คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ได้ออกมาประกาศว่าก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน จะไม่มีการคุกเข่าเพื่อต่อต้านการเหยียดผิว หากนักกีฬาคนไหนฝ่าฝืนต้องรับบทลงโทษทันที
ล่าสุดคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ได้ออกมาเผยว่า หากนักกีฬาคนไหนแสดงการคุกเข่าก่อนเกมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว หรือชูกำปั้นเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ จะถูกลงโทษหรือถูกแบนทันที เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเมื่อวันพุธที่ 21 เมษายนที่ผ่านมายังคงห้ามไม่ให้มีการประท้วงของนักกีฬาในสนามกีฬา รวมไปถึงบนโพเดียมด้วย
สืบเนื่องจากกฎข้อที่ 50 ของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ห้ามไม่ให้มีการสาธิตหรือการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองศาสนาหรือเชื้อชาติในสถานที่จัดงานและพื้นที่โอลิมปิกอื่นๆ ซึ่งทางหน่วยงานของฝ่ายจัดได้สรุปว่าควรคงกฎไว้ หลังจากปรึกษาหารือกับนักกีฬาร่วม 3,500 คน
เมื่อเทียบกับหลักการของขบวนการ แบล็กไลฟส์แมตเทอร์ ที่ประท้วงความอยุติธรรมทางเชื้อชาติมีการเรียกร้องเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าวซึ่งจะทำให้นักกีฬาสามารถประท้วงได้ ซึ่งทาง เซบาสเตียน โค อดีตนักรีฑาทีมสหราชอาณาจักรผู้คว้าเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ปี 1980 และ 1984 ได้ออกมากล่าวว่านักกีฬาควรมีสิทธิ์แสดงท่าทางประท้วงทางการเมืองระหว่างการแข่งขัน
ด้าน คริสตี้ โคเวนทรี หัวหน้าคณะกรรมการนักกีฬาของ ไอโอซี ยังได้ออกมาเผยว่าจากการประชุมร่วมกับนักกีฬาที่เข้าร่วม ‘โตเกียว2020’ ครั้งนี้มากกว่า 3,500 คน ได้ข้อสรุปว่า ไม่ต้องการให้อะไรมารบกวนสมาธิจากการแข่งขัน อย่างไรก็ตามนักกีฬาจะถูกลงโทษทันทีถ้าหากแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง เช่น การจับคุกเข่าบนโพเดียมเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ นอกจากนี้เธอยังได้บอกอีกว่า นักกีฬาประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ไม่ต้องการให้มีการประท้วงบนโพเดียมพิธีการและสนามแข่งขัน
สำหรับการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว2020” ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มต้นในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่จะถึงนี้ หลังจากต้องเลื่อนมาเนื่องจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา