Thailand Sport Magazine Sponsored
Categories: กรีฑา

ม่านพม่า รามัญมอญ 2 – ฐานเศรษฐกิจ

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

(ต่อจากตอนที่ 1)

ความสัมพันธ์ระหว่างชนชาติสามเผ่าพันธุ์ ไทย พม่า รามัญนั้นมีจุดเชื่อมโยงกันมานาน เวลานี้ละคร ขุนช้างขุนแผน โดยฝ่ายนางวันทองคนงามกำลังฮิตนัก น่าสงสัยว่าทำไมตัวละครต่างๆ มักมีชื่อ ‘พลาย’ นำหน้า โดยขุนแผน ตอนเด็กชื่อพลายแก้ว พระไวยลูกขุนแผนคนเอก เด็กๆชื่อ พลายงาม และลูกคนรองก็ชื่อพลายชุมพล จนถึงรุ่นหลานลูกพระไวย ชื่อ พลายเพชรพลายบัวพลายยงเปนต้น

อันซึ่งคำว่า “พลาย” นี้ในภาษามอญ แปลว่า “คนหนุ่ม_คนแข็งแรง” อย่างคำว่า ช้างพลายก็คือช้างหนุ่มแข็งแรงนั่นเอง ส่วนคำว่า “ทะแม่ง” เเปลว่าปลาร้า ยามว่าเราบ่นว่าได้กลิ่นอะไรทะแม่งๆ ก็คือกลิ่นปลาร้า ซึ่งบ่งและส่งนิยามความหมายว่า มีเรื่องไม่ใคร่จะชอบมาพากล_ตรงกับฝรั่งว่า I smell something ‘fishy’.

นักปราชญ์ผู้ใหญ่ในอดีตอย่างท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อธิบายเรื่องระบบราชการในสมัยอยุธยาไว้ส่วนหนึ่งว่า กรมที่มีความสำคัญมากๆ กรมหนึ่งในสมัยนั้นก็คือ “กรมอาทมาต” มีหน้าที่ในการสืบราชการลับ “กรมอาทมาตสมัยอยุธยานั้น คงจะมีสายลับอยู่ในประเทศต่างๆ ที่อยู่รอบพระราชอาณาจักร เช่น ลาวเขมร และญวน แต่ราชการสงครามในสมัยนั้นมีอยู่ที่ประเทศพม่าเป็นส่วนใหญ่สายลับของกรมอาทมาตที่จะส่งเข้าไปอยู่ในพม่านั้นหากส่งคนไทยเข้าไปแล้วก็คงจะไม่ได้ผล เพราะคนไทยมีความแตกต่างกับคนพม่าอยู่มากมาย แต่ในเมืองไทยนั้นมีมอญที่ภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทยอยู่มาก มอญนั้นแต่งกายเหมือนพม่า ไว้ผมยาวเช่นเดียวกับพม่า และพูดภาษาพม่าได้เป็นภาษาที่สอง ดีเท่ากับภาษามอญของตนเอง เพราะฉะนั้น เมื่อส่งมอญเข้าไปเป็นสายลับ พม่าก็จับไม่ได้ ”

ว่ากันว่า ขุนไกรพ่อขุนแผนเปนนายด่านชายแดนสุพรรณท่านเปนมอญประเภทอาทมาตนี้ หน้าฉากทำหน้าที่ดูแลควายป่าให้ราชสำนักไทย แต่ลับหลังเปนสายข่าวรายงานความเคลื่อนไหวฝ่ายพม่าให้ทางราชการทราบ อนึ่งว่า อาทมาต กรมซีไอเอ นี้ ในยุคจะสิ้นกรุงศรีฯ มีครูดาบสองมือไปสังกัดมาก เรียกกันว่าพวกอาทมาตดาบสองมือก็มีชวนให้คิดว่าเปนกรมฝีมือดาบ อนึ่ง (อีกที) ว่ามอญแม้ในยุค 2020 นี้ มีการบ่งอัตลักษณ์ความเปนมอญ กล่าวคือโสร่งมอญนั้นจะมีลายขาวพาดขวางเหนือเข่าเสมอ

ตานี้ก็จะไปต่อภาคสองที่ว่าพระมหาอุปราชาขาดคอช้างนั้นเปนได้อย่างไร คราวตะเบงชเวตี้พระเจ้าหงสาวดีบุกกรุงศรีอยุธยารอบแรก ก็เกิดเหตุสลด พระสุริโยทัยขาดคอช้างไปแล้ว โดยรายละเอียดจะยกไว้ไม่ได้กล่าวซ้ำในที่นี้


ประเด็นที่น่าสนใจมีว่า ข้างพม่านั้นตำนานมุขปาฐะกล่าวทำนองว่า พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ทรงรู้สึกสลดที่กีฬากษัตริย์คือการรบพุ่งขยายดินแดน อันเปนหน้าที่กึ่งเกมส์กีฬาของวรรณะนั้น (กีฬา=กรีฑา–,กรีฑาทัพ) เกิดเหตุพิฆาตเอาสตรีเพศผู้อยู่นอกเกมส์การละเล่นของกษัตริย์ โดยการเข้าใจผิดด้วยองค์พระศรีฯปลอมพระองค์เปนชายเข้าร่วมในการยุทธ การผิดกฎการละเล่นดังกล่าวทำให้ทรงล่าถอยไปจากสมรภูมิ เพื่อตั้งท่ารอกลับมาเล่นเกมส์ใหม่ ทั้งที่จะทรงดำเนินการหักหาญเอากรุงศรีอยุธยาต่อให้ม้วนเดียวจบก็ทรงกระทำได้ทันทีนั้นไม่ได้ยากเย็นเลย

ความสามารถในการหักหาญของพระเจ้าหงสาวดีลิ้นดำนี้ กอร์ปด้วยกฎกติกาและแบบธรรมเนียมการทัพโดยเคร่งครัดหลายประการ เช่น ทัพของท่านนั้นเปนทัพกษัตริย์ มีทัพหน้าเปนเจ้าเมืองศักดิ์น้อยกว่าท่านมากล่วงหน้ากรุยทางมา โปรดให้อัญเชิญพระปรมาภิไธย (นำชื่อ) ของท่านมากับทัพหน้า เมื่อจะเหยียบแดนใดให้ประกาศชื่อท่านก่อน ถ้ายอมรับในอำนาจวาสนาบารมี รับเสด็จโดยไว้หน้าท่านแล้ว จะทรงพระกรุณารับไว้เปนข้าแผ่นดินเดียวกัน

เหตุที่เปนเช่นนี้ เพราะ ปรากฏการณ์อย่างความลิ้นดำ หรือลิ้นเปนปานนั้น ฝ่ายอุษาคเนย์นับว่าเปนกฤษฎาภินิหารอย่างหนึ่งโดยธรรมชาติ ยิงไม่เข้าฟันไม่ออก คำรามแล้วจังงัง ฯลฯ สิ่งมีชีวิตที่ลิ้นเปนปาน มีอำนาจลึกลับ เช่น ม้านิลมังกรเขี้ยวเปนเพชร เกล็ดเปนนิล ลิ้นเปนปาน มีความแกล้วกล้า ทรงกำลังบารมีมากกว่าปกติ

หากยังจำกันได้คราวกองกำลังกระเหรี่ยงก็อดส์ อาร์มี่รับบัญชาเด็กเล็กๆสองคนจอนนี่ กับลูเธอร์ บ้าบิ่น บุกยึด สถานเอกอัครราชทูตสหภาพพม่ากลางกรุงเทพฯยี่สิบปีก่อน สถานการณ์กว่าจะคลี่คลายต้องอาศัยตัวประกันชั้นสูงอย่าง รมช. ต่างประเทศ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตรซึ่งทำใจแล้วแต่ถ่วงใจอยู่ เนื่องจากยังไม่ทันกราบบาทลาบิดา พระองค์เจ้าสุขุมาภินันท์ ผู้พ่อ ก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปเปนตัวประกันส่งกลับผู้ก่อการในแดนตรงข้ามพระราชอาณาเขต ผิว่าจะมิได้กลับมาอีก หากจรวดอาร์พีจีรัฐบาลพม่ายุคนั้นพุ่งเข้าใส่ เพื่อกวาดล้างกองกำลังชนกลุ่มน้อยก่อเหตุร้ายนี้ให้ดับสูญกลางเวหา

เดือนถัดๆมาโรงพยาบาลชายแดนที่ราชบุรีก็ตกเปนข่าวและเหตุระทึกขวัญ กองกำลังของเด็กลิ้นดำนี้บุกยึดแพทย์และพยาบาลเปนตัวประกันอีก ซึ่งปลายทางคราวนี้ถูกเก็บกวาดโดย ผู้บัญชาการเหตุการณ์ระดับหมวกเเบเร่ต์แดงของไทยและที่เหลือถูกกวาดต้อนนำส่งกลับก่อนมอบตัวและลี้ภัยไปประเทศที่สาม

เด็กจอนนี่และลูเธอร์นี้เกิดมามีลิ้นดำเปนปาน กะเหรี่ยงจึงยกให้เปนผู้นำโดยธรรมชาติ และยกยอให้บัญชาการการรบได้สิ้น ทว่า cat out of the box สำหรับเรื่องนี้ มีว่า เมื่อเวลาผ่านไปราวยี่สิบปี จอนนี่และลูเธอร์สารภาพกันกับสื่อฝรั่งว่าเรื่องลิ้นดำนั้นไม่ใช่พวกเขา เด็กลิ้นดำเปนอีกคนหนึ่งชื่อ จ่อปา ซึ่งตายตั้งแต่ 5 ขวบ ด้วยวัณโรค! ชะรอยจะมีกลไกเบื้องหลังสวมรอยให้พวกเขาสองพี่น้องเปนเด็กศักดิ์สิทธิ์!!

คราวหนึ่งไปไร่ที่แม่สอด หัวหน้าคนงานที่ทำงานมาแต่สมัยของปู่เปนมอญ ชื่อ ลุงเตียวเยแกมีหมาพรานคู่ตัว ชื่ออะไรไม่แน่ชัด ชั่วแต่ว่าลิ้นของมันเปนปานดำ เขาใช้มันในการจับตัวแลน(ญาติเหี้ย) เวลาตัวแลนหนีขึ้นต้นไม้ หมาลิ้นดำนี้ยืนตะกายโคนต้นไม้เห่าโฮ่งเข้าใส่ สองสามที

ด้วยอำนาจลึกลับนั้น ตัวแลนจะอ่อนเปลี้ยตกจากยอดไม้ลงดินให้ตาล้วนพิฆาตเอาเนื้อบ้องตันโคนหางมาทำกินแก้หิวได้ในทันที ไม่ต้องยิง นี้เปนฤทธิ์ของสิ่งมีชีวิตลิ้นดำ

กลับมาที่พระเจ้าตะเบงชเวตี้เมื่อทรงให้ออกพระนามมากับทัพหน้าแล้ว ปรากฎว่าฝ่ายเมืองกาญจนบุรีตั้งด่านป้องกันเปนสามารถหลายด่าน แต่ไม่อาจทานทัพพม่ารามัญ ครั้นทรงหักเข้าเมืองกาญจนบุรีได้แล้ว เจ้าเมืองยอมตายรักษาเมือง จะทรงเทครัวเอาชาวเมืองกาญจนไปเปนไพร่เปนทาสก็หาไม่ พระราชดำริว่า ให้จับมาฆ่าทิ้งเสียทุกคน ไม่เว้นแก่เด็ก หญิงชาย พระยาพะสิมนายทัพหน้ากลืนน้ำลายเอื๊อก ว่าธรรมเนียมศึกไม่ทำการพิฆาตพลเรือนเช่นนี้ มีแต่พลรบเท่านั้นที่ต้องสมควรแก่โทษการศึก มีพระราชโองการบรรหารตรัสสั่งว่า ข้อนั้นจริงอยู่สำหรับการยุทธนาทั่วไป แต่ครั้งนี้ทรงพระกรุณาให้ทัพหน้าเชิญพระปรมาภิไธยมาบอกกล่าวก่อนแล้วว่าพระเจ้าลิ้นดำจะเสด็จยกทัพกษัตริย์มา ก็หาได้มีชาวกาญจนบุรีผู้ใดไว้พระเกียรติยศตามสมควรไม่ กลับต่อต้านแข็งขืนพระกรุณาธิคุณจักชุบเลี้ยง

หากพระยาพะสิมอดสูนักด้วยการกุดหัวพลเรือนนี้ ก็ให้เปลี่ยนเปนการเผาให้สิ้นทั้งคนทั้งบ้านเรือนชาวเมืองกาญจนบุรีเทอญหาไม่พระยาพะสิมเองจะโดนจับเผาทั้งเป็นฯ กาญจนบุรีเก่า ก็กลายเปนทะเลเพลิงด้วยประการฉะนี้ ทีนี้ว่าหากใครไปเเถวเขาชนไก่ ช่องเขาขาดแล้วก็บ่นว่ามีผีดุ ก็อย่าได้แปลกใจไปเลย

กลับมาด้วยประเด็นการฟันขาดสะพายแล่ง คนเราก็ว่าแหม่ พระแสงง้าว/พระแสงของ้าว ฟันคนขาดทะแยงได้เชียวหรือ ดาบคาตานะยังยากนะติดกระดูกไหปลาร้า ไหนจะว่าพม่าใส่เกราะทองทรงขนนกยูงอีก ฝ่ายพม่านั้นจารึกว่าพระมหาอุปราชมิได้ขาดคอช้าง ทรงโดนกระสุนปืนลอบยิงจากทัพไทยของสมเด็จพระนเรศวรตะหาก

นั่น! ดูแล้วท่าพงศาวดารพม่าจะสมจริงมากกว่าไทย?!? 55 ตานี้ก็สมควรจะพิจารณาให้แยบคายลงไป เทียบเคียงกันสองกรณี หนึ่งคือพระสุริโยทัย ขาดคอช้าง กับสองพระมหาอุปราชาขาดคอช้าง

กรณีหนึ่งนั้น สมเด็จกรมพระยานริศฯ ทรงเฉลยว่า เกราะที่เจ้านายอยุธยาทรงนั้นเปนเกราะอ่อนทำจากหนังสัตว์อานุภาพป้องกันมีน้อย เมื่อพิเคราะห์ตามเฉลยแล้วย่อมได้ว่า ฉะนั้นการที่พระเจ้าแปรฟาดพระแสงง้าวใส่พระองค์ท่านในแนวเฉียงย่อมมีการที่คมพระแสงนั้นถึงพระวรกายเกิดบาดแผลอุฉกรรจ์ ถึงพระชนม์ชีพได้ ยิ่งช้างพระที่นั่งถูกงัดได้ล่างแล้วยิ่งเพิ่มกำลังการฟันฟาดเข้าไปใหญ่

ในขณะที่หากกรณีสอง พระมหาอุปราชาทรงเกราะมยุระโลหะขนนกยูงแล้ว พระแสงง้าวชื่อว่าเจ้าพระยาเเสนพลพ่ายของสมเด็จพระนเรศวรฟาดพระวรกายแนวดิ่ง พระแสงนั้นย่อมไถลลื่นไปตามระเบียบเกล็ดนกยูงมุงไว้อย่างหลังคาบ้านแป้นเกล็ดต้องพายุสายฝนฉะนั้น จึงโอกาสจะทำลายล้างถึงเลือดเนื้อย่อมเปนไปได้ยาก ทว่า สำนักมวยไชยามวยไทยโบราณของท่าน อ.เขตร์ ศรียาภัย สืบวิชากันมามีกลบทมวยอันหนึ่งชื่อว่า ทางมวย ‘อุปราชขาดคอช้าง’ เปนท่ามวยโบราณสอนกันมาร้อยๆปี

กล่าวคือ ในขณะที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงเพลี่ยงพล้ำ ถูกพระแสงง้าวพระมหาอุปราชฟาดฟันเข้าใส่ ทรงเอี้ยวพระองค์หลบเห พระแสงนั้นฟาดถูกพระมาลาที่เบี่ยงหลบเปนแผลขาดลิ (อันขนานนามกันต่อมาว่า พระมาลาเบี่ยง) ในจังหวะเบี่ยงต่ำลงนั้นเองทรงใช้กลบทพิชัยยุทธคชกรรมช้างไทย ‘ย้อนเกล็ดนาคราช’ ทรงตลบพระแสงง้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่ายฟันสอดสะพายใต้เเล่งพระพาหาของพระมหาอุปราชาย้อนเกร็ดเกราะนกยูงทองสวนขึ้นพระอุระ คมพระแสงง้าวเลาะเข้าใต้เกล็ดโลหะมยุรา วาดขึ้นทะแยงมุม คร่าเอาดวงพระวิญญาณสมเด็จพระมหาอุปราชเสด็จข้ามภพจบชาติได้ต่างหาก ข้อนี้จึงเปนเหตุเปนผลเจือสมแก่เหตุนิติเวชกรรมพิสูจน์บาดแผลในการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีประจักษ์พยานมาให้ปากคำได้แน่ชัด

กฤษดาภินิหารของกษัตราธิราชสองฝ่ายนี้ ‘ถึงลือ’ กันมานาน เเละเปนปรากฏการณ์อย่างว่า ขนานคู่ parallel sacrament ของบรรพชนสองฝ่ายที่มีบุพกรรมต่อกัน ทัพพระเจ้าตะเบงชเวตี้ยกมาสมัย พระเจ้าตาของสมเด็จพระนเรศวร เสียพระสุริโยทัย สมเด็จยายของพระนเรศฯ ทัพพระนเรศฯ พิฆาตพระมหาอุปราชามังสามเกียด หลานตาพระเจ้าตะเบงชเวตี้ ในสามเจนเนอเรชั่นถัดมา กลกลืนกันฉะนี้

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17 ฉบับที่ 3,691 วันที่ 27 – 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564   

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.