เผยแพร่: ปรับปรุง:
ศูนย์ข่าวศรีราชา – เคลื่อนไหวไม่หยุด! ทนายความหนุ่มจีนยิงตำรวจสาหัส เตรียมยื่นเรื่องขอยกเลิกคำสั่งเพิกถอนวีซ่าผู้ต้องหาพร้อมกลุ่มเพื่อน หวังได้มีโอกาสหาหลักฐานต่อสู้คดี ยันขณะนี้ทั้งหมดยังถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี
จากเหตุการณ์ นายจาง หยาง หรือลีโอ หนุ่มจีนวัย 35 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภาค 2 ขณะนำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 64/2564 เกี่ยวกับการกระทำความผิด พ.ร.บ.หรืออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เข้าตรวจค้นคฤหาสน์หรูเลขที่ 113/76 ม.9 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่าเกือบ 70 ล้านบาทซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟฟินิกซ์
จนเป็นเหตุให้ ร.ต.อ.พันธ์เทพ ศรีบุญนาค รอง สว.สส.สภ.เมืองพัทยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน ด.ต.กรีฑา ทิพย์เนตร ผบ.หมู่ สส.สภ.เมืองพัทยา ถูกยิงที่ฝ่าเท้า จำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บจนเป็นข่าวโด่งดังในช่วงสัปดาห์ก่อน
และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 3 ข้อหาหนักทั้ง พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนชาวต่างอีก 6 รายที่อาศัยอยู่ภายในคฤหาสน์หรูได้ถูกเพิกถอนวีซ่าทั้งหมดแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความส่วนตัวของนายจาง หยาง ว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาพร้อมเพื่อนชาวจีนทั้งหมดยังถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.บางละมุง หลังถูกเพิกถอนวีซ่า
พร้อมยืนยันอีกว่า ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นภายในคฤหาสน์หรูนั้นกล้องวงจรปิดที่อยู่รอบบ้านอยู่ในสภาพถูกหักกล้องลงพื้นทั้งหมด ส่วนกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพในวันเกิดเหตุไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดไปแล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ
ส่วนความเคลื่อนไหวทางคดีนั้น นายอนิรุจน์ เผยว่า ขณะนี้ทีมงานฝ่ายกฎหมายของ นายจาง หยาง อยู่ระหว่างการทำเรื่องเพื่อขอถอนคำสั่งระงับวีซ่าของกลุ่มชาวจีน หลังจากที่ศาลเมืองพัทยา ได้อนุญาตให้ประกันตัวในคดีต่อสู้ ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานเพื่อให้ผู้ต้องหาได้ออกมาหาหลักฐานในการต่อสู้คดี
“วันนี้นับเป็นวันที่ 10 วันแล้ว นายจาง หยางและกลุ่มเพื่อนชาวจีนได้ถูกควบคุมตัวโดยไม่มีโอกาสได้ออกมาหาหลักฐานในการต่อสู้คดี ขณะที่ญาติของผู้ต้องหาในประเทศจีน ได้มีความพยายามที่จะขอความเป็นธรรมไปยังสถานทูตจีน เพราะคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของชาวจีนเป็นอย่างมาก”
นอกจากนั้น นายอนิรุจน์ ยังได้เปิดเผยถึงทรัพย์สินและสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในคฤหาสน์ว่า ยังไม่ทราบว่ามีอะไรบ้างเนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดมีเพียง นายจาง หยาง คนเดียวเท่านั้นที่รู้รายละเอียด