สมอ. พาทำความรู้จักมาตรฐาน มอก.S พร้อมเยี่ยมชมผู้ประกอบการ จ.เพชรบุรี-สมุทรสาคร

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) พาเยี่ยมชมผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน มอก. เอส จังหวัดเพชรบุรีและสมุทรสาคร พร้อมแนะแนวทางการเติบโตและองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์และงานบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานรับรอง เพื่อสร้างความมั่นใจและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้ในอนาคต

นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า มาตรฐานอุสาหกรรมเอส หรือ มอก.เอส ที่ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งในทางปกติสำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องจะได้มาตรฐาน มอก. แต่สำหรับ มอก.เอส จะเน้นสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs โดยได้แนวคิดมาจากมาตรฐาน ISO มาตรฐานการรับรองเรื่องบริการและผลิตภัณฑ์ ทำให้ มอก.เอส มีทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์และบริการ แต่สำหรับผลิตภัณฑ์จะมีมาตรฐานชุมชน หรือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เป็นผู้ดูแล ทำให้ มอก.เอส จะดูแลในส่วนของบริการมากกว่าผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ มอก.เอส นั้นนอกจากจะได้มาตรฐานให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของตนแล้ว ยังสามารถเกิดการเรียนรู้และพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง สมอ.เอง ในปี 2566 นี้จะเพิ่มมาตรการการคุมเข้มและสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเติบโตและพัฒนาได้อย่างมีคุณภาพ

นอกจากนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่เข้ามาขอมาตรฐาน มอก.เอส นั้น จะถูกแบ่งเป็นโซนภูมิภาค ได้แก่ ภาคอีสานส่วนมากจะเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟ การท่องเที่ยวและโรงแรม ภาคใต้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการและท่องเที่ยว โดยในปัจจุบันมาตรฐาน มอก.เอส จะเข้าไปช่วยส่งเสริมในด้านธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน ปัจจุบันภาคใต้มีผู้ประกอบการยื่นขอมาตรฐาน มอก.เอส มากที่สุด

ทั้งนี้ สมอ. ดำเนินงานตามนโยบายของปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประจำปี 2566 ซึ่งเน้นให้ความสำคัญในการสร้างทัศนคติร่วมกันเพื่อการมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน (Shares Vision) ให้ชุมชนและประชาชนเกิดความเข้าใจอันดีต่อภาคอุตสาหกรรม สะท้อน 4 มิติ ดังนี้ 1.การสร้างความสำเร็จให้ภาคธุรกิจ 2.การดูแลประชาชนโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม 3.การใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อม และ 4.การกระจายรายได้สู่ประชาชน

นอกจากนี้ สมอ. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมผู้ประกอบการทั้งหมด 4 ราย ได้แก่

1.โรงงานหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว โดยบริษัท เอ็มเมอรัลด์ นอนวูเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก่อตั้งและดำเนินกิจการมามากกว่า 20 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการผลิตเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ชุดคลุมผ่าตัด เสื้อคลุมผ่าตัด ชุดคลุมปฏิบัติงานทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ผ้าคลุมโต๊ะเครื่องมือแพทย์สำหรับผ่าตัด ชุดป้องกันภัยส่วนบุคคลของบุคลากรทางการแพทย์ ผ้าห่อเครื่องมือแพทย์ ฯลฯ เป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั่วโลกในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 13485:2016 และ MDD 93/42/EEC บริษัทฯ มีการส่งเสริมการผลิตที่ปลอดภัยถูกกฎหมาย มีมนุษยธรรม และมีจริยธรรม ได้รับการรับรองระดับสากล WRAP Certification, Level: Gold Certificate

บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ยี่ห้อ ENICARE และได้รับใบอนุญาตให้แสดงเครื่องหมายมาตรฐานหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว ระดับการป้องกันระดับที่ 2 ใช้งานด้านการแพทย์ทั่วไป มอก.2424-2562 จาก สมอ. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ซึ่งขณะนี้ยังเป็นมาตรฐานทั่วไป แต่ สมอ.กำลังจะประกาศเป็นมาตรฐานบังคับภายในปี 2566 นี้ ซึ่งบริษัทฯ มีศักยภาพในการผลิตหน้ากากอนามัยให้ได้ตามมาตรฐานและมีความพร้อมในการยื่นขออนุญาต

สำหรับหน้ากากอนามัยของทางบริษัทนั้นถูกผลิตมาเพื่อเป็นหน้ากากอนามัยป้องกันไวรัสที่ได้รับมาตรฐานและถูกวางจำหน่ายในโรงพยาบาลหลายแห่งทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งเดิมทีจะเน้นผลิตและส่งออกต่างประเทศเป็นหลัก แต่ปัจจุบันเริ่มหันมาทำการตลาดในประเทศไทยเพราะต้องการให้เข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้กว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาหน้ากากอนามัยของทางบริษัทฯ นั้นได้รับมาตรฐาน มอก. เลเวล 2 คือ หน้ากากอนามัยที่ใช้ในทางการแพทย์ ทำให้เริ่มทำการตลาดโรงพยาบาลในประเทศไทยและตลาดหน้ากากอนามัยทั่วไปแล้ว ซึ่งสัดส่วนระหว่างการส่งออกต่างประเทศและผลิตจำหน่ายในไทยนั้น ส่งออกจะอยู่ที่ 95% แบ่งเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา 70% ประเทศแถบยุโรป 20% ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย 10% ส่วนในไทยอยู่ที่ 5% และตั้งเป้าการตลาดในไทย 10% ภายใน 1-2 ปี

2. ผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศ บริษัท สำรวยเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบริษัทของคนไทยที่ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนและโครงเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ออกแบบและผลิตสินค้าด้วยช่างผู้ชำนาญงานและเครื่องมือที่ทันสมัย จากการผลิตที่ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ ทำแม่พิมพ์ การฉีดพลาสติกและการประกอบ ด้วยการควบคุมการผลิตอย่างใกล้ชิดและการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ผลิตภัณท์ของบริษัท สำรวยเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จึงตรงกับความต้องการของลูกค้า มีคุณภาพ สวยงาม ทันสมัย และได้มาตรฐานสากล เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนและโครงเครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ Duct Liner และอุปกรณ์ดูแลรักษาความสะอาดเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศชั้นนำต่างๆ ให้การยอมรับ อาทิเช่น CARRIER TRANE EMINENT AMENA YORK STAR AIRE และ TAZAKI เป็นต้น และได้ส่งออกไปต่างประเทศ นอกจากนั้นยังเป็นผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศด้วยกำลังผลิตประมาณ 24,000 เครื่องต่อปี เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ โดยยังไม่ได้ทำตลาดต่างประเทศ

ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตให้แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน มอก.1516-2549 : เครื่องฟอกอากาศ เฉพาะด้านความปลอดภัย จาก สมอ. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งขณะนี้ยังเป็นมาตรฐานทั่วไป และเมื่อ สมอ.ประกาศให้เครื่องฟอกอากาศเป็นมาตรฐานบังคับ ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ทางบริษัทฯ ก็มีความพร้อมในการผลิตเครื่องฟอกอากาศให้ได้ตามมาตรฐาน ที่ สมอ.กำหนด เพราะมีการเตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว

ด้านนายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล ผู้ช่วยบริหารบริษัท สำรวยเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เผยว่า ทางบริษัทฯ มีเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่สามารถกระจายออกซิเจนไอออนบวกและออกซิเจนไอออนลบไปในอากาศได้ ซึ่งออกซิเจนไอออนบวกและลบนั้นสามารถกำจัดไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ รวมถึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้และยังใช้คล้องคอ พกพาได้ง่าย สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือสามารถกำจัดเชื้อโรคที่ไม่สามารถมองเห็นในอากาศบริเวณรอบตัวได้อีกด้วย นอกจากนี้พื้นที่ครอบคลุมการทำงานของผลิตภัณฑ์ คือ รัศมีโดยประมาณ 1 เมตร หรือในรัศมีที่มีลมพัดพาไปได้

จุดเด่นของเครื่องฟอกอากาศพกพา ได้แก่ 1.เป็นแฟชั่นที่ลำสมัย เป็นเครื่องประดับได้ 2.เงียบไร้เสียงรบกวน 3.พกพาสะดวก สบาย 4.ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.ใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยมโพลิเมอร์ สายชาร์จแบบ USB สามารถชาร์จไฟเก็บพลังงานใช้ได้นาน 6.ขนาดกะทัดรัด ง่ายต่อการคล้องคอ สายปรับความยาวได้ 7.สามารถวางที่โต๊ะทำงาน โต๊ะเรียน หรือพื้นที่ทำงานขนาดเล็กได้ และ 8.ผลิตภัณฑ์เพื่อคุณภาพชีวิตและเพื่อความปลอดภัยจากเชื้อโรค เพื่ออากาศที่สะอาดรอบตัว

นอกจากนี้เครื่องฟอกอากาศพกพาของทางบริษัทฯ นั้นมีราคาชิ้นละ 3,000 บาท แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับต่างประเทศที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้จะอยู่ที่ชิ้นละ 18,000 บาท และของประเทศญี่ปุ่นที่มีไอออนลบอย่างเดียวอยู่ที่ชิ้นละ 9,000 บาท ซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศพกพานั้นจะถูกส่งไปยังผู้บริโภคโดยการทำกิจกรรม CSR หรือประชาสัมพันธ์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างอาชีพ ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศพกพาถูกผลิตมาได้ประมาณ 4 ปี ผลิตภัณฑ์สามารถมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 8 ปี แบตเตอรี่ 1 ปี 6 เดือนและสามารถเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตอนนี้ที่ผลิตเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาที่มีทั้งไอออนบวกและลบในเครื่องๆ เดียว อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าหลักในตอนนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีอาการของโรคภูมิแพ้

3.ร้านกาแฟพาขวัญ หัวหิน จ.เพชรบุรี ซึ่งผ่านการรับรอง มอก.เอส เลขที่ ๗๙-๒๕๖๒ โดยทางร้านให้ข้อมูลว่าเปิดร้านในช่วงก่อนรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นร้านที่จำหน่ายทั้งอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบของคาเฟ่ เป็นจุดเช็คอินหัวหินสำหรับนักท่องเที่ยวต่างๆ โดยมีจุดเด่นคือการสร้างหน้าร้านคล้ายกับรถ เพื่อเป็นจุดสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเที่ยวที่หัวหินได้เป็นอย่างดี ส่วนเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลักๆ จะมีอาหารและเครื่องดื่มทั้งไทยและเทศ แต่จะมีความพิเศษคือการใส่ใจในทุกๆ รสชาติและทุกเมนู ทำให้สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี

4.ร้านบาดาลา สปา ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท ซึ่งผ่านการรับรอง มอก.เอส เลขที่ ๒๕-๒๕๖๑ ที่เป็นทั้งโรงแรมและสปาไปพร้อมกัน สปาที่นำเสนอจะเป็น ห้องนวดไทยที่นวดกับพื้น โดยมีทั้งหมด 7 ห้องด้วยกัน ห้องนวดแบบไทยจะสื่อให้เห็นถึงความเป็นไทย ส่วนห้องนวดบนเตียง นวดน้ำมัน จะมีความแตกต่างกันออกไปและให้ความผ่อนคลายที่ต่างกัน รวมไปถึงมีห้อง VIP สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

จากกระแสการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ประเทศไทยจึงมีโอกาสสร้างสถานบริการสปามากมาย โรงแรมที่พักในแหล่งท่องเที่ยวมีการเปิดเป็นสปารีสอร์ทกันจำนวนมาก ปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่มีชื่อเสียงในเรื่องสปา ทั้งนี้เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างที่ลงตัวสอดคล้องกัน ทั้งความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว ภูมิปัญญาพื้นบ้านเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทย สมุนไพรที่หลากหลาย การนวดแผนโบราณ การทำสมาธิ อาหารไทย รวมทั้งการบริการของคนไทยที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มมิตรไมตรี ซึ่งเมื่อนำมาผสมผสานกับการทำสปาแบบสากลทำให้สปาประเทศไทยเป็นที่ยอมรับและชื่นชมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศหรือแม้แต่ชาวไทยด้วยกันเองก็เป็นที่นิยมอย่างมาก เหตุนี้เองร้านบาดาลา สปา จึงเล็งเห็นความสำคัญในธุรกิจสปาและได้ยื่นขอมาตรฐาน มอก.เอส เพื่อการันตีคุณภาพและมาตรฐานที่รองรับให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามโดย สมอ. จะให้ความรู้ด้านมาตรฐานแก่ร้านจำหน่าย เพื่อให้มีความรู้ในการคัดเลือกสินค้าที่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. มาจำหน่ายภายในร้าน โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าควบคุม จำนวน 140 รายการ ซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น เช่น พาวเวอร์แบงค์ อะแด็ปเตอร์ ปลั๊กพ่วง หลอดไฟ ไดร์เป่าผม ของเล่น ผงซักฟอก ภาชนะจานชามเมลามีน ถ่านไฟฉาย ไฟแช็ก เตาปิ้งย่าง ฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร เป็นต้น

สำหรับประชาชนผู้บริโภคที่ต้องการทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้าจากร้าน มอก. สามารถสังเกตร้าน มอก. ได้จากป้ายสัญลักษณ์นี้และสามารถค้นหาร้าน มอก. ได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บแอปพลิเคชั่น shop.tisi.go.th/app เพียงคลิ๊กในช่อง “ค้นหาร้าน มอก.” ระบบจะแสดงข้อมูลสถานที่ตั้งของร้านค้า เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการของร้าน ภาพถ่ายสินค้า รวมถึงพิกัดแผนที่เพื่อนำทางไปยังร้านค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สำหรับร้านจำหน่ายที่สนใจจะสมัครเข้าร่วมโครงการร้าน มอก. จะมีหน้าร้าน หรือเป็นร้านค้าออนไลน์ ก็สามารถสมัครได้ทางแอปพลิเคชั่นนี้ได้เช่นเดียวกัน

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *