สำหรับผลงานทัพนักกีฬาไทยในพาราลิมปิก โตเกียว 2020 กวาดเหรียญทองไป 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 18 เหรียญรางวัล จบการแข่งขันอันดับที่ 25 และเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปเอเชีย รองจากจีน (เจ้าทอง), ญี่ปุ่น, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน และอินเดีย โดยทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ยังครองเบอร์ 1 ของอาเซียนเหนือกว่า มาเลเซีย ที่จบอันดับ 39 ทำไป 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เสียงเชียร์ และกำลังใจจากพี่น้องประชาชนคนไทย ที่ทำให้นักกีฬาพาราไทยต่อสู้ทำผลงานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ไม่มีผู้ชมในสนามก็ตาม ความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะเหรียญรางวัลที่เราทำได้ 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง แต่จริงๆก็อยากแสดงความชื่นชมและขอบคุณนักกีฬาทุกๆคนที่สร้างผลงาน พยายามและตั้งใจกันอย่างเต็มที่
“ปัจจัยหลักของการแข่งขันกีฬาคนพิการไม่ใช่แค่การสร้างผลงานสู่ความเป็นเลิศ มากกว่านั้นคือ การมีส่วนร่วมในการแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาในฐานะที่เป็นผู้พิการ และก็ทำให้สังคมได้เห็นถึงความสามารถของตัวเองแม้จะมีข้อจำกัดทางร่างกาย นักกีฬาของไทยเราไม่เป็นรองใคร สิ่งที่ตนชื่นชมนักกีฬาทุกครั้งคือ เรื่องของหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ นักกีฬาเรามีหัวใจของนักสู้ ตั้งแต่การเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนหน้านี้ ความพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง ตลอดจนความพยายามในสนามแข่งขัน ที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะนำความสุขมาสู่พี่น้องประชาชนคนไทย” นายจุตินันท์กล่าว ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกไทย กล่าวต่ออีกว่า ความสำเร็จของทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทยในครั้งนี้เป็นผลมาจากการร่วมมืออย่างต่อเนื่องของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก สมาคมกีฬาคนพิการทั้ง 5 สมาคม สมาคมกีฬาคนพิการ, สมาคมกีฬาคนพิการทางสมอง, สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญา, สมาคมกีฬาคนตาบอด, สมาคมกีฬาคนหูหนวก และ องค์กรภาครัฐ อย่าง กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน อาทิ สิงห์ โตโยต้า บริดจ์สโตน ปตท. เอฟบีที ทรู ซีพี ซิตี้แบงก์ ในการส่งเสริมพัฒนานักกีฬาที่มีประสบการณ์ให้รักษามาตรฐานเอาไว้ให้ได้ และการพัฒนารวมถึงสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมาเป็นอย่างดี จนสามารถทำให้ประสบคสวามสำเร็จอย่างในทุกวันนี้ ทั้งนี้ ในค่ำวันนี้ (5 ก.ย.64) จะมีนักกีฬาส่วนหนึ่งเดินทางกลับ ประกอบได้ด้วย นักกรีฑาลู่-ลาน-วีลแชร์เรซซิ่ง, เทเบิ้ลเทนนิส, ทีมฟุตบอลตาบอล, นักยิงธนู, นักว่ายน้ำ, นักเทควันโด รวมเจ้าหน้าที่และโค้ช รวม 68 คน โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ635 ออกเดินทางเวลา 22.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น ต่อเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ เข้าสู่จังหวัดภูเก็ต ถึงภูเก็ตในเวลา 9.25 น. ตามเวลาไทย และจากนั้นนักกีฬาชุดสุดท้าย จะกลับในวันที่ 7 ก.ย.64 ประกอบด้วย นักแบดมินตัน, นักบอคเซีย, นักวีลแชร์เทนนิส, นักยิงปืน รวมอีก 54 คน โดยสายการบินเดียวกัน และจะถึงจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 8 ก.ย.64 เวลา 9.25 น. ตามเวลาไทย ซึ่งทั้งหมดเข้ากักตัวที่จังหวัดภูเก็ต ในโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ๊อก” ต่อไป สำหรับการแข่งขัน “พาราลิมปิก ปารีส 2024” กำหนดชิงชัย 22 ชนิดกีฬา ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 8 กันยายน พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, จักรยาน (ลู่-ถนน), ขี่ม้า, ฟุตบอลคนตาบอด, โกลบอล, ยูโด, เรือแคนู, ไตรกีฬา, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, ยิงปืน, วอลเลย์บอลนั่ง, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ, วีลแชร์รักบี้ และวีลแชร์เทนนิส