“แฝดใหญ่-เล็ก” รับรางวัลผู้ปิดทองหลังพระ-เล็งส่งทีมผลัดลุ้นตั๋วโอลิมปิกเพิ่ม

2 ผู้ปั้นนักกรีฑาไทยให้สร้างชื่อใน ซีเกมส์-เอเชียนเกมส์ หลายสมัย รับรางวัลผู้ปิดทองหลังพระ เผยเตรียมส่งทีมผลัดควอลิฟายลุ้นตั๋วโอลิมปิกเพิ่ม

วันที่ 29 มี.ค. 64  “มูลนิธิ ประชุมรัตนเพียร” จัดมอบรางวัล “แสงสาดส่องผู้ปิดทองหลังพระประชุม รัตนเพียร” ครั้งที่ 6 โดยมี ดร.ประวิช รัตนเพียร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่ห้องราชพฤกษ์บอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพมหานคร

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล จะได้รับป้ายแผ่นทองคำสลักชื่อ พร้อมเงินรางวัล มูลค่ารวม 200,000 บาท โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึง “ครูประชุม รัตนเพียร” ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ผู้อยู่เบื้องหลังกีฬาหลายประเภท ซึ่งได้ถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา โดย “ครูประชุม” เล็งเห็นว่ากว่าที่นักกีฬาจะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้เวลานานหลายปี เช่นเดียวกับผู้ฝึกสอนและผู้บริหารสมาคมกีฬา ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

ทั้งคู่ถือเป็นผู้บุกเบิกวงการกรีฑาไทยและสร้างนักกรีฑาให้สร้างชื่อทั้งระดับซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ มาแล้วหลายครั้ง และล่าสุด คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งทีมชาติไทย ยังสามารถควอลิฟายคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากประเภทวิ่งระยะ 10,000 ม. ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการกรีฑาไทยอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล เลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาฯ เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณกับการพิจารณารางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นกำลังใจในการทำงานที่ทุ่มเทเพื่อสมาคมฯ มาโดยตลอด สำหรับเรื่องโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในตอนนี้ที่ได้อย่างแน่นอนแล้วก็คือ คีริน ตันติเวทย์ ในระยะ 10,000 ม. โดยในช่วงพฤษภาคมนี้จะมีการควอลิฟายในระยะ 5,000 ม.

ส่วนที่ยังมีโอกาสสูงก็คือ สุเบญรัตน์ อินแสง ซึ่งตอนนี้อยู่ที่อันดับ 22 โดยถ้าจะให้ได้แน่นอน สุเบญรัตน์ ต้องทำสถิติให้ได้ 63.50 ม. ซึ่งทางโอลิมปิกจะเอานักกีฬา 32 คนผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย และเราจะส่ง สุเบญรัตน์ กับ ปริญญา เฉื่อยมะเริง ไปแข่งขัน 2 รายการใหญ่ ไดมอนด์ลีก และ รายการโอเพ่น

ส่วนทีมวิ่งผลัด 4X100 ม. ชาย จะส่งไปแข่งรายการเวิลด์ รีเลย์ ที่ประเทศโปแลนด์ ในวันที่ 25 เมษายนนี้ ซึ่งวิ่งผลัด 4×100 ม. ถ้าวิ่งได้เวลาต่ำกว่า 38.5 วินาที ก็มีโอกาสที่จะคว้าตั๋วโอลิมปิก