เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เดินเครื่องทดสอบความพร้อมของสนามกรีฑา ทีโอลิมปิก สเตเดี้ยม ภายในกรุงโตเกียว กันไปแล้ว
ทดสอบครั้งนี้ก็เพื่อดูความพร้อมในระบบต่างๆก่อนการแข่งขันในรูปแบบ “นิวนอร์มัล” จะเกิดขึ้นจริงๆในกีฬาโอลิมปิกเกมส์เดือนก.ค.นี้
ในการทดสอบสนามรายการนี้ มีนักกรีฑากว่า 420 คน จากทั้งญี่ปุ่นเอง และต่างชาติเดินทางมาร่วมทดสอบ หนึ่งในนั้นคือ จัสติน แกตลิน ยอดลมกรดวัย 39 ชาวสหรัฐอเมริกา ที่เป็นเจ้าของเหรียญทองวิ่ง 100 ม.โอลิมปิกเกมส์ ปี 2004
สำหรับกรีฑาในโอลิมปิก เรามีนักกีฬาผ่านควอลิฟายร่วมการแข่งขันแน่นอนแล้ว 1 ราย นั่นก็คือ คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งลูกครึ่งไทย-สหรัฐฯ ซึ่งทำเวลาผ่านเกณฑ์ควอลิฟายในการวิ่ง 10,000 ม. ด้วยเวลา 27.17.14 น. เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ยังเหลืออีกในประเภทลาน ทั้ง ปริญญา เฉือยมะเริง ในเขย่งก้าวกระโดด และสุเบญรัตน์ อินแสง ในกีฬาทุ่มน้ำหนัก
ในรายของ คีริน ตันติเวทย์ หากจะว่ากันตามตรง เจ้าตัวเพิ่งมีโอการับใช้ชาติและลงวิ่งในฐานะนักกรีฑาทีมชาติไทยได้เพียงไม่กี่รายการเท่านั้น โดยหากนับแมตช์ทางการมีแค่ 2 มหกรรมกีฬา นั่นก็คือกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย และกีฬาซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์
“น้อยแต่เพียบด้วยคุณภาพ” หากใช้ประโยคนี้ก็คงไม่ผิด เพราะทั้ง 2 แมตช์ที่เจ้าตัวลงแข่งขัน ผลงานที่เป็นที่น่าประทับใจและตราตรึงติดอยู่ในใจแฟนๆกีฬาไทยสุดๆ
ในเอเชียนเกมส์ 2018 คว้าอันดับ 4 จากการวิ่ง 10,000 ม. ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆกับรายการแรกในทีมชาติ
อย่างไรก็ตามวันเวลาผ่านไป ส้มกลับหล่นอย่างจัง เมื่อคีริน ขยับขึ้นมาคว้าเหรียญทองแดง หลังช่วงปลายเดือนเม.ย.2021 นักวิ่งบาห์เรนเจ้าของเหรียญทองในรายการดังกล่าว ถูกตรวจพบว่าใช้สารต้องห้าม ทำโดนริบเหรียญทองไป นักวิ่งในลำดับถัดมาจึงถูกขยับขึ้นมาแทน
อีกมหกรรมในปี 2019 คว้า 2 เหรียญทอง จากการลงวิ่ง 5,000 ม. และ 10,000 ม. ในกีฬาซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ มหกรรมนี้เจ้าตัวกวาดทั้ง 2 เหรียญทองที่ลงสนาม
โดยแฟนๆกีฬาไทยที่ได้ชมการแข่งขัน ต่างก็มองว่าและก็เชื่อกันว่า “คิรีน” เองคว้าแชมป์ได้ในชนิดที่ยังปล่อยของและความเจ๋งที่มีออกมาไม่หมดซะด้วย
สำหรับ คีริน ปัจจุบันอายุ 24 ปี เริ่มต้นเล่นกรีฑาตามพี่ชาย และเลือกเล่นกรีฑาประเภทลู่ โดยให้เหตุผลงว่าชอบมากกว่าไปวิ่งบนถนน
แน่นอนว่าการได้เรียนและเติบโตขึ้นที่สหรัฐฯ ทำให้ คีริน ได้ซึมซับแนวคิดแบบอเมริกันชน เจ้าตัวเลือกที่จะเล่นกีฬาและเรียนไปพร้อมๆกัน ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีทั้ง 2 อย่าง
โมเมนต์ในกีฬาซีเกมส์ 2019 ที่เจ้าตัวประกาศไม่ขอรับเหรียญรางวัลหลังแข่งขันเสร็จ โดยรีบบินกลับสหรัฐฯเพื่อไปสอบ ก็ถือเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าในชีวิตเรา หากมีเรืองจำเป็นที่ต้องทำ และละทิ้งไม่ได้ ก็จำเป็นต้องทำ เดินหน้าต่อไป หากเพียงแต่ต้องรู้จักบริหารจัดการให้เหมาะสม
หลังจบการศึกษาปริญญาตรี ที่ ม.ฮาวาร์ด คีริน มีเวลามากขึ้น และมีโอกาสโฟกัสกับเกมการวิ่งของตัวเองได้อย่างจริงจังมากขึ้น จนได้เข้ามาร่วมทีม Bowerman Track Club (BTC) ทีมวิ่งซึ่งมีนักวิ่งฝีเท้าจัดจ้าน และถือเป็นทีมดังของพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน
ที่นี่ คีริน ได้พัฒนาความสามารถของตัวเองขึ้นมาอีกระดับ มีโอกาสได้เรียนรู้เทคนิค ได้ซ้อมกับโค้ชที่เก่ง นักวิ่งที่แกร่ง รวมถึงมีโอกาสเดินทางไปฝึกซ้อมบนภูเขาสูงที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 8,200 ฟุต เพื่อเพิ่มความอึดและทนทาน ซึงก็เริ่มเห็นผลในเรื่องสถิติและเวลาที่ดีขึ้นมาของเจ้าตัวด้วย
ปัจจุบัน คีริน อยู่ในช่วงกำลังเตรียมตัว เพื่อเตรียมควอลิฟายลุ้นตั๋วโอลิมปิกอีกใบในระยะ 5,000 ม. ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งเจ้าตัวต้องผ่านเงื่อนไขเวลาควอลิฟาย 13:13.50 น.ให้ได้ (ซีเกมส์ 2019 คีริน วิ่ง 14.31.15 น.)
ส่วนรายการ 10,000 ม. ในโอลิมปิก ซึ่งจะแข่งขันกันวันที่ 30 ก.ค.2021 ก็นับว่าน่าสนใจสุดๆ เพราะรายการนี้ คีริน จะได้ลงวัดฝีเท้ากับสุดยอดนักวิ่ง อย่าง โจซัว เซปเตไก, โรเน็กต์ คิปรูโต้ และ โม ฟาราห์ เจ้าของแชมป์โลก และ 4 เหรียญทองโอลิมปิก
โดยในรายของ โม ฟาราห์ ก็ประกาศตั้งเป้าคว้าเหรียญทอง 10,000 ม. เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันให้ได้ก่อนจะประกาศเลิกเล่น
สำหรับนักกีฬา เหรียญรางวัลโอลิมปิก คือ ฝันสูงสุด ใครก็อยากได้ อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสิ่งที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน คือ เพียงแค่คุณผ่านการคัดเลือกเข้าไปร่วมการแข่งขันโอลิมปิกได้ ถือว่าสุดยอดแล้วนะครับ เพราะอย่างน้อยก็เป็นความภาคภูมิใจของทั้งตัวนักกีฬาและแฟนๆกีฬาที่ได้ชื่อว่าเป็น “นักกีฬาโอลิมปิก”
-นาย ป.-
Add friend ที่ @Siamsport