บิ๊กต้อม หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดทำศึกโตเกียว 2020 ย้ำสมาคมกีฬา นักกีฬา ต้องระมัดระวังตัวเอง ช่วงโค้งสุดท้าย ชี้หากตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงของการแข่งขันเท่ากับว่าจะหมดสิทธิ์ร่วมชิงชัยทันที
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
บิ๊กต้อม – ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.ค. – 8 ส.ค. 64 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ออกมายืนยันจำนวนนักกีฬาไทยที่ผ่านควอลิฟายเข้าร่วมโตเกียว 2020 อย่างเป็นทางการว่า มีทั้งสิ้น 42 คน ซึ่งในรายของ สุเบญรัตน์ อินแสง นักกีฬาขว้างจักรหญิง คือนักกีฬาไทยที่คว้าโควตาร่วมแข่งขันได้เป็นคนสุดท้าย ทันก่อนเดดไลน์การส่งรายชื่อให้เจ้าภาพ เมื่อ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายธนา ยังเผยอีกว่า ตนเตรียมจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในคืนวันที่ 10 ก.ค.นี้ เพื่อร่วมประชุมหัวหน้าคณะนักกีฬาของแต่ละชาติ รวมถึงทำการยืนยันรายชื่อและรายละเอียดต่างๆ ทั้งรายชื่อ ตัวสะกด เพศของนักกีฬา อีเวนต์ที่ลงแข่งขัน เพื่อจัดทำป้ายชื่อติดหน้าอกและไอดีการ์ดของนักกีฬาทุกทีม
“เหลือเวลาอีกไม่กี่วันการแข่งขันก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ผมเองได้ย้ำและกำชับกับนักกีฬา รวมถึงสมาคมกีฬาให้ระมัดระวังตัวเองมากที่สุด อย่าให้ตัวเองติดเชื้อโควิด-19 หรือกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะหากตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว นักกีฬาจะเสียโอกาสสำคัญ คือ พลาดลงสนามแข่งขันไปเลย เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ รวมถึงช่วงเดินทางไปแข่งขัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องระมัดระวังตัวเองเพื่อไม่ให้ได้รับความเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19”
“ส่วนโอกาสคว้าเหรียญรางวัล ผมมองว่าเราน่าจะมีอย่างน้อย 1 เหรียญทอง จากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ กลุ่มกีฬาที่เป็นความหวัง ก็คือ เทควันโด มวยสากลสมัครเล่น กอล์ฟ แบดมินตัน และยิงเป้าบิน ก็เชื่อว่าโตเกียว 2020 ทัพนักกีฬาของไทยมีศักยภาพพอที่จะหยิบเหรียญรางวัลติดมือมาฝากแฟนๆกีฬาไทยแน่นอน”
สำหรับรายชื่อนักกีฬาไทยที่ผ่านเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ทั้ง 42 คน 15 ชนิดกีฬา มีดังนี้ ยิงเป้าบิน 3 คน ประกอบไปด้วย เศวต เศรษฐาภรณ์ (แทร็ปชาย), สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (สกีตหญิง) และ อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (สกีตหญิง), เรือใบ 1 คน กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เลเซอร์ เรเดียลหญิง), วินด์เซิร์ฟ 2 คน ศิริพร แก้วดวงงาม (อาร์เอสเอ็กซ์หญิง) และ ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ (อาร์เอสเอ็กซ์ชาย), จักรยาน 2 คน จุฑาธิป มณีพันธุ์ (ประเภทถนนหญิง) และ ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร (บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งหญิง), ยิงปืน 3 คน อิศรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร (ปืนสั้นยิงเร็ว 25 เมตรชาย), ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ปืนสั้นสตรี 25 เมตรหญิง) และ ธันยพร พฤกษากร (ปืนสั้นสตรี 25 เมตรหญิง)
ขี่ม้าประเภททีมอีเวนท์ติ้ง 3 คน อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์, กรธวัช สำราญ และ วีรภัฎ ปิฏกานนท์, เทควันโด 2 คน พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง) และ รามณรงค์ เสวกวิหารี (รุ่น 58 กิโลกรัมชาย), มวยสากลสมัครเล่น 5 คน ใบสน มณีก้อน (รุ่น 69 กิโลกรัมหญิง), ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (รุ่น 52 กิโลกรัมชาย), สุดาพร สีสอนดี (รุ่น 60 กิโลกรัมหญิง), ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (รุ่น 57 กิโลกรัมชาย) และ จุฑามาศ จิตรพงศ์ (รุ่น 51 กิโลกรัมหญิง), กรีฑา 2 คน คีริน ตันติเวทย์ (วิ่ง 10,000 เมตรชาย) และ สุเบญรัตน์ อินแสง (ขว้างจักรหญิง), เทเบิลเทนนิส
2 คน สุธาสินี เสวตรบุตร (หญิงเดี่ยว) และ อรวรรณ พาระนัง (หญิงเดี่ยว), เรือพาย 3 คน อรสา เที่ยงกระโทก (เรือแคนู 1 คนหญิง ระยะ 200 เมตร), และ ศิวกร วงศ์พิณ กับ นวมินทร์ ดีน้อย (เรือกรรเชียง 2 ชายพายคู่ รุ่นไลท์เวท)
แบดมินตัน 7 คน รัชนก อินทนนท์ (หญิงเดี่ยว), บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ (หญิงเดี่ยว), กันตภณ หวังเจริญ (ชายเดี่ยว), จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ รวินดา ประจงใจ (หญิงคู่) และ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (คู่ผสม), ยูโด 1 คน กชกร วรสีหะ (รุ่น 52 กิโลกรัมหญิง), กอลฟ์ 4 คน กัญจน์ เจริญกุล (กอล์ฟชาย), อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (กอล์ฟชาย), เอรียา จุฑานุกาล (กอล์ฟหญิง) และ ปภังกร ธวัชธนกิจ (กอล์ฟหญิง), ว่ายน้ำ 2 คน เจนจิรา ศรีสอาด (ฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง) และ นวพรรษ วงค์เจริญ (ผีเสื้อ 200 เมตรชาย)