Thailand Sport Magazine Sponsored
Categories: กรีฑา

ส่องศักยภาพทําเลรามคําแหง Hub ใหญ่แห่งกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก – TERRABKK

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

               หากพูดถึง “รามคำแหง” ภาพจำของใครหลายคนคงนึกถึงย่านอยู่อาศัยที่มีเหล่านักศึกษาจากม.รามอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น แต่จะเห็นได้ว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาทำเลนี้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเป็นพื้นที่ส่วนต่อขยายย่านธุรกิจและการขยายตัวของเมือง (Extended Business District) ฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก จากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสองสายที่กำลังก่อสร้างและหนึ่งสายในอนาคตทำให้เกิดการพัฒนาทั้ง Residential และ Commercial มากมายบนทำเล ด้วยศักยภาพด้านการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในทำเลล้วนตอกย้ำศักยภาพทำเลรามคำแหงในการเป็น Hub แห่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ตะวันออก

ร่างผังเมืองใหม่ที่บ่งบอกศักยภาพการเติบโตของรามคําแหง

               หากมองศักยภาพของทำเลจากความเข้มข้นในการใช้ประโยชน์ที่ดิน “โซนรามคำแหง” ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีการใช้ประโยชน์ของที่ดินอย่างหนาแน่น จากผังเมืองรวมกรุงเทพฯ 2556 รามคำแหงบริเวณแยกลำสาลีและโซนใกล้ๆม.รามคำแหงจัดอยู่ในพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินแบบพาณิชยกรรมสีแดงซึ่งเป็นพื้นที่ย่านธุรกิจที่มีกิจกรรมทางค้าอย่างหนาแน่นและเป็นย่านที่คนคึกคักอยู่ตลอด ส่วนรามคำแหงบริเวณอื่นๆ เป็นพื้นที่สีส้ม ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาซึ่งถูกวางบทบาทให้เป็นพื้นที่ที่รองรับการขยายตัวของประชากรจากย่านเศรษฐกิจสำคัญอย่างสุขุมวิท อโศกและพระราม 9 

               ล่าสุดกับร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 ที่เดิมทีจะมีการประกาศใช้ในปี 2563 แต่ถูกเลื่อนออกไปเพราะสถานการณ์โควิดซึ่งคงต้องรอการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายจึงมีการบังคับใช้ผังเมืองฉบับใหม่ ซึ่งประเด็นสำคัญของผังเมืองรวมฉบับใหม่นี้คือ การปรับพื้นที่การใช้ประโยชน์ของทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันออกอย่างโซนลาดพร้าว, วังทองหลางและคันนายาวจากสีเหลือง(พื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) เป็นสีส้ม(พื้นที่อยู่อาศัยหนาปานกลาง)และปรับ FAR จาก 3 เท่าเป็น 3.5 เท่าให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้มากขึ้น

               ผลจากการที่จะปรับผังเมืองในครั้งนี้ทำให้รามคำแหงโดยเฉพาะพื้นที่ตั้งแต่แยกพระรามเก้า-รามคำแหง-แยกลำสาลีเกิดการพัฒนาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย, Mixed-use project จาก The Mall Group และโครงการที่อยู่อาศัยมากมายที่เกิดขึ้นในทำเลนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของทำเลฝั่งตะวันออกและตอกย้ำศักยภาพของรามคำแหงในการเป็น Hub ใหญ่ของกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก

ศักยภาพการเดินทางที่หลากหลาย เชื่อมต่อเมืองได้อย่างสะดวก

               รามคำแหงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่การเดินทางมีความหลากหลายสามารถเชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองและไปยังพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวก มีถนนเส้นหลักอย่าง “ถนนรามคำแหง” ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญอื่นๆ ได้ เชื่อมกับถนนพระราม 9 และถนนเพชรบุรีเพื่อไปยังย่านธุรกิจสำคัญๆอย่างสุขุมวิท, อโศก, พระราม 9 และเชื่อมต่อไปยังแหล่งรวมไลฟ์สไตล์อย่างย่านทองหล่อ-เอกมัยได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์, ถนนพัฒนาการและถนนกรุงเทพฯกรีฑาเพื่อเชื่อมต่อไปยังทำเลอื่นๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ทางพิเศษศรีรัชเพื่อไปยังย่าน CBD อย่างสีลม-สาทรได้หรือเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ออกนอกเมืองได้ และยังสามารถเดินทางโดยทางเรือในคลองแสนแสบซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางที่ช่วยประหยัดเวลา หลีกหนีรถติดเมื่อต้องเดินทางเข้าย่านอื่นๆ ในเมือง

               การเข้ามาของรถไฟฟ้าได้ตอกย้ำศักยภาพด้านการเดินทางของทำเลนี้ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี ที่มีเส้นทางเชื่อมกรุงเทพฯตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งแบ่งพัฒนาออกเป็น 2 ช่วง ปัจจุบันกำลังก่อสร้างสายตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี โดยก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 81% และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567 ส่วนช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ยังอยู่ในช่วงจัดทำร่างเอกสารรายละเอียดการประมูลฯ (TOR) โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569 นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพทางเหนือแล่นผ่านกรุงเทพฯตะวันออกไปยังกรุงเทพฯทางตอนใต้ ความคืบหน้าปัจจุบันสร้างเสร็จไปกว่า 78% และพร้อมเปิดให้บริการปี 2565 

               และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล(ช่วงแคราย-ลำสาลี) ที่เข้ามาเติมเต็มศักยภาพด้านการเดินทางให้กับทำเลนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งหากรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายแล้วเสร็จจะช่วยยกระดับการเดินทางให้การเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯโซนต่างๆ มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่ง Destination ของการอยู่อาศัยด้วยสิ่งอํานวยความสะดวกล้อมรอบทําเล

               ด้วยคาแรคเตอร์ของย่านรามคำแหงที่เป็นแหล่งอยู่อาศัยหนาแน่นแต่ดั้งเดิมและมีสถาบันศึกษาหลายแห่ง ย่านนี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายล้อมรอบทำเลไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าและไลฟ์สไตล์มอลล์ อาทิ The Mall Ramkhamhaeng, Big C Huamark, Foodland Hua Mak, Makro, Homepro, The Nine Center อีกทั้งยังมีแหล่งช้อปปิ้งตลาดนัดไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่อย่างตลาดนัดกกท.ซึ่งมีของกินของใช้ให้เลือกซื้อมากมาย ล้อมรอบทำเลยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านสินค้าทั่วไปมากมาย เรียกได้ว่าครบครันและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักศึกษาและผู้อยู่อาศัยในทำเลนั้นได้เป็นอย่างดี

               ในย่านนี้ยังเต็มไปด้วยสถาบันศึกษาไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยรามคำแหง, ABAC, มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตย์, โรงเรียนนานาชาติเทร็ลล์, โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี), โรงเรียนสาธิตม.ราม และสถาบันศึกษาอื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งยังรู้สึกปลอดภัยไปกับโรงพยาบาลชั้นนำที่อยู่ในทำเลทั้งโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลแพทย์ปัญญาและโรงพยาบาลวิภาราม

           

               นอกจาก Facilities ขั้นพื้นฐานแล้วทำเลนี้ก็ยังมีแหล่งงานอยู่หลายแห่งอาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย, บุคลากรสถาบันศึกษา, บริษัทโอสถสภา, บริษัทไทยน้ำทิพย์, แอมเวย์ (สำนักงานใหญ่) และ TOYOTA SPI รวมถึงบริษัทขนาดกลาง-เล็กหลากหลายแห่งที่อยู่ในทำเลนี้ อีกทั้งยังมีอาคารสำนักงานในย่านนี้ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 120,000 ตารางเมตร รวมถึงโครงการมิกซ์ยูสอย่างเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9 – รามคำแหงที่มีพื้นที่สำงานรองรับแหล่งงาน และในอนาคตจะมี Mega Project จาก The Mall Group โดยจะเข้ามาปรับโฉมศูนย์การค้าเดอะมอลล์รามคำแหง 2 ให้เปลี่ยนเป็น MIxed-Use Complex บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าหากโครงการนี้แล้วเสร็จจะสร้างแหล่งงานและดึงดูดผู้คนให้เข้ามาทำเลนี้มากยิ่งขึ้น

นอกจากการอยู่อาศัย รามคำแหงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่า ?

               ต้องบอกก่อนว่ารามคำแหงเป็นทำเลที่มีแหล่งงานหลากหลายแห่งในพื้นที่ ซึ่งแหล่งงานที่หลากหลายมาพร้อมกับ Demand มากมายเช่นกัน จากข้อมูลที่ TerraResearch สำรวจพบว่า Demand ขนาดใหญ่ของทำเลนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงประมาณ 133,094 คนและมีนักศึกษาหมุนเวียนเข้ามาปีละประมาณ 30,000 คนรวมถึงบุคลากรจำนวน 3,349 คน อีกทั้งยังมี Potential Demand จากบุคลากรของโรงพยาบาลในย่านนั้นประมาณ 870 คน นอกจากนี้ยังมี Demand จากแหล่งงานในพื้นที่ซึ่งเมื่อดูจากจำนวนพื้นที่อาคารสำนักงานในโซนที่มีประมาณ 120,000 ตารางเมตร ทำให้คาดการณ์จำนวนพนักงานออฟฟิศได้ประมาณ 10,800 คน (คาดการณ์โดยการคิดจากพื้นที่ 1 คนต่อ 10 ตารางเมตรที่อัตราการเช่า 90%) และยังมีแหล่งงานจากสำนักงานของบริษัทอาทิ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) จำนวนพนักงาน 3,308 คน, แอมเวย์ สำนักงานใหญ่จำนวนพนักงานประมาณ 2,000 คน รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย, บจก.ไทยน้ำทิพย์สาขาหัวหมากและ TOYOTA SPI เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่รวมแหล่งงานอื่นๆ อีกมากมายในทำเลที่ไม่มีข้อมูลเปิดเผย 

               จาก Demand ในทำเลรามคำแหงจำนวนมากนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว นอกจากส่งผลดีต่อตลาดที่อยู่อาศัยแบบหอพักและอพาร์ทเมนต์แล้ว ยังส่งผลบวกต่อการลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยอีกหนึ่งทางเลือกของผู้คนในปัจจุบัน

สถานการณ์คอนโดฯ รามคำแหง

               หากย้อนกลับไปดูสถานการณ์ตลาดคอนโดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก เฉลี่ยปีละ 2-3 โครงการเท่านั้น แต่หลังจากที่มีการเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มในปี 2560 ก็มีการพัฒนาคอนโดถึง 5 โครงการ จำนวน Supply ที่เพิ่มถึง 4,060 ยูนิต และในปี 2561-2563 ก็ยังมี Supply เกิดขึ้นเรื่อยๆ ในทำเลนี้ เป็นผลมาจากการสร้างรถไฟฟ้าทั้งสายสีส้มและสายสีเหลืองที่เริ่มก่อสร้างในปี 2562 Supply ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่าผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างก็มองเห็นศักยภาพของการพัฒนาที่ดินในทำเลรามคำแหงนี้เช่นกัน 

               การเติบโตของราคา Presale ในทำเลนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ได้หวือหวามากนัก ซึ่งในช่วงปี 2554-2558 ก่อนที่จะมีการสร้างรถไฟฟ้า ราคาเปิดตัวเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 54,000-59,000 บาท และเมื่อมีข่าวการสร้างรถไฟฟ้าราคากระโดดเพิ่มสูงขึ้นถึง 87,000 บาทต่อตารางเมตร จากนั้นราคาก็อยู่ที่ระดับ 85,000-87,000 บาทต่อตารางเมตร

               แม้ Supply ของคอนโดจะมีเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ถูก Absorp ไปพอสมควร จากโครงการที่ยังเปิดการขายอยู่ในย่านนี้มียอดขายเฉลี่ยไปแล้วกว่า 70% ซึ่งถือว่าคอนโดในย่านนี้ยังเป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยและ ด้วย Demand ในทำเลที่หนาแน่นทั้งจากแหล่งงานในพื้นที่และมหาวิทยาลัยที่มีหมุนเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแม้จะมี Supply ที่เพิ่มขึ้น ทำเลนี้ก็ยังคงมีศักยภาพในด้านการลงทุน

โอกาสในการลงทุนคอนโดฯ รามคำแหง

               คอนโดฯ โซนรามคำแหงสามารถสร้างผลตอบแทน Cap Gain เฉลี่ย 4-6.5% ต่อปี สามารถประกาศขายห้องมือสองราคาเฉลี่ยประมาณ 77,000-113,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนตลาดปล่อยเช่ามีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 320-450 บาท/ตร.ม./เดือน สร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า Rental Yield เฉลี่ย 5-6% ต่อปีะดับค่าเช่าต่อเดือนเฉลี่ย 7,000-14,000 บาท

               ด้วยศักยภาพของทำเลที่เป็น Hub ใหญ่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้พร้อมรองรับการใช้ชีวิตประกอบกับอัตราผลตอบแทนทั้งจากการขายและการปล่อยเช่าที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แม้ Supply ในทำเลจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องแต่จำนวน Demand ในพื้นที่ก็มีอยู่หนาแน่น ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาคอนโดฯ ไว้ลงทุน ทำเลนี้ก็ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย และในอนาคตที่รถไฟฟ้าขยับเข้าสู่วันเปิดให้ใช้บริการ แนวโน้มของราคาขายคอนโดฯ ใหม่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น หากจะหาคอนโดฯ โครงการใหม่ที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดในตอนนี้คงจะหาไม่ได้อีกแล้ว 

               แต่ล่าสุดจะมีโครงการใหม่ THE MUVE RAM22 จากแสนสิริที่เข้ามาในทำเลนี้ เท่าที่ทราบราคาเปิดตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 72,000 บาทต่อตารางเมตรซึ่งถือว่าราคาดีที่สุดในย่านนี้ในตอนนี้ หากใครที่สนใจทั้งในแง่การอยู่อาศัยหรือลงทุน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1685 หรือลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษไว้ก่อนได้ที่ Sansiri Website : http://siri.ly/O5mgQ05 หรือ LINE OA : http://siri.ly/r7Ys185

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.