Thailand Sport Magazine Sponsored
Categories: กรีฑา

เปิดประวัติ.! สโมสร เชลซี ทีมแรกในลอนดอนที่คว้าถ้วย UCL ได้สำเร็จ

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

มาทำความรู้จักประวัติของ สโมสร เชลซี สโมสรฟุตบอลที่สร้างนักเตะผู้เป็นตำนานมากมาย รวมถึงเป็นทีมแรกที่คว้าแชมปื ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ได้เป็นทีมแรกใน กรุงลอนดอน 

ประวัติสโมสรฟุตบอลเชลซี

  • ชื่อเต็ม : Chelsea Football Club
  • ฉายา : เดอะ บลูส์ / สิงห์บลูส์ , สิงโตน้ำเงินคราม (ในไทย)
  • ก่อตั้ง : ค.ศ. 1905
  • สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ความจุ: 40,341 ที่นั่ง)
  • เจ้าของ : บลูโค 22 ลิมิเต็ด (BlueCo 22 Limited)
  • ประธาน :  ท็อดด์ โบห์ลี่
  • ผู้จัดการทีม : แกรม พ็อตเตอร์

สโมสรฟุตบอลเชลซี  เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ตั้งอยู่ในเขตฟูแล่ม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1905 หลังจาก กุส เมียร์ส ซื้อสนามกรีฑาสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนเป็นสนามฟุตบอล และยื่นข้อเสนอให้ฟูแล่มที่อยู่ใกล้เคียงกันเช่าสนาม แต่ถูกปฏิเสธ ดังนั้นเมียร์สจึงเลือกที่จะก่อตั้งสโมสรเองเพื่อใช้สนามนี้ เนื่องจากมีทีมชื่อฟูแล่มอยู่ในเมืองแล้ว จึงใช้ชื่อสโมสรว่า เชลซี ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกัน โดยผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสรคือ จอห์น รอเบิร์ตสัน ซึ่งคุมทีมในฐานะ ผู้เล่น-ผู้จัดการทีม

เชลซีเลื่อนชั้นไปเล่นในลีกสูงสุด (ดิวิชั่น 1) ได้ในฤดูกาลที่สอง แต่ทีมยังมีผลงานไม่คงเส้นคงวาสลับเลื่อนชั้น-ตกชั้นบ่อยครั้งในช่วงปีแรก ๆ พวกเขาผ่านเข้าถึงเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ปี 1915 ในยุคของ เดวิด คัลเดอร์เฮด อดีตนักฟุตบอลชาวสกอตแลนด์ แต่แพ้เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และจบอันดับสามในดิวิชั่น 1 ปี1920 ซึ่งเป็นการจบอันดับในลีกที่ดีที่สุดของสโมสรในขณะนั้น

เชลซีเล่นอยู่ในลีกสูงสุดตลอดช่วงทศวรรษที่ 1930 ด้วยการคุมทีมของ เลสลี ไนท์ตันแต่ผลงานไม่น่าประทับใจนักมักจะจบด้วยอันดับกลางตารางและท้ายตารางเป็นส่วนมาก จากนั้น บิลลี แบร์เรลล์ เข้ามาคุมทีมตั้งแต่ ค.ศ. 1939-52 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันรายการสำคัญ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองฟุตบอลอังกฤษได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งเชลซีประสบปัญหาภายในหลายอย่าง พวกเขาทำได้เพียงประคองอันดับอยู่กลางตาราง โดยความสำเร็จในทศวรรษ 1940 ของเชลซีมีเพียงการชนะเลิศฟุตบอลถ้วยการกุศล (War Cup) 2 สมัยเท่านั้น

เท็ด เดร็ก อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลและทีมชาติอังกฤษ เข้ามาคุมทีมในปี 1952 และปรับสโมสรให้ทันสมัยมากขึ้นด้วยการโละกลุ่มทหารและข้าราชการวัยเกษียณออกจากการเป็นทีมงาน และได้ปรับทีมเยาวชนและการซ้อมให้เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งซื้อนักเตะสตาร์ดังเข้ามาร่วมทีมมากมายแต่กว่าจะประสบความสำเร็จต้องรอจนถึงฤดูกาล 1954-55 พวกเขาคว้าลีกสูงสุดได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และควรจะเป็นทีมแรกจากอังกฤษที่ได้แข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรยุโรป แต่ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษห้ามไว้เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศ ก่อนที่ เดร็ก ถูกปลดจากตำแหน่งในปี 1961 และแทนที่ด้วย ทอมมี่ โดเชอร์ตี้ ที่เข้ามาในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีม

โดเชอร์ตี้ ได้ทำการปรับปรุงระบบทีมใหม่ ปล่อยนักเตะเก่าหลายคน และซื้อนักเตะใหม่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ปีเตอร์ ออสกู๊ด ตำนานสโมสร และพวกเขาคว้าแชมป์ลีกคัพได้ในฤดูกาล 1964-65 หลังเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มี กอร์ดอนแบงส์ ผู้รักษาประตูตำนานทีมชาติอังกฤษเฝ้าเสาด้วยผลประตูรวมสองนัด 3-2 ต่อมา เดฟ เซ็กตัน เข้ามาคุมทีมแทน โดเชอร์ตี ก่อนที่จะคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 1970 ด้วยการชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 2-1 ในนัดแข่งใหม่หลังจากเสมอในนัดแรก 2-2 และปีต่อมาพวกเขาคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรกในรายการยูฟ่าคัพ วินเนอร์ส คัพ ด้วยการชนะเรอัล มาดริด 2-1 ในนัดแข่งใหม่หลังจากเสมอในนัดแรก 1-1

เชลซีถึงยุคตกต่ำในช่วงทศวรรษ 1970 เมื่อพวกเขาขายผู้เล่นคนสำคัญหลายรายรวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมหลายคน ทั้ง เอ็ดดี แม็คเครดี้, เคน เชลลิโต้, แดนนี่ บลังค์ฟลาวเวอร์ส และ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ดี และมักจะอยู่ท้ายตาราง และย่ำแย่ต่อเนื่องจนถึงขั้นตกชั้นในปลายทศวรรษ 1970 

ปี1982 เคน เบตส์ ได้เข้ามาซื้อสโมสรด้วยราคาหนึ่งล้านปอนด์ พร้อมกับปรับปรุงสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ซ้ำร้ายเกือบจะตกชั้นไปดิวิชั่นสาม ในปีเดียวกัน กระทั่งฤดูกาล1983-84 จอห์น นีล พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นสองเล่นชั้นสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้งแต่ต้องตกชั้นอีกรอบในฤดูกาล 1987-88 ก่อนที่จะเลื่อนชั้นอีกครั้งในฤดูกาล 1988-89 ด้วยการคว้าแชปม์และมีแต้มทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 17 คะแนน จากนั้นเป็นต้นมาเชลซีไม่ตกชั้นจากลีกสูงสุดอีกเลย

ฤดูกาล 1993-94 เชลซีเข้าชิงชนะเลิศเอฟ เอคัพ ภายใต้การคุมทีมของ เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล แต่แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-4 ต่อมา รุด กุลลิท สตาร์ทีมชาติฮอลแลนด์เข้ามาคุมทีมในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีมในปี 1996 และพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปีต่อมา ด้วยการเอาชนะมิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 ต่อมา แต่ปี 1997 เชลซี เปลี่ยแปลงกุนซืออีกครั้งเมื่อตั้ง จิอันลูก้า วิอัลลี่ สตาร์ทีมชาติอิตาลีคุมทีมแทน กุลลิทในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการ

โดยยุคของวิอัลลี่ เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ ปี 1998 ด้วยการชนะมิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ด้วยการชนะสตุ๊ตการ์ท ทีมดังจากเยอรมัน 1-0 ตามด้วยแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ด้วยการชนะเรอัล มาดริด 1-0 พร้อมกับพาทีมจบอันดับ 3 พรีเมียร์ลีกตามหลังแชมป์อย่างแมนฯ ยูไนเต็ด เพียง 4 แต้มเท่านั้น

ฤดูกาลต่อมา วิอัลลี่ ประกาศเลิกเล่นและคุมทีมเพียงอย่างเดียวก่อนพาทีมเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่พ่าย บาร์เซโลน่า ด้วยผลรวม 2 นัด 6-4 ทั้งที่เอาชนะก่อนในเกมแรก 3-1 ขณะที่ผลงานในพรีเมียร์ลีกจบอันดับ 5 ก่อนปิดซีซั่น 199-9-2000 ด้วยแชมป์เอฟเอ คัพ หลังเอาชนะแอสตัล วิลล่า 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ

ฤดูกาล 2000-01 แม้ วิอัลลี่ จะพาทีมเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าโล่การกุศลแชริตี้ ชีลด์ ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลอย่างเป็นทางการใบที่ 5 ของเจ้าตัวกับสโมสรในเวลาไม่ถึง 3 ปี ทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของสโมสรในเวลานั้น แต่ วิอัลลี่ ถูกไล่ออกหลังคุมทีมลงเล่นเกมลีกไปเพียง 5 เกมเท่านั้นเนื่องจากผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชนะ 1 แพ้ 1 เสมอ 3 และมีปัญหากับผู้เล่นหลายคน รวมถึง จานฟรังโก้ โซลา, ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ และ แดน เปเตรสคู

เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาลี่เข้ามาคุมทีมแทน โดยในยุคของรานิเอรีนั้น เชลซีมีผลงานติด 5 อันดับแรกของของพรีเมียร์ลีกอย่างสม่ำเสมอ และ พาทีมเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ได้อีกครั้งในปี 2002 แต่แพ้ อาร์เซน่อล 0-2 

เดือนมิถุนายน 2003 เชลซี มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งเมื่อ เคน เบตส์ ตัเสินใจขายสโมสรให้ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียในราคา 140 ล้านปอนด์ และทีมได้ทุ่มซื้อผู้เล่นชื่อดังมากมาย โดยถือเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของสโมสรในการยกระดับเป็นทีมระดับโลกจนถึงปัจจุบัน โดย รานิเอรี่ ยังคงได้คุมทีมต่อไป ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทีมอย่างมากมาย มีการใช้เงินกว่า 100 ล้านปอนด์ซื้อนักเตะชื่อดังหลายรายเข้ามาเสริมทีม แต่สุดท้าย เชลซี ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้สักรายการ จบอันดับ 2 พรีเมียร์ลีก และตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ทำให้ รานิเอรี่ โดนปลดออกจากตำแหน่ง และเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีสเข้ามาคุมทีมแทน

มูรินโญ่ พาทีมประสบความสำเร็จมากมายเริ่มจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2004-05 ด้วยคะแนนสูงถึง 95 คะแนน และเป็นครั้งแรกที่สโมสรคว้าแชมป์ลีกได้นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาจากฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่ง และยังเอาชนะลิเวอร์พูลในนัดชิงชนะเลิศลีกคัพ 3-2

เชลซี ป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จในปีต่อมา ถือเป็นสโมสรที่ 5 ในอังกฤษที่ได้แชมป์ลีก 2 สมัยติดต่อกันนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาในฤดูกาล 2006-07 เชลซีได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยสองรายการ คือ เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 และ ลีก คัพ ที่ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 

20 กันยายน 2007 มูรินโญ่ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากทำผลงานไม่ดี แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2, เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-0 และ เสมอ โรเซนบอร์ก 1-1 ประกอบกับมีปัญหากับผู้บริหาร โดยเป็น อัฟราม แกรนท์ เข้ามาคุมทีมต่อ และพาทีมเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกครั้งแรกแต่แพ้จุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้งได้รองแชมป์ลีกคัพ และ พรีเมียร์ลีก ที่ได้ลุ้นถึงนัดสุดท้ายแต่โดนโบลตัน ตีเสมอ 1-1 ในนาทีสุดท้าย ทำให้มี 85 แต้ม ตามหลังทีมแชมป์อย่างแมนฯ ยูไนเต็ด 2 แต้มให้แกรนท์ โดนปลดไปตามระเบียบ

ฤดูกาล 2008-09 หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี่ กุนซือชาวบราซิเลี่ยนเขามาคุมทีมเข้ามาคุมทีมแต่ก็โดนปลดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2009 หลังจากนำทีมเสมอ ฮัลล์ 0-0 ตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง7 แต้ม โดยเป็น กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือชาวฮอลแลนด์ เข้ามารับตำแหน่งชั่วคราวและพาทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกแต่แพ้บาร์เซโลนาด้วยกฏประตูทีมเยือน รวมทั้งจบอันดับ 3 ในลีก ก่อนปิดซีซั่นด้วยแชมป์เอฟเอคัพ หลังชนะเอฟเวอร์ตัน 2-1

ฤดูกาล 2009-10 คาร์โล อันเชลอตติ ยอดกุนซือชาวอิตาเลี่ยน เข้ามาคุมทีมต่อจากฮิดดิ้งค์ และประเดิมด้วยชนะจุดโทษแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมคอมมิวนิตีชีลด์ ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยสถิติยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์จำนวน 103 ประตู พร้อมป้องกันแชมป์เอฟเอคัพได้ด้วยการชนะ พอร์ทสมัธ 1-0 ต่อมา ในฤดูกาล 2010-11 เชลซีเริ่มต้นด้วยการแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมคอมมิวนิตี ชีลด์  1-3 ก่อนจบฤดูกาลด้วยรองแชมป์ลีกและไม่มีแชมป์ติดมือทำให้ อันเชลอตติ  โดนปลดไปตามระเบียบ

ในฤดูกาล 2011-12 อันเดร วิลลาส-โบอาส กุนซือหนุ่มวัย 34 ปี (ในขณะนั้น) หลังทำผลงานยอดเยี่ยมกับปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่ลีกโปรตุเกส แต่คุมทีมได้เพีง 9 เดือนก่อนที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม 2012 ขณะที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” รั้งอันดับ 5 พรีเมียร์ลีกตามหลัง “จ่าฝูง” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 20 คะแนน แม้จะยังมีลุ้นในฟุตบอลยุโรป รวมทั้งในศึกเอฟเอคัพด้วย โดยเชลซีแต่งตั้ง โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เข้ารับตำแหน่งกุนซือชั่วคราวไปจนหมดฤดูกาล ซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรหลังเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมขากเยอรมันในการดวลจุดโทษ

ซึ่งเป็นสโมสรแรกจากลอนดอนที่คว้าแชมป์ได้ รวมทั้งคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ จากการชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ทำให้ ดิ มัตเตโอ ได้รับสัญญาถาวร แต่ก็ถูกปลดในฤดูกาลต่อมา โดยเป็น ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือสแปนิชเข้ามาคุมทีมชั่วคราว โดยพาทีมคว้ารองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ) หลังแพ้ โครินเธียนส์ สโมสรจากบราซิล 0-1 แต่คว้าแชมป์ยูโรปาลีก ได้เป็นสมัยแรกด้วยการชนะ เบนฟิก้ 2-1 ทำสถิติเป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและยูโรปาลีกสองฤดูกาลติดต่อกัน รวมทั้งเป็นสโมสรที่ 4 ที่คว้าแชมป์ถ้วยหลักของยูฟ่าครบทั้ง 3 รายการ

ฤดูกาล 2013-14 โชเซ่ มูรินโญ่ กลับมาคุมทีมอีกครั้งแม้จะไม่ได้แชมป์อะไรเลยในปีแรก แต่ในปีต่อมาเขาพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ แชมป์ลีก คัพ แต่ฤดูกาล 2015-16 เริ่มต้นด้วยการแพ้อาร์เซน่อล 0-1 ในเกมคอมมิวนิตี้ ชีลด์ และมีผลงานย่ำแย่ทำให้ มูรินโญ่ โดนปลดอีกรอบและเป็น กุส ฮิดดิ้งค์ เข้ามาคุมทีมชั่วคราวอีกครั้ง แต่ผลงานไม่ดีขึ้นจบฤดูกาลเพียงอันดับ 10 ไม่ได้ไปแข่งขันฟุตบอลยุโรป

ฤดูกาล 2016-17 อันโตนีโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนเข้ามาคุมทีม และทำทีมชนะ 13 นัดรวดเป็นสถิติใหม่สโมสรก่อนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้รวมทั้งทำสถิติเป็นทีมแชมป์ที่ชนะ 30 นัดในลีก แต่ในฤดูกาลต่อมาทำได้เพียงรักษาอันดับไปเล่นยูโรปาลีก และแม้จะคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้จากการชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 แต่สุดท้ายคอนเต้ โดนปลดพ้นตำแหน่ง

เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียนเข้ามาคุมทีมต่อ และพาทีมชนะรวดหลายนัดในช่วงแรก ก่อนจะสะดุดในเวลาต่อมารวมทั้งการแพ้บอร์นมัธ 0-4 รวมถึงแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-6 ซึ่งเป็นการแพ้ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกของสโมสร ตามด้วยแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ตกรอบเอฟเอ คัพ และแพ้จุดโทษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดชิงชนะเลิศลีก คัพ แต่ทีมยังจบอันดับ 3 ในลีกและคว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้ด้วยการชนะอาร์เซน่อล 4-1

ฤดูกาล 2019-20 เชลซีไม่สามารถซื้อนักเตะใหม่ตลอดทั้งฤดูกาลเนื่องจากการทำผิดกฏการซื้อขายผู้เล่นเยาวชน แถมต้องเสียผู้เล่นสำคัญทั้ง เอแดน อาซาร์ และ ดาวิด ลุยส์ รวมไป ซาร์รี ลาออกไปคุมยูเวนตุส โดยแฟร้งค์ แลมพาร์ด ตำนานของสโมสรได้เข้ามาคุมทีมแทน แต่จากการที่ไม่สามารถเสริมตัวผู้เล่นได้โทำให้มีผลงานไม่สม่ำเสมอในช่วงแรก ก่อนจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่แพ้ บาเยิร์น มิวนิก สุดท้ายเชลซี จบอันดับ 4 ในลีก และเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ แต่แพ้อาร์เซน่อล 1-2 จากนั้นแลมพาร์ดถูกปลดในเดือนมกราคม 2021 หลังผลงานย่ำแย่ในฤดูกาล 2020-21

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันเข้ามาคุมทีมต่อจากแลมพาร์ด และพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 2 ด้วยการชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 แต่ทำได้เพียงรองแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 จากนั้นในฤดูกาล 2021-22 เชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ด้วยการชนะจุดโทษบียาร์เรอัล จากสเปน ตามด้วยแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2021 ด้วยการเอาชนะ พัลไมรัส จากบราซิล 2-1 ซึ่งถือเป็นแชมป์สมัยแรกในรายการนี้ พวกเขายังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศลีก คัพ แต่แพ้ ลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษ

เดือนมีนาคม 2022  โรมัน อบราโมวิช ออกแถลงการณ์ว่าตัดสินใจขายสโมสรอย่างเป็นทางการ และจะนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากจากการรุกรานของรัสเซีย นอกจากนี้อบราโมวิชยังไม่เอาเงินที่เชลซีติดค้างอยู่จำนวนกว่า 1,500 ล้านปอนด์ด้วย

แต่ในวันที่ 12 มีนาคม รัฐบาลอังกฤษ ประกาศอายัดทรัพย์ทั้งหมดในสหราชอาณาจักร และห้ามทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภท เท่ากับว่ามหาเศรษฐีรัสเซีย จะไม่สามารถขายสโมสรเชลซีได้ ตลอดจนดำเนินการซื้อนักเตะ, ต่อสัญญาผู้เล่นใหม่, จำหน่ายสินค้าที่ระลึก, รวมถึงขายตั๋วใหม่เพิ่ม ไฟเขียวให้แค่คนถือตั๋วปีอยู่แล้วเข้าชมได้เท่านั้น รวมทั้งสั่งห้ามเข้าประเทศ

วันที่ 7 พฤษภาคม สโมสรยืนยันว่า ได้ตกลงขายหุ้นให้แก่กลุ่มนักธุรกิจ บลูโค 22 ลิมิเต็ด (BlueCo 22 Limited) ซึ่งนำโดย ท็อดด์ โบห์ลี่ และ มาร์ก วอลเตอร์ ชาวอเมริกัน รวมถึง ฮานสยอร์ก ไวส์ ชาวสวิส ด้วยมูลค่ากว่า 2,500 ล้านปอนด์ ก่อนที่เชลซีจะเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ได้เป็นฤดูกาลที่สามติดต่อกัน แต่แพ้ลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษไปอีกครั้ง และจบในอันดับที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก

30 พฤษภาคม 2022 เชลซีออกแถลงการณ์ บลูโค 22 ลิมิเต็ด เป็นเจ้าของใหม่อย่างเป็นทางการหลังขั้นตอนในการซื้อขายผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร และพรีเมียร์ลีก และในวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 2022 สโมสรได้ประกาศว่า บรูซ บัค จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสรสรเมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน

หลังจากดำรงตำแหน่งมายาวนานตั้งแต่ ค.ศ. 2003 แต่จะยังรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้แก่สโมสรโดย ท็อดด์ โบห์ลี จะเข้ามาดำรงตำแหน่งต่อควบคู่ไปกับการเป็นเจ้าของทีม ตามมาด้วยการลาออกของบุคคลสำคัญอีกสองรายได้แก่ มารินา กรานอฟสกายา ผู้อำนวยการของสโมสร และ ปีเตอร์ เช็ก ตำนานผู้รักษาประตูของทีมลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคนิคและศักยภาพ

วันที่ 7 กันยายน 2022 ทูเคิ่ล ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม หลังจากทำผลงานย่ำแย่ตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาล 2022-23 โดยรั้งอันดับ 6 ในลีกเก็บได้ 10 คะแนนจาก 6 นัด รวมทั้งแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก โดยวันต่อมาทีมประกาศตั้ง แกรม พ็อตเตอร์ ที่ทำผลงานได้ดีกับไบรท์ตันเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสัญญายาว 5 ปีหรือจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2027

เกียรติประวัติ

แชมป์ลีกสูงสุด (ดิวิชัน1/พรีเมียร์ลีก) (6 สมัย) : 1954-55, 2004-05, 2005-06, 2009-10, 2014-15, 2016-17

แชมป์ดิวิชั่นสอง (2 สมัย) : 1983-84, 1988-89

แชมป์เอฟเอ คัพ (8 สมัย) : 1969-70, 1996-96, 1999-00, 2006-07, 2008-09, 2009-10, 2011-12, 2017-18

แชมป์ลีกคัพ (5 สมัย) : 1964-65, 1997-98, 2004-05, 2006-07, 2014-15

ชนะเลิศคอมมิวนิตีชีลด์ (4 สมัย) : 1955, 2000, 2005, 2009

แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (2 สมัย) : 2011-12, 2020-21

แชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (2 สมัย) : 2012-13, 2018-19

แชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ (2 สมัย) : 1970-71, 1997-98

แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ (2 สมัย) : 1998, 2021

แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ (1 สมัย) : 2021

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.