ฟุตบอลชายในโตเกียวเกมส์ – สยามกีฬา

วันพรุ่งนี้ฟุตบอลชายโอลิมปิกก็จะเริ่มฟาดแข้งกันแล้วนะครับ

    ก็เหมือนมหกรรมกีฬาทั่วๆ ไปในยุคหลังนั่นล่ะครับ ฟุตบอลและกีฬาอื่นบางชนิดจะทำการแข่งขันกันก่อนพิธีเปิด เหตุผลเข้าใจได้ไม่ยากเพื่อให้ได้บทสรุปกันทันพิธีปิด ง่ายๆ แค่นั้นเอง

    ฟุตบอลชายมีเตะกันตั้งแต่คู่แรกยันคู่สุดท้ายรวมทั้งสิ้น 32 แมตช์ ระยะเวลาของโอลิมปิก โตเกียว 2020 คือ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคม ถ้ารอเตะกันหลังพิธีเปิดอาจจะวุ่นวายและแออัดเกินไป

    กระนั้นกับโอลิมปิกครั้งนี้ฟุตบอลชายก็เตะกันก่อนพิธีเปิดแค่วันเดียวเท่านั้นเอง ไม่เหมือนรายการอื่นๆ บางทีเตะกันก่อน 2-3 วันหรือเป็นสัปดาห์ก็มี อย่างเอเชียน เกมส์ ครั้งล่าสุดที่อินโดนีเซียเมื่อปี 2018 ฟุตบอลชายเตะกันก่อนพิธีเปิดตั้ง 8 วันนู่นแน่ะ

    ด้วยบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อความสนุกเท่าไหร่ทำให้หลายคนแทบจะไม่สนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันศุกร์นี้โอลิมปิกก็จะเปิดฉากขึ้นแล้ว

    อันที่จริงในความหมายของมัน โอลิมปิกคือมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเราแล้ว

    หลายคนไม่ได้อินกับโอลิมปิก เทียบกับฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปแล้วยังน่าตื่นเต้นน้อยกว่า แต่แน่นอนฟุตบอลคือกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งทว่ากับโอลิมปิกมันมีความอลังการตรงที่เป็นศูนย์รวมของกีฬาทุกประเภทบนโลก สี่ปีมาวัดกันสักครั้งว่าใครคือสุดยอดหรือที่สุดในกีฬาประเภทต่างๆ

    ใครจะเป็นมนุษย์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ใครจะเป็นสตรีที่ว่ายน้ำเร็วที่สุดในโลก ใครจะกระโดดได้สูงที่สุด พุ่งแหลนได้ไกลที่สุด หรือตีปิงปองได้ดีที่สุด

    นี่คือความหมายของโอลิมปิก ซึ่งในภาพกว้างมันใหญ่กว่าฟุตบอลโลก แต่ถ้าเจาะจงลงไปถึงเฉพาะกีฬาฟุตบอลก็ต้องยอมหลีกทางให้ฟุตบอลโลกเพราะโอลิมปิกจำกัดอายุนักฟุตบอลอีกทั้งไม่ใช่กีฬาที่เป็นไฮไลต์ คือไม่ได้โดดเด่นกว่ากรีฑาหรือว่ายน้ำ

    กระนั้นฟุตบอลในโอลิมปิกก็ใช่ว่าจะไม่น่าติดตาม เมื่อถึงเวลาเตะกันจริงๆ ความสนใจก็จะมากขึ้นเองเพียงแต่เทียบความคึกคักที่จะได้รับชมโอลิมปิกกับครั้งก่อนๆ แล้วต้องยอมรับว่าปีนี้เงียบเหงาเหลือเกินจนน่าสงสารญี่ปุ่นเจ้าภาพ

    ทบทวนให้ทราบกันอีกทีสำหรับฟุตบอลชายในโอลิมปิก โตเกียว 2020 นี้มีทีมเข้าร่วมทั้งสิ้น 16 ทีมนะครับ เป็นตัวแทน 16 ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกจากสหพันธ์ฟุตบอลแต่ละทวีป
ทวีปยุโรป 4 ทีม – ฝรั่งเศส เยอรมัน โรมาเนีย สเปน
ทวีปเอเชีย 3 ทีม – ออสเตรเลีย ซาอุดิอาระเบีย เกาหลีใต้
ทวีปแอฟริกา 3 ทีม – อียิปต์ ไอวอรีโคสต์ แอฟริกาใต้
ทวีปอเมริกาใต้ 2 ทีม – อาร์เจนติน่า บราซิล
ทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน 2 ทีม – ฮอสดูรัส เม็กซิโก
ทวีปโอเชียเนีย 1 ทีม – นิวซีแลนด์
และเจ้าภาพ 1 ทีม – ญี่ปุ่น

    กติกาเรื่องนักเตะก็ยังเหมือนเดิมคือแต่ละทีมสามารถเรียกนักฟุตบอลอายุเกินได้ 3 คนเพียงแต่ปรับฐานอายุจากเดิมไม่เกิน 23 ปีเป็นไม่เกิน 24 ปีเพราะตัวทัวร์นาเม้นต์เลื่อนมาจากปีที่แล้ว

    จำนวนนักเตะในตอนแรกกำหนดไว้ 18 คนแต่ปรับเพิ่มให้เป็น 22 คนเผื่อไว้ให้แต่ละทีมในกรณีที่มีปัญหาเรื่องโควิด-19 เกือบทุกทีมส่งรายชื่อผู้เล่นครบโควต้า 22 คนมีเพียงเยอรมันที่คุมทีมโดย สเตฟาน คุนท์ซ ส่งรายชื่อแค่ 19 คนเท่านั้นเอง

    กระนั้นทีมอินทรีเหล็กน้อยของไอ้ตำรวจก็เรียกนักเตะอายุเกินมาครบ 3 คนทั้ง มักซ์ ครูเซ่ กองหน้าจากไมนซ์ มักซิมิเลียน อาร์โนลด์ กองกลางจากโวล์ฟสบวร์ก และ นาดีม อมิรี่ กองกลางจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งต่างก็มีดีกรีเคยเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วทั้งนั้น พ่วงด้วย เบนจามิน เฮนริชส์ กองหลังจากแอร์เบ ไลป์ซิก อีกคน

    สำหรับฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์สั้นๆ เตะเต็มที่แค่ 6 นัด คุนท์ซอาจจะมองว่าหนีบไป 19 คนก็พอ ก็คงต้องรอดูว่าเยอรมันจะไปได้ไกลแค่ไหนล่ะครับ

    หลายทีมเรียกนักเตะอายุเกินมาเต็มโควต้าทั้งนั้น บราซิลนำโดย ดานี่ อัลเวส ฝรั่งเศสใช้งาน ฟลอเรียง โตแว็ง กับ อองเดร-ปิแอร์ ชีญัก ส่วนไอวอรี่โคสต์มีทั้ง เอริก ไบยี่ และ ฟร้องก์ เกสซิเย่

    เกาหลีใต้ใช้นักเตะในประเทศเป็นหลัก มีเพียง 2 คนที่ค้าแข้งในยุโรปคือ ฮวาง อุย-โจ กองหน้าจากบอร์กโดซ์ และ อี คัง-อิน กองกลางจากบาเลนเซีย

    ญี่ปุ่นคู่รักคู่แค้นมี มายะ โยชิดะ อดีตปราการหลังเซาธ์แฮมป์ตันจากซามพ์โดเรีย, ฮิโรกิ ซากาอิ กองหลังจากอูราวะ เร้ด ไดมอนด์ส และ วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางจากสตุ๊ตการ์ท เป็นนักเตะอายุเกิน แต่ด้วยความที่ขุนพลแดนซามูไรกระจายกันไปเล่นในยุโรปจนล้นทะลักแถมยังเล่นในฐานะเจ้าภาพ ทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสึ กุนซือทีมชาติชุดใหญ่ที่ลงมาคุมทัพเองจึงระดมพลจากยุโรปกลับมาเล่นถึง 9 คน

    ทาเคฟุสะ คุโบะ, โคจิ มิโยชิ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, ยูตะ นากายามะ รวมทั้ง ริตสุ โดอัน จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นที่โชว์ฟอร์มสะเด่าเหลือเกินในการยืมตัวที่ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ฤดูกาลที่ผ่านมา

    นอกจากนี้นักเตะจากเจลีกของเจ้าภาพก็ยังมีน่าจับตามองอีกหลายคนเลยนะครับ ยูกิ โซมะ จากนาโกย่า แกรมปัส เอจ ไดเซน มาเอดะ กองหน้าจากโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เรียว ฮาตาเตะ ฟูลแบ๊กจากคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ อาโอะ ทานากะ กองกลางจากฟรอนตาเล่ อายาเสะ อุเอดะ กองหน้าจากคาชิม่า แอนท์เลอร์ส และคนที่เปรี้ยงปร้างมากจนจ่อจะไปยุโรปเต็มทีอย่าง คาโอรุ มิโตมะ แห่งฟรอนตาเล่

    ใครที่ได้ติดตามเจลีกอยู่ตลอด (ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโดยสยามสปอร์ต) ก็คงจะได้เห็นผลงานของพวกเขาเหล่านี้นะครับว่าโดดเด่นขนาดไหนและก็อดตื่นเต้นแทนไม่ได้เหมือนกัน

    ที่น่าสนใจมากๆ ก็คือสเปนเพราะไม่เพียงขนนักเตะอายุเกินครบสามคน มาร์โก อาเซนซิโอ, มิเกล เมริโน่ และ ดานี่ เซบายอส เท่านั้นแต่ยังเรียกนักเตะที่เพิ่งเล่นให้ทีมกระทิงดุในยูโร 2020 มาลุยโอลิมปิกต่ออีกถึง 6 คนทั้ง เปา ตอร์เรส, มิเกล โอยาร์ซาบัล, อูไน ซิมอน, ดานี่ โอลโม่, เปดรี และ เอริค การ์เซีย

    ดูจากภาพรวมอย่างนี้แล้วสเปนดูพร้อมที่สุดเพราะตัวยูโรทั้ง 6 คือตัวหลักในทีมชุดนี้แน่นอน เพราะฉะนั้นมาตรฐานของทีมกระทิงดุในโตเกียว 2020 คือมาตรฐานระดับทีมชาติชุดใหญ่กลายๆ

    บราซิลแชมป์เก่านั้นนอกจาก ดานี่ อัลเวส แล้ว ยังมี ริชาร์ลิซอน, ดั๊กลาส ลุยซ์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่เป็นแข้งดังมีชื่อเสียงสักหน่อย ที่เหลือแม้จะเคยติดชุดใหญ่หลายคนแต่ก็ไม่ได้เป็นสตาร์ที่แฟนบอลได้ยินชื่อแล้วอ้าปากค้างเท่าไหร่ อาร์เจนติน่า กับ ฝรั่งเศส เองก็เช่นกันที่การเรียกตัวดูจะไม่ได้เน้นสัมฤทธิผลมากนักเมื่อเทียบกับสเปนหรือญี่ปุ่น

    แอฟริกาใต้ โรมาเนีย ออสเตรเลีย เรียกนักเตะอายุเกินมาแค่ทีมละคน ฮอนดูรัส กับ นิวซีแลนด์ ทีมละ 2 คน ขณะที่ อียิปต์ แม้จะเรียกเต็มพิกัด 3 คนแต่ขาดหัวใจหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์

รูปแบบการแข่งขันไม่ซับซ้อนครับ 16 ทีมแบ่งเป็น 4 กลุ่มๆ ละ 4 ทีมเตะแบบพบกันหมดคัดเอาอันดับ 1 กับ 2 ของแต่ละกลุ่มเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
กลุ่มเอ – ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ เม็กซิโก ฝรั่งเศส
กลุ่มบี – นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ฮอนดูรัส โรมาเนีย
กลุ่มซี – อียิปต์ สเปน อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย
กลุ่มดี – บราซิล เยอรมัน ไอวอรี่โคสต์ ซาอุดิอาระเบีย

    มองข้ามช็อตไปในรอบน็อกเอ๊าต์ สายบนแชมป์กลุ่มเอเจอกับรองแชมป์กลุ่มบี และแชมป์กลุ่มซีเจอกับรองแชมป์กลุ่มดี ส่วนสายล่างแชมป์กลุ่มบีเจอกับรองแชมป์กลุ่มเอ และแชมป์กลุ่มดีเจอกับรองแชมป์กลุ่มซี

    เดาผลดูเล่นๆ แต่ละคนจะออกมาอย่างไรกันครับ สำหรับผมออกมาเป็น สายบน ญี่ปุ่น พบ โรมาเนีย และ สเปน พบ เยอรมัน ส่วนสายล่าง เกาหลีใต้ พบ ฝรั่งเศส และ บราซิล พบ อาร์เจนติน่า

รอบรองชนะเลิศ ญี่ปุ่น เจอ สเปน และ เกาหลีใต้ เจอ บราซิล
นัดชิงชนะเลิศ สเปน เจอ บราซิล
แชมป์ สเปน

    ลองเดาผลกันสนุกๆ ครับ แล้วมาดูผลลัพธ์ว่าพวกเราจะแม่นเหมือนเทพ ไมเคิ่ล โอเว่น ไหม เห็นว่าสร้างชื่อไว้เยอะเลยนี่ครับในยูโรที่ผ่านมา

ตังกุย