่งแยกตามเพศ เพศหญิงต้องการออกกำลังกายเพราะอยากให้รูปร่างดีมากกว่าเพศชาย แต่หากแยกตามอายุ จะพบว่า กลุ่มวัยทำงาน 30-39 ปี รู้สึกสุขภาพดีอยู่แล้ว แต่อยากมีสุขภาพดีมากขึ้นกว่านี้ ส่วนกลุ่มวัย 50-60 ปี มีภาวะน้ำหนักเกินอยากลดน้ำหนัก

5.“เหนื่อย-สภาพอากาศ-ไม่มีสถานที่” 3 อุปสรรคใหญ่ทำคนไม่อยากออกกำลังกาย

ทุกวันนี้ ทุกคนรู้ว่าการออกกำลังกายช่วยให้มีสุขภาพดี และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คนหันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น แต่มีอีกหลายคนทีเดียวที่ไม่อยากออกกำลังกาย ซึ่งการสำรวจในครั้งนี้ ได้สอบถามถึงสาเหตุที่เป็นอุปสรรคให้ไม่อยากออกกำลังกาย โดยพบว่า อุปสรรคสำคัญมาจาก

เหนื่อยจากการเรียนหรือการทำงาน 39%

สภาพอากาศไม่ดี เช่น มีฝุ่น ฝนตก 39%

ไม่มีสถานที่ออกกำลังกายใกล้บ้าน หรือที่ทำงาน 33%

ไม่มีเพื่อนออกกำลังกาย 24%

ขี้เกียจ 24%

ออกกำลังกายแล้วปวดเมื่อย 20%

ไม่มีเวลา 20%

ไม่รู้จะออกกำลังกายเพื่ออะไร 15%

ไม่ชอบร่างกายหลังออกกำลังกาย เช่น กลิ่นเหงื่อ 10%

ไม่เห็นผลที่แตกต่างจากเดิม 9%

รูปร่างดีอยู่แล้ว 6%

ร่างกายยังไม่พร้อม 6%

เมื่อถามถึงสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้อยากออกกำลังกาย จากผลสำรวจพบว่า แรงจูงใจ 3 อันดับแรก มาจากท่าออกกำลังกายแบบง่ายๆ 21% แพทย์แนะนำ 16% และ เห็นคนรูปร่างดี 15% หากแยกตามอายุ พบว่า การได้เห็นคนรูปร่างดี เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นกลุ่มเด็กเพิ่งเริ่มทำงานได้มากกว่า ขณะที่กลุ่มผู้สูงวัย มองว่าท่าออกกำลังกายแบบง่ายๆ โดยเฉพาะการแกว่งแขวนเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้พวกเขาออกกำลังกายมากขึ้น

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.