“ชลบุรี”พร้อมจัดศึกไทยแลนด์ฯมาสเตอร์เกมส์ เปิดรับต่างชาติลงชิงชัย

“ชลบุรี” พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาสูงอายุ “ไทยแลนด์โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 3 ในปี 2023 โดยจัดการแข่งขันแบบโอเพ่นให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าแข่งขันได้ เพื่อให้เป็นการปูทางสู่การชิงชัยในระดับนานาชาติเต็มรูปแบบ

 จังหวัดชลบุรี จัดประชุมเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันศึกไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 12 ก.พ. 2566 (2023) ที่จ.ชลบุรี โดยจะมีจัดแข่งขัน 15 ชนิดกีฬา 2 กีฬาสาธิต ประกอบด้วย กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, เพาะกาย, ลีลาศ, ฟุตบอล, เกทบอล, กอลฟ์, เปตอง, เซปักตะกร้อ, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทนนิส, วู้ดบอล, กระดานยืนพาย, บริดจ์ และ คาราเต้ ใช้สนามแข่งขันที่ พัทยา ศรีราชา ชลบุรี นักกีฬาสูงอายุที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ที่ www.Facebook/Thailand Open Masters Games ปิดรับสมัครภายในวันที่ 10 มกราคม นี้

 นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการการจัดการแข่งขันกีฬาสูงอายุ ไทยแลนด์โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 เปิดเผยว่า การแข่งขันไทยแลนด์โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ในปีที่ 3 เป็นการแข่งขันกีฬาอาวุโสที่จะมีจุดที่แตกต่างจาก 2 ปีที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้จะมีนักกีฬาต่างประเทศเดินทางเข้ามาร่วมการแข่งขันด้วย หลัง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีนักกีฬาที่เดินทางมาจากต่างประเทศอาจจะมีชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่เมืองไทยลงแข่งขันได้

 “ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันในระดับนานาชาติเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก เพราะว่าจะมีชาวต่างชาติ จากหลายประเทศ เดินทางเข้ามาแข่งขัน จึงต้องมีความระมัดระวังในหลายๆ ด้าน โดยชาติต่างๆ ที่เข้าแข่งขัน ตั้งแต่เราเปิดรับสมัคร มีสนใจติดต่อมาหลายชาติ และสมัครเข้าแข่งขันหลายชนิดกีฬา ในส่วนของอาเซียน จะมี มาเลเซีย สิงคโปร์ และ ในเอเชีย ก็มีอินเดีย เหลือแค่จีน ตอนนี้จีนยังปิดประเทศอยู่ คงต้องรอในปีหน้า วันที่ 10 ม.ค.ที่ปิดรับสมัครว่าทางจีน จะเปิดประเทศและสมัครเข้ามาแข่งขันได้หรือไม่”

 “สำหรับการหารือกับทางเจ้าภาพ ชลบุรี ในเรื่องรูปแบบการแข่งขัน เราจะเน้นในเรื่องสนามแข่งขัน สถานที่พัก การรักษาความปลอดภัย เพราะนักกีฬาที่เข้าแข่งขันน่าจะเป็นจำนวนพันคน มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งเรื่องระบบสาธารณสุข เพราะนักกีฬาเป็นผู้สูงอายุ ต้องเน้นเรื่องนี้ รวมทั้งในเรื่องการประชาสัมพันธ์ในจังหวัดเพื่อสร้างความตื่นตัวในจังหวัด ส่วนชนิดกีฬาจากเดิม 14 ชนิดกีฬา ก็เพิ่มเป็น 15 ชนิดกีฬา และ 2 กีฬาสาธิต ซึ่งยังมีอีกหลายชนิดกีฬาที่สนใจจะเข้ามาบรรจุในการแข่งขันที่จะต้องรอในครั้งต่อไป” นายณัฐวุฒิ กล่าว