สหพันธ์กีฬาต่างๆ พากันแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของคณะผู้จัดงานโอลิมปิกที่มีข้อสรุปสั่งห้ามผู้ชมเข้าสนามแข่งขันระหว่างโอลิมปิก โตเกียว เกมส์ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค. รวมถึงไม่ให้รวมตัวในรายการที่จัดบนถนนสาธารณะ เช่น ไตรกีฬาหรือวิ่งมาราธอน แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจว่าญี่ปุ่นจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรุนแรงเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด จนเพิ่งประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองหลวงไปจนจนบการแข่งขัน แถลงการณ์ขององค์กรกรีฑาโลก แถลงว่า นักกีฬาเริ่มคุ้นเคยกับการแข่งขันในสนามกีฬาที่ไม่ได้มีคนหนาแน่น แต่พวกเขาต้องการได้ยินเสียงแฟนๆ ส่งเสียงเชียร์ในโตเกียว ระบุว่า “สิ่งนี้น่าผิดหวังสำหรับทุกคน สำหรับคนในโตเกียวและญี่ปุ่น โอกาสที่จะได้เห็นนักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลกแข่งขันกันแบบนี้ เป็นโอกาสที่มีไม่บ่อยนัก แน่นอนว่า เราจำเป็นต้องรับฟังและปฏิบัติตามการตัดสินใจของแต่ละประเทศ เนื่องจากไวรัสนี้ส่งผลกระทบกับประเทศและภูมิภาคที่แตกต่างกัน และพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลและวิทยาศาสตร์ทั้งหมดได้ สิ่งที่เราทุกคนในวงการกีฬาต้องมุ่งเน้นคือการตัดสินใจอย่างกล้าหาญซึ่งมักจะเป็นเรื่องที่ยาก”
ด้าน ฮูซาอิน อัล-มูซาลลัม ประธานคนใหม่ของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติกล่าวว่าพวกเขาเคยหวังว่าจะได้เห็นสนามกีฬามีคนเข้าสนามไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 แต่ก็เผยว่า “แต่แน่นอนว่าเป็นการตัดสินใจของโตเกียว 2020 และทางการญี่ปุ่น เราหวังว่าจะได้เห็นผู้ชมเข้าร่วมการแข่งขัน”
ส่วนสมาคมกรีฑาของเยอรมนี กล่าวว่าการตัดสินใจของผู้จัดนั้นสมเหตุสมผลและเหมาะสมในแง่ของโรคระบาดใหญ่ว่า “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะต้องไม่เร่งอัตราการติดเชื้อในระดับประเทศ และไม่กลายเป็นงานแพร่กระจายเชื้อระดับโลก”
ด้านบรรดานักกีฬาต่างผิดหวังเช่นที่โอลิมปิกจะไม่มีผู้ชม แต่เคนดรา แฮร์ริสัน เจ้าของสถิติโลกวิ่งข้ามรั้ว 100 เมตรหญิงชาวอเมริกันกล่าวว่าถึงไม่มีแฟนๆ แต่จะไม่สร้างความแตกต่างมากกับการลงชิงเหรียญโอลิมปิกแรกของเธอ
“ในช่วงเวลาระหว่างอยู่ท่ามกลางคนที่เก่งที่สุด คุณไม่ได้กังวลว่าใครอยู่บนอัฒจันทร์ คุณแค่กังวลกับการแข่งขันและพยายามทำให้ดีที่สุด”
อิงมาร์ เดอ วอส ประธานสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ เสียดายที่จะไม่มีผู้ชม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโอลิมปิก ต้องเคารพและเข้าใจการตัดสินใจของทางการ ขณะที่นิค คีร์กอส นักเทนนิสชาวออสเตรเลีย ยืนยันจะไม่ไปแข่งโอลิมปิก เพราะรู้สึกว่าการเล่นโดยไม่มีผู้ชมเลยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง